สัญญาณเปิดประเทศ

สัญญาณเปิดประเทศ สว่างไสวขึ้นทุกที ไม่เพียงแต่สัญญาณที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเราเท่านั้น หากยังมีสัญญาณจากประเทศเพื่อนบ้านข้างเคียง และประเทศคู่ค้าและบริการสำคัญทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่นส่งสัญญาณล่าสุดเข้ามาด้วย

การเดินทางเข้าสหรัฐฯ และยุโรปปัจจุบัน ใช้เพียง “วัคซีน พาสปอร์ต” และผลการตรวจ RT-PCR ภายในเวลา 72 ชั่วโมงก่อนขึ้นเครื่อง ยื่นหลักฐานตอนเช็กอินที่เมืองไทยนี่แหละ พอถึงจุดหมายปลายทางก็เข้าเมืองโดยปกติ ไม่ต้องมีการกักตัวและรายงานตัวใด ๆ ทั้งสิ้น

ในอเมริกา อาจต้องใช้ “วัคซีน พาสปอร์ต” เข้าร้านอาหาร

สัญญาณล่าสุดจากญี่ปุ่น รัฐบาลได้ประกาศยกเลิกคำสั่งห้ามชาวต่างชาติจำนวน 106 ประเทศรวมทั้งไทย เดินทางเข้าประเทศ โดยจะมีผลเริ่มตั้งแต่วันนี้ (ศุกร์ที่ 8 เม.ย.) เป็นต้นไป

นั่นหมายถึง ตลาดการท่องเที่ยวใหญ่และความสัมพันธ์ทางการค้าการลงทุนของทั้ง 2 ชาติ จะกลับคืนสู่ภาวะปกติโดยไม่ต้องรอนานอีกต่อไปแล้ว

ผมว่าตอนนี้ มีคนไทยหิวกระหายอยู่ไม่น้อยทีเดียวเลยแหละ ที่จะได้กลับไปเที่ยวญี่ปุ่นและกินอาหารญี่ปุ่น เรื่องความหวั่นเกรงการสูญเสียเงินตราต่างประเทศ ผมว่านั่นเป็นภูมิทัศนเก่าแก่ ที่เกิดขึ้นในสมัยไทยขาดแคลนเงินตราต่างประเทศ

แต่เดี๋ยวนี้ ระบบนิเวศทางเศรษฐกิจประเทศไทย เปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว ไทยเป็นประเทศที่เกินดุลการค้าและเกินดุลบัญชีเดินสะพัด ความกลัวจะขาดแคลนเงินตราต่างประเทศ ไม่ใช่ประเด็นปัญหาอีกต่อไป

ในทางตรงกันข้าม การที่ประเทศมีสำรองเงินตรามากเกินไป ประชาชนไม่ออกไปใช้จ่ายเงินต่างประเทศบ้างเลย ก็อาจจะทำให้เงินบาทแข็งค่าเกินไป กลับจะเป็นผลร้ายต่อการส่งออกเสียอีก

ประเทศไทยเรา สถานการณ์โควิดคลี่คลาย แม้ยังมีผู้ติดเชื้อโควิดระดับหลัก 2 หมื่นราย แต่อาการผู้ป่วยไม่รุนแรงเหมือนในช่วงเชื้อเดลต้า

อัตราการฉีดวัคซีนเข็ม 2 ของคนในประเทศ พุ่งเกินกว่าร้อยละ 70 และอัตราฉีดเข็มกระตุ้นเข็ม 3 ในระดับเกินร้อยละ 35 แล้ว รัฐบาลผ่อนคลายเกณฑ์ ยกเลิกการตรวจ RT-PCR ล่วงหน้า 72 ชั่วโมงแล้ว ตั้งแต่ 1 เม.ย.เป็นต้นมา

มีสถิตินักท่องเที่ยวทะลักเข้ามาที่สุวรรณภูมิ!

จากสถิติผู้โดยสารเดินทางเข้าในราชอาณาจักรในเดือน มี.ค. เฉลี่ยวันละ 7,003 คน แต่ภายหลังมาตรการผ่อนคลายตั้งแต่ 1 เม.ย.เป็นต้นมา ผู้โดยสารขาเข้าเฉลี่ยวันละ 11,623 คน เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 65

ส่วนเที่ยวบินขาเข้าเดือน เม.ย.โดยเฉลี่ยวันละ 141 เที่ยวบิน มากกว่าเที่ยวบินโดยเฉลี่ยวันละ 137 เที่ยวบินในเดือน มี.ค. เพิ่มขึ้นมาร้อยละ 2.9

แนวโน้มสัญญาณการเปิดประเทศ คงจะชัดแจ้งยิ่งขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังตามการผ่อนคลายกฎเกณฑ์การเข้าประเทศของรัฐบาล และการประกาศลดความรุนแรงของโรคติดเชื้อโควิดให้เป็น “โรคประจำถิ่น” อย่างเป็นทางการ

หลักทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดจากการระบาดของเชื้อโควิดอันได้แก่ กลุ่มธุรกิจโรงแรม อาหาร และการบิน คงจะค่อยฟื้นฟูกลับมาในไม่ช้านี้

หลักทรัพย์บริษัท ท่าอากาศยานไทย หรือ AOT ที่ราคาเคยขึ้นสูงกว่า 80 บาทก่อนโควิด คงจะกลับมาได้ในเวลาอันรวดเร็วกว่าใคร