4 จี กับอนาคตของโลก (ตอน 1)แฉทุกวัน ทันเกมหุ้น
เวลาที่คนส่วนใหญ่พูดถึง 3 จี หรือ 4 จี มักจะลืมไปว่า ชื่อที่ถูกต้องของมันคือ 3G+LTE กับ 4G+LTE
เวลาที่คนส่วนใหญ่พูดถึง 3 จี หรือ 4 จี มักจะลืมไปว่า ชื่อที่ถูกต้องของมันคือ 3G+LTE กับ 4G+LTE
ความเข้าใจไขว้เขวนี้ ไม่ควรจะดำเนินต่อไป หากเราต้องการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอย่างถูกต้อง เพื่อจะไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของอนาคต
ก่อนอื่น ต้องมุ่งไปที่ LTE ซึ่งเป็นแกนกลางของเทคโนโลยี
LTE เป็นเส้นทางพัฒนาตามธรรมชาติสำหรับโทรคมนาคมไร้สาย ที่มีทั้งเครือข่าย GSM/UMTS และเครือข่าย CDMA2000 แบนด์
ความถี่ของ LTE ที่แตกต่างกันตามการใช้ในแต่ละประเทศย่อมหมายถึงว่า โทรศัพท์ที่มีหลายคลื่นความถี่เท่านั้น จึงจะสามารถใช้ LTE ในแต่ละประเทศที่มีใช้ได้
แม้การทำตลาดของผู้ประกอบการ LTE ปัจจุบัน จะยังคงมีปัญหาขาดมาตรฐานชัดเจนที่กำหนดโดย องค์การโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ITU แต่แรงกดดันด้านการตลาดและมีความก้าวหน้าที่สำคัญซึ่ง WiMAX, Evolved HSPA และ LTE นำมาให้กับเทคโนโลยี 3 จี เดิม ทำให้ต่อมา ITU ยอมรับว่า LTE สามารถเรียกว่าเทคโนโลยี 4G ได้ และได้กำหนดนิยามให้มันว่าเป็นๆ “4 จี อย่างแท้จริง”
LTE ย่อมาจากคำว่า Long Term Evolution สถาบัน ETSI (European Telecommunications Standards Institute) เป็นเจ้าของทะเบียนการค้าเทคโนโลยีสื่อสารข้อมูลไร้สายและการพัฒนามาตรฐาน GSM/UMTS เป้าหมายของ LTE ก็เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและความเร็วของเครือข่ายข้อมูลไร้สายที่ใช้โมดูลและเทคนิคใหม่ เพื่อออกแบบใหม่และลดเวลาในการถ่ายโอนข้อมูลลง ในกรณีที่เทคโนโลยี 3 จี เข้ากันไม่ได้กับเครือข่าย 2 จี
บริษัท NTT DoCoMo ของญี่ปุ่นเป็นผู้เสนอเทคโนโลยี LTE เป็นรายแรกเมื่อปี 2547 และเริ่มตั้งพันธมิตรที่เป็นผู้ประกอบการทั่วโลก เพื่อตรวจสอบและส่งเสริมมาตรฐานใหม่ จนได้ข้อสรุปมาตรฐาน LTE ในเดือนธันวาคม 2551 และเปิดตัวบริการเป็นครั้งแรกในกรุงออสโลและสตอกโฮล์ม เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2552
จากนั้น การนำเสนอ LTE เชิงพาณิชย์ก็แพร่กระจายเหมือนไฟลามทุ่ง รวมทั้งการผลิตเครื่องลูกข่ายรองรับเทคโนโลยีดังกล่าวเริ่มโดยกลุ่ม Samsung ในปลายปี 2553 ตามมาด้วยรายอื่นๆ จนในที่สุด วิวัฒนาการของ LTE คือ LTE Advenced จึงกลายเป็นมาตรฐานในเดือนมีนาคม 2554 และเริ่มให้บริการแข่งขันเชิงพาณิชย์ ในปี 2556
คุณสมบัติเฉพาะของ LTE คือ อัตราดาวลิงค์สูงสุด 300 Mbit/s, อัตราอัพลิงค์สูงสุด 75 Mbit/s และมี QoS ที่ทำให้ระยะเวลาในการโอนข้อมูลต่ำกว่า 5 นาทีในเครือข่าย radio access ไม่นับความสามารถเชิงเทคนิคอื่นๆ
จาก 3 G+LTE พัฒนามาสู่ 4G+LTE ที่ถูกออกแบบมาทดแทน เครือข่ายโทรคมนาคมเก่าๆ รวมทั้งช่วยให้ไม่มีรอยกระตุกในการส่งทั้งเสียงและข้อมูลไปยังเครื่องลูกข่ายที่ยังใช้เทคโนโลยีเครือข่ายเก่าอยู่ด้วย อย่างเช่น GSM, UMTS และ CDMA2000 ทำให้ค่าการดำเนินงานต่ำ
เป็นเหตุผลว่า เหตุใด 4G+LTE จึงกลายเป็นคำตอบของอนาคตโทรคมนาคมในยุคดิจิตอลครองโลก
(ยังมีแฉต่อ)
……………..
กลุ่มประเทศที่มีการใช้ LTE 4G ซึ่งวัดโดย OpenSignal.com ในเดือนมิถุนายน 2558
อันดับ ประเทศ ความหนาแน่น
|
|
|
1 |
เกาหลีใต้ |
97.0% |
2 |
ญี่ปุ่น |
90.0% |
3 |
ฮ่องกง |
86.0% |
4 |
คูเวต |
86.0% |
5 |
สิงคโปร์ |
84.0% |
6 |
อุรุกวัย |
84.0% |
7 |
81.0% |
|
8 |
80.0% |
|
9 |
บาห์เรน |
79.0% |
10 |
78.0% |
|
11 |
สวีเดน |
78.0% |
12 |
จีน |
76.0% |
13 |
กาตาร์ |
75.0% |
14 |
ออสเตรเลีย |
74.0% |
15 |
เอสโตเนีย |
74.0% |