Q1 ‘บจ.’ กำไร 3 แสนล้าน!

มีตัวเลขเกี่ยวกับผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่คาดการณ์ออกมาจาก บล.ทิสโก้

ประเมินกำไรของ บจ. ไตรมาส 1/2565 ว่าจะมีกำไรสุทธิระดับ 3 แสนล้านบาท

หากเทียบกับไตรมาส 1/2564 เพิ่มขึ้น 15.83%

แต่ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ หากกำไรออกมาที่ 3 แสนล้านบาทตามคาดการณ์

เท่ากับว่า จะเป็นกำไรของ บจ.ที่ทำสถิตินิวไฮ หรือสูงสูดรายไตรมาสแบบเป็นประวัติการณ์

กลุ่มธนาคาร บล.ทิสโก้มองว่า กำไรยังเติบโตโดดเด่น

ดีดลูกคิดคำนวณกำไรแต่ละแบงก์ออกมา ยังเติบโตได้สวยงาม

ธนาคาร 7 แห่งที่ ทิสโก้ ประเมินกำไรออกมา คือ

1.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY, 2.ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL, 3.ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK, 4.ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) หรือ KKP

5.ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB, ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB

และ 7.ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB

ทั้ง 7 ธนาคารดังกล่าว ไตรมาส 1/2565 จะมีกำไรสุทธิรวม 4.89 หมื่นล้านบาท

เพิ่มขึ้น 11.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 21.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

กำไรที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มแบงก์

ปัจจัยหลัก ๆ มาจาก สินเชื่อขยายตัว  ตั้งสำรองลดลง รายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน ต้นทุนลดลง

และยังได้ประโยชน์จากภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นด้วย

แนวโน้มกำไรของ บจ.ที่ถูกคาดการณ์ออกมาระดับ 3 แสนล้านบาท

ถูกประเมินว่า จะช่วยหล่อเลี้ยงให้ดัชนี SET วิ่งต่อไปได้อีกในเดือน เมษายนนี้

และจะเป็นเซนติเมนต์เชิงบวก ให้นักลงทุน เพิ่มน้ำหนักการลงทุนมากขึ้น

สอดคล้องกับ ล่าสุดวานนี้ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย หรือ FETCO

ได้เผยผลสำรวจในเดือน มี.ค. 65 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 117.92 ดีขึ้นเล็กน้อยจาก 113.03 ในการสำรวจครั้งก่อน ยังอยู่ในเกณฑ์ “ทรงตัว”

ปัจจัยบวก คือ ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ออกมาค่อนข้างดี

เมื่อถามว่า แล้วกำไรของ บจ.ของปี 2565 จะอยู่ที่เท่าไหร่

เท่าที่ดูจากการวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ต่าง ๆ

เช่น บล.กสิกรไทย ประเมินปี 2565 กำไร บจ.จะอยู่ที่ 1.13 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10%

บล.เคทีบีเอสที คาดการณ์กำไร บจ.ปีนี้ที่ 1.07 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.5%

แล้วเหตุผลที่ช่วยดันกำไร บจ.เพิ่มขึ้นมากเป็นประวัติการณ์คืออะไร

เท่าที่สำรวจข้อมูลจากนักวิเคราะห์พบว่า กลุ่มเรียลเซกเตอร์ จะเติบโตและฟื้นตัวชัดเจนมาก ๆ

ผลประกอบการหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและสายการบินดีขึ้นจากการเปิดประเทศ

ราคาน้ำมันดิบที่ยังอยู่ระดับสูง ทำให้บริษัทพลังงานกลุ่มโรงกลั่นจะมีกำไรสต๊อกน้ำมันเข้ามาสูงถึงระดับ 4-5 หมื่นล้านบาท

และจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดอยู่ จะหนุนกำไรกลุ่มโรงพยาบาลออกมาในระดับสูงต่อไป

บล.เอเซีย พลัส ล่าสุด ประเมินผลประกอบการ บจ.ยังน่าจะเห็นการเติบโตต่อไป

EPS ที่ประมาณ 88.9 บาทต่อหุ้น

กลุ่มที่ผลประกอบการน่าจะเติบโตได้ดี คือ ท่องเที่ยว, ขนส่ง, รับเหมาฯ, ประกัน, อาหาร, คอมเมิร์ซ, อสังหาฯ และแบงก์

ด้าน Market Earning Yield Gap ยังมีความน่าสนใจในช่วงประเทศพัฒนาแล้วขึ้นดอกเบี้ย

พร้อมมองเป้าหมายดัชนีปี 2565 ที่ระดับ 1,810 จุด จากแรงหนุนของฟันด์โฟลว์ต่างชาติที่ยังมีอยู่ ประกอบกับนักลงทุนสถาบันที่จะกลับเข้ามาซื้อ

รวมถึงผลประกอบการ บจ.ที่จะออกมาดีมาก