ICHI ยังไม่ตัน.!?

ถือว่ายังเติบโตได้ดีท่ามกลางวิกฤตโควิดสำหรับ ICHI ที่โชว์งบปี 64 มีกำไรสุทธิ 546 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.1% จากปี 63 ที่มีกำไรสุทธิ 515 ล้านบาท


คุณค่าบริษัท

ถือว่ายังเติบโตได้ดีท่ามกลางวิกฤตโควิดสำหรับบริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI ที่โชว์งบปี 2564 มีกำไรสุทธิ 546 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.1% จากปี 2563 ที่มีกำไรสุทธิ 515 ล้านบาท

หลัก ๆ มาจากรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5,228 ล้านบาท โดยเฉพาะยอดขายในประเทศที่เพิ่มขึ้น 13.2% จากกลุ่มสินค้าใหม่ ส่วนยอดขายต่างประเทศลดลง 37.4% รวมทั้งการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทลูกเพิ่มขึ้นเป็น 59 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2563 ซึ่งอยู่ที่ 28 ล้านบาท

ขณะที่ต้นทุนทางการเงินลดลงจากปี 2563 อยู่ที่ 13 ล้านบาท เหลือ 2 ล้านบาท ในปี 2564 เนื่องจากมีการชำระคืนเงินกู้ระยะยาวจากสถาบันการเงินตั้งแต่ต้นปี 2564

สำหรับปี 2565 ผู้บริหารมั่นใจจะเติบโตต่อ ภายใต้กลยุทธ์ “3N” ซึ่งประกอบด้วย New Product, New Market และ New Business เพื่อสนับสนุนการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต  โดยในปีนี้วางเป้าหมายรายได้รวมไว้ที่ระดับ 6,500 ล้านบาท เติบโต 24% จากปีก่อน ซึ่งแบ่งเป็นยอดขายสินค้าในกลุ่มเครื่องดื่มประเภทชาเขียวพร้อมดื่ม ประมาณกว่า 5,000 ล้านบาท ยอดขายสินค้าในกลุ่มเครื่องดื่ม Non-Tea ประมาณ 540 ล้านบาท ยอดขายจากการส่งออก ประมาณ 750 ล้านบาท และรายได้จากการ OEM ประมาณ 150 ล้านบาท

ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/2565 จะเติบโตขึ้นประมาณ 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโตขึ้นจากไตรมาสก่อน ตามภาวะตลาดที่ฟื้นตัว รวมทั้งภาครัฐมีการออกมาตรการกระตุ้นการบริโภคในประเทศ ประกอบกับบริษัทได้จัดแคมเปญบุกตลาด Traditional Trade ต่อเนื่อง

ส่วนไตรมาส 2/2565 จะมีการ Collaboration กับบริษัทอาหารยักษ์ใหญ่ระดับโลก ออกสินค้าร่วมกันในเดือน พ.ค.นี้ ขณะที่กลุ่มเครื่องดื่ม Non-Tea จะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกมามากขึ้น ได้แก่ สินค้ากลุ่มเครื่องดื่มผสมสารกัญชง (CBD) พร้อมวางเป้าหมายยอดขายในปีนี้ไว้ที่ 200 ล้านบาท และสินค้าใหม่กลุ่มเครื่องดื่มอัดก๊าซ (CSD) และออกสินค้ากลุ่มไบเล่ โดยวางเป้าหมายยอดขายในปีนี้ไว้ที่ 100 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทเตรียมเซ็นสัญญากับลูกค้า OEM ใหม่ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ เพิ่มอีก 2 ราย จะเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 2/2565 เป็นต้นไป ซึ่งสนับสนุนให้อัตราการใช้กำลังการผลิตสูงขึ้น ทำให้เกิดการประหยัดต่อขนาด (Economy of scale) มากขึ้น

ด้าน บล.ฟิลลิป ประเมินอัตรากำไรขั้นต้นของ ICHI แบบอนุรักษ์นิยม ทรงตัวจากปีก่อน แต่ด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด จึงปรับกำไรสุทธิทั้งปีขึ้นเป็น 665 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.7% จากปีก่อน

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น ICHI ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 28.06 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 19.50  เท่า ถือว่าราคาซื้อขายสูงกว่าตลาด แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าดู P/BV ที่ระดับ 2.48 เท่า ก็อาจสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ส่วนใหญ่ P/BV จะอยู่ที่ระดับ 1–2 เท่า โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 14.40 บาท จากราคาต่ำสุด 13.40 บาท และราคาสูงสุด 15.00 บาท

รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่

  1. นายตัน ภาสกรนที 360,639,600 หุ้น 27.74%
  2. นางอิง ภาสกรนที 60,000,000 หุ้น 4.62%
  3. ด.ญ.ใกล้นที ภาสกรนที 60,000,000 หุ้น 4.62%
  4. นายภาสกร ภาสกรนที 60,000,000 หุ้น 4.62%
  5. นายจารุวร สุขพันธุ์ถาวร 58,707,700 หุ้น 4.52%

รายชื่อกรรมการ

  1. พล.อ.ต.ณัฐวรรธน์ นิมมลธนากรณ์ ประธานกรรมการบริษัท, กรรมการอิสระ, ประธานกรรมการตรวจสอบ
  2. นายตัน ภาสกรนที ประธานกรรมการบริหาร, กรรมการผู้อำนวยการ, กรรมการ
  3. นายวิโรจน์ สุภาสูรย์ กรรมการ
  4. นายธนพันธุ์ คงนันทะ กรรมการ
  5. น.ส.อารยา พานิชายุนนท์ กรรมการ
  6. นายธิติ จิรนนท์กาล กรรมการ
  7. นายประสาน ลิ้มพิพัฒนกุล กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ
  8. นายอิสสระชัย เดชาฤทธิ์ กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ

Back to top button