เมษาหน้าโง่?

*ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับวันโกหก (1 เม.ย.) หรือที่เรารู้จักกันในนาม “เมษาหน้าโง่” ซึ่งเป็นวันที่มีแต่เรื่องเฟคนิวส์ตลอดทั้งวัน แต่รู้หรือไม่ว่า เดือนนี้ก็ยังมีเรื่องหลอกลวงให้เห็นกันตลอดเวลา โดยเฉพาะท่าทีตลบตะแลงของประเทศมหาอำนาจอย่างอเมริกา ก็ทำให้ทั่วโลกเห็นสันดานดิบมากขึ้นเรื่อย ๆ แถมหุ้นค้าอาวุธของอเมริกาก็พุ่งเอา..พุ่งเอา จึงเป็นเรื่องที่ย้อนแย้งกับท่าทีของผู้นำเฒ่าอย่างเห็นได้ชัดนะคะ

*ว่ากันว่า ความยุ่งเหยิงของโลกในทุกวันนี้เกิดจากความจุ้นจ้านของผู้นำโลก ซึ่งมาพร้อมกับความอิจฉาตาร้อนที่เห็นประเทศคู่แข่งที่เป็นมหาอำนาจแซงหน้าในเรื่องต่าง ๆ จึงเสี้ยมให้พรรคพวกของตัวเองร่วมแบนอย่างหนักหน่วงในช่วงที่ผ่านมา แต่ตอนนี้แนวร่วมบางรายเริ่มไม่เห็นด้วยกับวิธีการดังกล่าว เพราะตัวเองโดนกระทบหนักจากการเออออห่อหมกไปทุกเรื่อง “โมนิก้า” ถึงสงสัยว่า ใครยังหน้าโง่เชื่อผู้นำเฒ่าอีกไหม..อิอิอิ

*เหมือนกับเรื่องการเมืองไทยที่แต่ละคนบอกเป็นอิสระ ไม่ได้ขึ้นกับพรรคใด! และอยู่ใต้อาณัติใคร! “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องน้ำเน่าที่ฟังทีไร ก็เป็นเสนียดหูทุกที จึงอย่าทำตัวเป็นอีแอบกันอีกเลย เพราะแค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ว่า ลือเป็นเด็กในคาถาของใคร? โดยเฉพาะคำพูดพล่อย ๆ ที่หลุดออกจากปาก “โทนี” เจ้าของพรรคที่สู้ไปกราบไปในทำนองว่า ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมของพรรค เดี๊ยนฟังปุ๊บ น้ำแทบพุ่ง..ถุย..ถุย.ถุย เพราะยังจำคำพูดที่ว่า เสียงปืนดังขึ้นเมื่อไหร่..กลับมาร่วมสู้กับพี่น้องทันที..จำได้บ่!

*ประเด็นดังกล่าวคล้ายกับการลงทุนในตลาดหุ้น ซึ่งทั่วโลกยังถูกกดดันจากอิทธิพลของดัชนีดาวโจนส์ และยังต้องเผชิญกับปัญหาเงินเฟ้อเล่นงานเศรษฐกิจอีกดอกแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นหนังเรื่องยาวที่ต้องดูไปทีละช็อต เพราะคงมีปรากฏการณ์แปลก ๆ และแหกตาให้เห็นเป็นระลอก เพราะวันนี้เป็นเวลาของโฆษณาชวนเชื่อแบบจัดเต็มที่ ซึ่งจะมีทั้งเรื่องที่เป็น “จริง” และ “ไม่จริง” ปะปนกันไปพะยะค่ะ

*เม้าท์ถึงประเด็นนี้ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ก็อยากรู้เหมือนกันว่า รอบนี้ใครจะเป็นคนตีโง่ให้กับหุ้นสุดฮอตอย่าง TEAMG เพราะการทะยานขึ้นมาปิดที่ 6.60 บาท บวกไป 0.85 บาท หรือขึ้นไป 14.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.18 พันล้านบาท มันเป็นการฉีกกฎการลงทุนทุกอย่าง (แค่บิ๊กล็อตของ “ธีระชัย รัตนกมลพร” ทำให้หุ้นเปลี่ยนโฉมทันทีเลยเหรอ) และคิดได้อย่างเดียวคือ รอบนี้ต้องมีอินไซด์อะไรบางอย่าง? หุ้นถึงขึ้นสวนภาวะแบบบ้าดีเดือด จนแมงเม่าได้แต่ร้องครางหือ..หือ กันเป็นแถวเลยแม๊!

