เปิดพอร์ต ‘เซียนฮง’ ถือหุ้น 8 บจ.กว่า 7 พันล้าน

ในแวดวงตลาดหุ้นไทยชื่อ "เซียนฮง" หรือ "สถาพร งามเรืองพงศ์" นับว่ามีอิทธิพลต่อตลาดอย่างมาก


เส้นทางนักลงทุน

ในแวดวงตลาดหุ้นไทยชื่อ “เซียนฮง” หรือ “สถาพร งามเรืองพงศ์” นับว่ามีอิทธิพลต่อตลาดอย่างมาก เพราะเมื่อใดที่มีชื่อ “เซียนฮง” เข้าถือหุ้นบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไหน ราคาหุ้นของบริษัทนั้น ๆ จะพุ่งทะยานขานรับการเข้าถือหุ้นของ “เซียนฮง” ทันที

“เซียนฮง” นับเป็นนักลงทุนรายใหญ่ในตลาดหุ้น เป็นนักเล่นหุ้นผู้มากประสบการณ์ และประสบความสำเร็จด้วยการสร้างพอร์ตหุ้นจากหลักแสนสู่หลักสิบล้านภายในระยะเวลาไม่กี่ปี โดยในปัจจุบันนี้พอร์ตของ ”เซียนฮง” ขยายใหญ่เป็นหลักหลายพันล้านบาททีเดียว

ทั้งนี้จากข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ที่แสดงข้อมูลผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่มีสัดส่วนการถือครองติด 10 อันดับแรก พบว่า “เซียนฮง” เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน บจ.รวมทั้งสิ้น 8 บริษัท ปัจจุบัน (ณ 28 มี.ค. 2565) มีมูลค่ารวมกว่า 7.65 พันล้านบาทแล้ว ประกอบด้วย บมจ.ดิทโต้ (ประเทศไทย) (DITTO) จำนวน 24,391,100 หุ้น สัดส่วนถือหุ้น 5.57%, บมจ.ลานนารีซอร์สเซส (LANNA) จำนวน 19,954,200 หุ้น สัดส่วนถือหุ้น 3.80%, บมจ.ไมโครลิสซิ่ง (MICRO) จำนวน 29,572,300 หุ้น สัดส่วนถือหุ้น 3.16%

นอกจากนี้ ยังถือหุ้น บมจ.ศักดิ์สยามลิสซิ่ง (SAK) จำนวน 12,374,500 หุ้น สัดส่วนถือหุ้น 0.59%, บมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) จำนวน 22,736,700 หุ้น สัดส่วนถือหุ้น 2.80%, บมจ.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP) จำนวน 43,651,000 หุ้น สัดส่วนถือหุ้น 4.55%, บมจ.ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (TIPH) จำนวน 16,485,400 หุ้น สัดส่วนถือหุ้น 2.77%, บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) จำนวน 70,741,900 หุ้น สัดส่วนถือหุ้น 3.88%

โดยหุ้นที่สร้างมูลค่าให้ “เซียนฮง” สูงสุด 3 อันดับแรก  ได้แก่ MICRO ที่มีมูลค่าสูงถึง 2,129.20 ล้านบาท รองลงมาคือ SINGER มีมูลค่า 1,126.41 ล้านบาท และ DITTO มูลค่า 1,493.95 ล้านบาท

สำหรับ DITTO ถือเป็นหุ้นตัวล่าสุดที่ “เซียนฮง” เข้าซื้อเพิ่มเติมอีกจำนวน 2.58 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 0.5868% ที่ระดับราคา 51 บาท ซึ่งเป็นราคาสูงสุดในช่วง 90 วันที่ผ่านมา โดยเข้าซื้อเมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา จากเดิมที่ถือหุ้นอยู่ 4.96% แต่แค่มีชื่อ “เซียนฮง” ปรากฏออกมา ราคาหุ้น DITTO ก็พุ่งทะยานขึ้นไปแบบกู่ไม่กลับ ทั้ง ๆ ที่ถูก ตลท.ใช้มาตรการดับร้อนจับขังระดับ 3 ห้ามสมาชิกคำนวณวงเงินหุ้นตัวนั้น ห้ามหักกลบค่าซื้อและค่าขายในวันเดียวกัน (Net Settlement) และต้องซื้อด้วยเงินสด (Cash Balance) ทั้ง 100% มีผลตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค.-12 เม.ย. 2565  โดยราคาหุ้น DITTO พุ่งแรงจากแถว ๆ กว่า 20 บาท ทะลุ 60 บาท หรือพุ่งขึ้นมากกว่า 120% ภายในระยะเวลาไม่ถึง 2 เดือน

“เซียนฮง” ได้สมญานามว่า “เซียนหุ้นอัจฉริยะ” ได้เริ่มตัดสินใจศึกษาอย่างจริงจัง และเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ปลายปี 2547 จากที่มีเพื่อนลงทุนแล้วได้กำไร ซึ่งในช่วงปี 2546-2547 ตลาดหุ้นไทยถือเป็นช่วงขาขึ้น ซึ่งขณะนั้นนักลงทุนส่วนใหญ่จะมีอายุ “เซียนฮง” จึงเป็นนักลงทุนรุ่นใหม่ที่มีอายุน้อยในยุคนั้น

แน่นอนว่าการเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นช่วงแรก ๆ ของนักลงทุนมือใหม่ ย่อมต้องลังเล กล้า ๆ กลัว ๆ และหาหลักการลงทุนไม่ถูก ทำให้ไม่กล้าที่จะลงทุนเต็มตัว

“เซียนฮง” เคยผันตัวเองออกไปทำอาชีพขายตรง หลังไม่มั่นใจว่าตลาดหุ้นจะสร้างฝันด้วยการสร้างผลตอบแทนเป็นกอบเป็นกำให้กับตัวเองได้ แต่สุดท้ายเมื่ออาชีพขายตรงไม่ประสบความสำเร็จ จึงย้อนกลับมาเป็นนักลงทุนอย่างจริง ๆ จัง ๆ มากขึ้น

“เซียนฮง” เคยให้สัมภาษณ์สื่อหลายสำนักว่า ด้วยความเชื่อและความอดทน ประกอบกับการใช้เครื่องมือที่ถูกต้องและลงทุนยาวนานเพียงพอ ตลอดจนการใช้หลักการ หรือ ทฤษฎีของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ และ ปีเตอร์ ลินซ์ นักลงทุนผู้โด่งดังซึ่งประสบความสำเร็จในการบริหารเงินก้อนโตเป็นแนวทางจึงทำให้มี “เซียนฮง” ในวันนี้

อย่างไรก็ตามในอดีต “เซียนฮง” ก็เคยผิดพลาดขาดทุนจนมูลค่าพอร์ตจาก 75 ล้านบาท หดหายเหลือเพียง 32 ล้านบาทมาแล้ว แต่ก็ไม่ถอดใจและลงไปศึกษาข้อมูลมากขึ้น

 ชื่อของ “เซียนฮง – สถาพร งามเรืองพงศ์” นับเป็นชื่อที่ขายได้ แค่มีกระแสข่าวกระเส็นกระสายว่าจะเข้าลงทุนหุ้นตัวไหน นักลงทุนก็จะเข้าไปลงทุนตาม แต่นักลงทุนทั้งหลายอย่าลืมว่า “เวลาขาย” “เซียนฮง” ไม่ได้บอกใคร ดังนั้น นักลงทุนอาจจะซื้อตามได้ แต่ก็ต้อง “ขายให้ทัน” เช่นกัน

Back to top button