พาราสาวะถี
ตั้งเป้าไว้ว่าจะนำพาโควิด-19 เข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่นในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ คงต้องถามย้ำกับ อนุทิน ชาญวีรกูล
ตั้งเป้าไว้ว่าจะนำพาโควิด-19 เข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่นในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ คงต้องถามย้ำกับ อนุทิน ชาญวีรกูล ที่คุมกระทรวงคุณหมอ และทีมงานหมอการเมืองทั้งหลายให้ชัด ๆ อีกที ยืนยันตามนั้นใช่หรือไม่ หลังจากที่ขณะนี้มีประเด็นวัคซีนที่ฉีดกันไป 3-4 เข็มอาจจะไปเข้าข้างไวรัสที่โพนทะนาว่าจะช่วยป้องกันป่วยหนัก ลดการตาย จะกลายเป็นเรื่องตรงข้าม เช่นเดียวกันกับโควิดพันธุ์ผสมของโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.1 กับ BA.2 เป็นสายพันธุ์ XE, XG, XH จนถึงกระทั่งถึง XJ
โดยที่ในประเทศไทยนั้นพบสายพันธุ์ XE แล้ว 1 ราย และอยู่ระหว่างรอข้อมูลยืนยันอีกว่าจะเป็นสายพันธุ์ XJ อีกหนึ่งรายหรือไม่ เหล่านี้ที่ต้องลุ้นกันคือ การแพร่ระบาดที่รวดเร็วจนทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อเอาไม่หยุดฉุดไม่อยู่เวลานี้แล้ว ความรุนแรงของโรคจะตามมาด้วยหรือไม่ ยิ่งอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะเข้าสู่ช่วงเวลาหยุดยาวกับเทศกาลสงกรานต์ ถ้าไม่ประกาศหรือเตือนอะไรให้เป็นเรื่องเป็นราว เอาแต่ยกฉากทัศน์มาอ้างว่าหากประชาชนการ์ดตกจะได้เห็นตัวเลขป่วยวันละแสนรายนั้น ระวังมันจะสะเทือนกันทั้งรัฐบาล
เป็นธรรมดาของคนที่ก็รู้อยู่ว่ามีนิสัยแบบไหน จึงไม่แปลกที่จะมีคลิปเสียงของผู้ที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจมอบหมายให้ไปแก้ไขปัญหาหวยราคาแพง พูดคุยกันถึงเรื่องจะจัดสรรโควต้าลอตเตอรี่ให้หลังจากเข้าไปสางปัญหาแล้วเสร็จ ก่อนที่จะมีการแถลงข่าวไปแจ้งความดำเนินคดีกับคนที่อัดคลิปเสียง และตามสูตรก็บอกว่ามีการตัดต่อเสียง สิ่งที่คุยแค่เป็นการล้อกันเล่น ต้องไปถามท่านผู้นำว่ารู้สึกขำกับสิ่งที่จอมเชลียร์ปล่อยมุกแบบนี้หรือไม่
ที่แน่ ๆ ท่วงทำนองแบบนี้ไม่น่าจะส่งผลดีต่อพรรคที่ตัวเองอุตส่าห์กระโดดไปเป็นผู้แผ้วถางทางรอผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ ร่วมกับหัวขบวนของม็อบนกหวีด เพราะเท่ากับว่าการมอบหมายให้ไปทำภารกิจที่สำคัญโดยหวังว่าจะไปกระชากหน้ากาก หรืออาจจะกระทบชิ่งไปถึงคนที่เป็นหอกข้างแคร่จนเสียรังวัดทางการเมือง แต่กลับเป็นว่าที่ทำกันไปเพื่อหวังที่จะกอบโกย หาเศษหาเลยเพื่อต่อยอดทำทุนกันทางการเมืองหรือเปล่า พวกที่เคยเย้ว ๆ ชวนคนจากพรรคสืบทอดอำนาจมาร่วมงานคงต้องเขกกบาลตัวเอง
ส่วนพรรคสืบทอดอำนาจหลังจากจัดประชุมใหญ่ โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารและตำแหน่งใด ๆ มีเพียง สันติ พร้อมพัฒน์ ซึ่งที่ประชุมมีมติรับรองให้นั่งเป็นเลขาธิการพรรคอย่างเป็นทางการ นั่นเท่ากับว่า การข่าวที่พยายามปล่อยออกมาก่อนหน้าผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจจะส่งสายตรงไปบริหารจัดการร่วมกับพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ก็ไม่เกิดขึ้น มิหนำซ้ำ คนใกล้ชิดที่ดึงมาจากประชาธิปัตย์อย่าง พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค ก็ไม่ได้เก้าอี้ใด ๆ จนต้องยื่นหนังสือไขก๊อกจากความเป็นสมาชิกพรรค ยิ่งน่าสนใจหนักเข้าไปอีก