*ดุเดือดไม่แพ้กันคงมองไปที่หุ้น SVOA หลังเจ้ามือไล่ราคาพรวดเดียวขึ้นมาปิดที่ระดับ 3.80 บาท บวกไป 0.46 บาท หรือขึ้นไป 13.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.30 พันล้านบาท พร้อมกับปล่อยสตอรี่กำไรโตสองปีติด จึงอนุมานได้ว่า เที่ยวนี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน หลังราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาใกล้ราคาเป้าหมาย 4.20 บาท ขณะที่ราคาเทรดวันนี้ก็อยู่แค่ PE 22 เท่า จึงกลายเป็นช็อตวัดใจเกมนี้จะยาวแค่ไหน? เพราะสูงไปกว่านี้ต้องถาม “ลุงแจ๊ค” แล้วละค่ะ

*อีกรายที่ต้องตามดูอย่างใกล้ชิด หลังโชว์ความร้อนแรงสามวันติด จนเมื่อวันศุกร์หุ้น MSC ทะยานขึ้นไปเปิดไฮของวันที่ระดับ 12.50 บาท ก่อนจะโดนทุบลงไปกองอยู่ที่ 9.35 บาท แต่สุดท้ายดันกลับขึ้นมาปิดที่ระดับ 12.60 บาท บวกไป 2.60 บาท หรือขึ้นไป 26% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 249 ล้านบาท “โมนิก้า” เลยขอเดาอาการที่เกิดขึ้นในลักษณะนี้ว่า ใกล้จบเกม? จึงขอเตือนด้วยความหวังดีว่า ใครอยากเล่นต่อ..ก็ต้องทำใจล่วงหน้า เพราะหลายปีดีดักหุ้นไม่เคยหวือหวาขนาดนี้ จู่ ๆ วิ่งขึ้นเหมือนมีเจ้ามือคุมเกมแบบนี้..เกมมันจะยาวจริงเหรอ?

*ในเมื่อมาแนวที่มีบางอย่างอยู่เบื้องหลัง “โมนิก้า” ก็อยากให้นักเล่นเข้าใจเกมหุ้นที่มีขาใหญ่คอยกำกับอย่าง BE8 สักนิดหนึ่งว่า ช่วงแรกมักเป็นเวลาที่หวานฉ่ำเหมือนดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ แต่หลังจากนั้นอาจไม่เป็นเหมือนกับสิ่งที่คิด ซึ่งเห็นได้จากหุ้นที่ เซียน.ฮ เริ่มปฏิบัติการถอนตัวออกมาปุ๊บ ต่อจากนั้นหุ้นก็ดูไม่ได้เลยสักอย่าง จึงอยากให้ขาลุยคิดกันเองว่า การยืนปิดที่ 41.50 บาท บวกไป 3 บาท หรือขึ้นไป 7.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 308 ล้านบาท จะเป็นเหมือนกับที่เดาเล่น ๆ อ๊ะป่าว?

*ตบท้ายกันที่หุ้นฉาวแห่งปีอย่าง GSC กันสักหน่อยดีกว่า เพราะที่ผ่านมาก็รู้กันอย่างถ่องแท้ว่า โหล่ยโท่ยสุด ๆ แถมการบริหารงานก็โกงกินหนักจนโดน ก.ล.ต. เชือดผู้บริหารทิ้งไป 7 คน “โมนิก้า” เลยไม่เชื่อว่า หุ้นตัวนี้จะกลับมาแบบสวยงาม และการก้าวขึ้นมานั่งหัวโต๊ะของน้องหญิง “ปุณ” ก็ไม่ได้ทำอีฉันรู้สึกอินแม้แต่นิดเดียว เพราะเขาเม้าท์กันให้แซ่ดว่า มีซัมติงบางอย่าง และเดี๊ยนก็ไม่ได้หน้าโง่แบบไม่ลืมหูลืมตานะ..หุ..หุ.หุ!