จุดสตาร์ท 1,700

ทันทีที่ดัชนีเดินหน้าบวกเป็นวันที่ 3 ก็ทำให้ต่อมเผือกของ “โมนิก้า” สั่นระริกระรี้ผิดปกติขึ้นมาอีกครั้ง


*ทันทีที่ดัชนีเดินหน้าบวกเป็นวันที่ 3 ก็ทำให้ต่อมเผือกของ “โมนิก้า” สั่นระริกระรี้ผิดปกติขึ้นมาอีกครั้ง เพราะมันเป็นสัญญาณที่บอกให้รู้ว่า ตลาดหุ้นไทยน่าจะเคลื่อนตัวออกจากจุดสตาร์ทอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นเรื่องที่เดี๊ยนถวิลหาเป็นเวลานานหลายเดือน และในที่สุดก็ใกล้จะเป็นจริงเสียที หลังดัชนีขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 1,698.40 จุด บวกไป 8.66 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 9.79 หมื่นล้านบาทแล้วน่ะซี

*โดยเฉพาะเรื่องราวที่ทุกคนรับรู้กันเป็นอย่างดีว่า การยืนเหนือระดับแนวต้าน 1,700 จุด คือจุดพลิกเกมที่สำคัญของการเล่นในเที่ยวนี้ “โมนิก้า” ถึงเชื่ออย่างสนิทใจว่า การทดสอบแนวต้านตรงนี้เป็นครั้งที่ 3 ย่อมนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน ผนวกกับปัจจัยภายนอกก็คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ย่อมเป็นแรงหนุนให้นักลงทุนสถาบันเข้ามาไล่หุ้นอีกรอบ จึงกลายเป็นจังหวะของ follow buy อย่างสบายใจเฉิบนะจ๊ะ

*ถึงกระนั้นก็มีหนึ่งเรื่องที่ทำให้ “โมนิก้า” ไม่ค่อยสบายใจอยู่ดี เพราะพฤติกรรม “ปากว่า ตาขยิบ” ของพวกกองทุน กลายเป็นเรื่องที่ต้องพึงระวังไม่ใช่น้อย และที่ผ่านมาก็เห็นกันเต็มตาว่า เมื่อเกิดอะไรบางอย่างขึ้นมาปุ๊บ นักลงทุนกลุ่มนี้ก็พร้อมจะสาดหุ้นทิ้งอย่างไม่ปรานี ซึ่งเป็นพฤติกรรมปกติที่แมงเม่าต้องเรียนรู้ไว้บ้าง! เพราะในโลกของการลงทุน ก็ไม่มีอะไรแน่นอนสักอย่างพะยะค่ะ

*เช่นเดียวกับ “วันชื่น คืนสุข” ของหุ้นพี่เทพ PTTEP ก็เกิดขึ้นแค่เดือนเดียวเท่านั้น ต่อจากนั้นก็เริ่มเสียทรงไปตามราคาน้ำมันโลกที่อ่อนตัวลง “โมนิก้า” จึงอยากให้แฟนคลับประเมินการย่อตัวลงมายืนอยู่ที่ 148 บาท ลบไป 2.50 บาท หรือลงไป 1.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.26 พันล้านบาท พร้อมกับทิศทางแกว่งตัวลงแบบนี้ เหมาะต่อการสวมวิญญาณเป็นชาวสวนมากน้อยขนาดไหน?..ตัวคุณเองเท่านั้นที่รู้เจ้าค่ะ

*คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้น TIDLOR ก็ไต่เพดานขึ้นมายืนเหนือ 40 บาทได้ไม่ทันไร ล่าสุดก็ลงมากองอยู่ที่ 38.50 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 1.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.12 พันล้านบาทเสียแล้ว “โมนิก้า” เลยเกิดอาการ “งงในงง” ขึ้นมาทันที เพราะบรรยากาศการลงทุนก็เป็นใจให้สุด ๆ แต่หุ้นดันมีอาการเครื่องน็อคกลางอากาศเสียฉิบ จึงไม่รู้ว่า จะหวังอะไรจากหุ้นตัวนี้ได้อีกหรือเปล่า? หลังมีอาการ “นกกระจอกยังไม่ทันกินน้ำ” บ่อยเหลือเกิน..อิอิอิ

*ส่วนรายที่ชอบทำให้เสียวแล้วจากไปอย่างหุ้น THREL กลายเป็นช็อตเด็ดของคนที่ชอบลุย เพราะในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาก็เล่นเร็วแบบนี้มาโดยตลอด แถมกรอบเล่นด้านบน และกรอบเล่นด้านล่าง ก็ตายตัวอยู่ที่ระดับ 4.50-5.50 บาท “โมนิก้า” จึงอยากถามแฟนคลับว่า การยืนปิดที่ระดับ 5.10 บาท ลบไป 0.75 บาท หรือลงไป 12.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 262 ล้านบาท มันต่างจากเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น 2 ครั้งก่อนหน้านี้หรือเปล่า?

*ตรงกันข้ามกับในรายของ CSS อย่างสิ้นเชิง เพราะเที่ยวนี้ขึ้นมาด้วยโปรเจกต์ที่อัดแน่นเต็มกระเป๋า “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับมองการปิดที่ระดับ 2.40 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 2.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 370 ล้านบาท แถมเป็นการเทรดบน PE 11 เท่า โดยที่หุ้นถูกวางตัวให้เป็นโกรทสต๊อกอีกครั้งแบบนี้ มันน่าลองเสี่ยงดูสักตั้งหรือเปล่า? และถ้าคิดจะเล่นจริง ๆ ก็ห้ามอิดออดอะไรทั้งสิ้นนะจ๊ะ

*เช่นเดียวกับคนที่คิดจะเล่นกับตัวแซ่บอย่างหุ้น PSG ก็ต้องเข้าใจมูฟเมนต์ “ขึ้น ๆ ลง ๆ” ในระหว่างที่รอกำไรมาอย่างเป็นทางการ มันเป็นเรื่องปกติของหุ้นที่มาพร้อมกับคำว่า “เทิร์นอะราวด์” “โมนิก้า” จึงเข้าใจเหตุผลที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดในระดับ 1.15 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 18.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 412 ล้านบาท เพราะมันเป็นการเริ่มต้นรอบใหม่อย่างเป็นทางการ หุ้นถึงพุ่งปรู๊ดปร๊าดไงล่ะคะ

*ส่วนรายที่อยู่ในช่วงของการพลิกโฉมครั้งใหญ่อย่าง OTO ก็เป็นช็อตที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบดูอะไรยาว ๆ แต่ในขณะเดียวกันก็เปิดช่องให้เคาะสั้น เพื่อช่วยบรรเทาความเหงาไปพลาง ๆ “โมนิก้า” จึงอยากถามแฟนคลับว่า การยืนปิดที่ระดับ14.30 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 2.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่แน่นขนัดในระดับ 169 ล้านบาทแบบนี้ น่าตามไปดูขนาดไหน? แต่สำหรับเดี๊ยนมองว่า ยังเชื่อมั่นในฝีมือ เสี่ย.อ ซึ่งเป็นคนดันให้บริษัทมาไกลขนาดนี้นะคะ

Back to top button