หมายความว่าพรรคสืบทอดอำนาจยังอยู่ภายใต้อาณัติของพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ชอตต่อไปก็ต้องมาติดตามบรรดาสายตรงของท่านผู้นำจะทำตัวกันอย่างไร เพราะพี่ใหญ่ประกาศชัดนับจากนี้ไปห้ามใครมาก่อกวน สร้างความปั่นป่วนภายในพรรคอีก ส่วนน้องเล็กหากยังทำตัวน่ารักไม่คิดที่จะแปรพักตร์หรือปีนเกลียวกับพี่ ก็ยังคงมีไมตรีดีต่อกันจนกว่าจะตายกันไปข้าง แต่เลือกตั้งครั้งหน้าขอประเมินก่อนว่ากระแสดีพอที่จะชงชื่อให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคหรือไม่
ใครที่ได้ฟังคำประกาศกร้าวของสันติที่ว่าจะนำพาพรรคสืบทอดอำนาจกวาดเก้าอี้ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งหน้าไม่น้อยกว่า 150 ที่นั่ง คงตาค้าง ตะลึงพรึงเพริศ อะไรทำให้มั่นใจขนาดนั้น แต่ก็นั่นละ การเมืองเมื่อกระโดดขึ้นขี่หลังเสือแล้ว จะมาทำท่าเจียมเนื้อเจียมตัวเจี๋ยมเจี้ยมไม่ได้ ต้องวางกล้ามให้ใหญ่โตไว้ก่อน สิ่งสำคัญคือ คอยดูร่างกฎหมายลูกสองฉบับที่กำลังพิจารณากันอยู่เวลานี้ หลังจากที่โชว์พลังเรื่องบัตรเบอร์เดียวคนละเบอร์ไปแล้ว ต่อไปก็ถึงคิวเก้าอี้ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์จะหารด้วย 100 หรือ 500
เมื่อปลดล็อกปมส.ส.แบบจัดสรรปันส่วนผสม ที่จะทำให้ตัวเองไม่ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อเหมือนที่เพื่อไทยเคยโดนมาแล้วจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ถ้าเป็นไปตามที่สันติประกาศ นั่นก็หมายความว่า สูตรคำนวณส.ส.รอบนี้ พรรคสืบทอดอำนาจย่อมรวมหัวกับพวกที่จะจับมือกันหลังเลือกตั้ง ทำให้การคิดคำนวณไม่ไปสร้างคะแนนแบบแลนด์สไลด์ให้กับอีกฝั่งอย่างแน่นอน อยู่ที่ว่าจะคิดสูตรพิสดารกันแบบไหนเท่านั้นเอง ถ้าไม่ถึงขนาดมีส.ส.เอื้ออาทรเหมือนหนที่แล้วก็คงพอจะรับกันได้
สนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. คนชนะเลือกตั้งจากโพลทุกสำนัก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ คงต้องเจอแรงเสียดทานอีกหลายกระทอก เพราะขนาดเรื่องป้ายหาเสียงที่เป็นกระแสทางโซเซียลมีเดีย ก็ถูกพวกจากพรรคคู่แข่งออกมาเคลมความดีเข้าตัวแล้วว่า เคยทำมาก่อนไม่เห็นจะต้องตื่นเต้นกันตรงไหน นี่ก็เป็นหนึ่งในวิธีแยกกันตี เนื่องจากคนที่พูดไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการกับผู้สมัครของพรรค ถ้าถูกตีโต้ว่าอิจฉาก็จะได้ปฏิเสธกันแบบนิ่ม ๆ ตามนิสัย พรรคไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม ปรากฏการณ์จากโลกโซเซียลจะเข้ามามีบทบาทอย่างสำคัญต่อการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.หนนี้ คนที่ถนัดในเกมนี้จะสร้างความได้เปรียบในระดับหนึ่ง ซึ่งก็น่าสนใจเพราะฝ่ายกุมอำนาจมีการสร้างฐานทำปฏิบัติการณ์ไอโอด้านนี้มาอย่างต่อเนื่องตลอดเกือบ 8 ปีที่ผ่านมา ทว่าถูกฝ่ายตรงข้ามจับได้และประจานกันอยู่เป็นระยะ ถ้ามองกันแบบนี้ชัชชาติที่ถือว่าเป็นขวัญใจชาวโลกออนไลน์ก็ขี่คู่แข่งอยู่ไม่น้อย โดยมี วิโรจน์ ลักขณาอดิศร จากก้าวไกล และ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ จากประชาธิปัตย์ไล่บี้ตามมา
สำหรับสองผู้สมัครอิสระจากการสนับสนุนของอดีตแกนนำกปปส. และสองผู้ยิ่งใหญ่ในฝ่ายกุมอำนาจ การใช้โซเซียลจะเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การใช้เครือข่ายที่เคยดูแลกันผ่านการใช้อำนาจทั้งในฐานะอดีตผู้ว่าฯ กทม. และรองผู้ว่าฯ กทม. โดยที่อีกรายก็จะได้การลงพื้นที่ของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจแม้จะอ้างว่าไม่ได้ช่วยใครไปเติมคะแนนให้ทางอ้อม แต่ต้องดูกันยาว ๆ เวลาอีกเดือนกว่าที่เหลือ อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ยิ่งสนามกทม.มีเรื่องที่จะกระตุกเรตติ้งกันได้ตลอดเวลา