พาราสาวะถี
รู้อยู่เต็มอกว่าจะมาฉกคะแนนจากพรรคของตัวเอง จึงเป็นเรื่องปกติที่บรรดาแกนนำพรรคสืบทอดอำนาจจะพากันดาหน้ามาปรามาสแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคสร้างอนาคตไทย
รู้อยู่เต็มอกว่าจะมาฉกคะแนนจากพรรคของตัวเอง จึงเป็นเรื่องปกติที่บรรดาแกนนำพรรคสืบทอดอำนาจจะพากันดาหน้ามาปรามาสแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคสร้างอนาคตไทย ที่มี อุตตม สาวนายน และ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เป็นหัวเรือใหญ่ ซึ่งได้จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปีครั้งแรกไปเมื่อวันวานว่า จะเก่งแค่เศรษฐกิจด้านเดียวไม่ได้ ระวังจะโดนโต้กลับจากอดีตพวกเดียวกันเองแบบหน้าหงาย ต้องใช้คนไม่รู้เรื่องเศรษฐกิจมาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจแบบปัจจุบันใช่ไหม ประเทศถึงจะได้เจริญฮวบ ๆ
ประสานักการเมืองอาชีพ เห็นใครที่จะมาแย่งฐานเสียงของตัวเองก็ต้องตีกัน ดิสเครดิตเป็นธรรมดา อย่าลืมว่าเมื่อมองไปยังบรรดาแกนนำคนอื่น ๆ ส่วนใหญ่ก็มาจากพรรคสืบทอดอำนาจทั้งสิ้น โดยเฉพาะคนที่เพิ่งลาออกจากส.ส.หมาด ๆ อย่าง วิเชียร ชวลิต ก็กระโดดเปิดตัวพร้อมรับตำแหน่งสำหรับในพรรคสร้างอนาคตไทยทันที ยังไม่นับรวมนักการเมืองรุ่นเก๋าที่ย้ายมาจากพรรคการเมืองอื่น เช่น นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ สุรนันทน์ เวชชาชีวะ คนเหล่านี้ล้วนแต่เป็นมือไม้สำคัญในการที่จะท้ารบกับพรรคแกนนำรัฐบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม บรรดาคนที่ออกอาการกันทั้งหลายในพรรคสืบทอดอำนาจต่างก็เป็นสายตรงของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ และยังคงมีความเชื่อมั่นว่าอย่างไรเสียพรรคแกนนำรัฐบาลก็จะเสนอชื่อผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยมองกันว่าปัญหาความไม่ลงรอยของพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.กับน้องเล็กนั้น สามารถเคลียร์ใจกันได้และจบไปแล้ว ทั้งที่ความจริงจนถึงวันนี้พี่น้องทั้งสามไม่ได้เหนียวแน่นเหมือนเดิมอีกต่อไป
จับอาการของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจได้ เมื่อถูกนักข่าวถามหลังประชุมครม.เมื่อวันอังคาร ต่อการเดินทางไปพักผ่อนที่อังกฤษของพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ว่าไปพบกับใครด้วยหรือไม่ ท่านผู้นำตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดว่า “ถามอะไรแปลก ๆ บ้าหรือเปล่า ไม่สร้างสรรค์” นั่นย่อมทำให้มองกันได้ว่าผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจก็ไม่ไว้ใจพี่ใหญ่เหมือนกัน การเดินทางไปแดนผู้ดีครั้งนี้ไปเที่ยวเพื่อชาร์จแบต ไปราชการจริง ๆ หรือมีวาระทางการเมืองอื่นแอบแฝง
ตลอดระยะเวลาที่ปกครองประเทศมานั้น ทุกครั้งที่พี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.เดินทางไปต่างประเทศ มักจะตามมาด้วยข่าวการไปเจรจา มีดีลทางการเมืองอยู่ร่ำไป หนนี้ยิ่งทำให้น้องเล็กเครียดหนัก เพราะเกิดภาพป้ายอวยพรสงกรานต์ขนาดยักษ์ของพี่ใหญ่ติดไปทั่วประเทศ โดยเฉพาะถนนมิตรภาพเส้นทางสู่อีสาน อันเป็นเหมือนการประกาศศักดา แสดงบารมีภายในพรรคสืบทอดอำนาจ และส่งสัญญาณกันแรงว่าเลือกตั้งครั้งหน้ายังเต็มที่และหวังผลทุกเม็ด
ด้วยเหตุนี้จึงมีมุมข่าวที่เล็ดลอดออกมาจากฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล ถ้าไม่ใช่การเสี้ยมก็ถือว่าน่าสนใจกับประเด็นที่ว่า การเดินทางไปอังกฤษของพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.เพื่อไปปิดดีลทางการเมือง และเตรียมที่จะเช็กบิลน้องเล็กน้องรักด้วยการอาศัยการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคฝ่ายค้านทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง นั่นหมายความว่า ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจถึงเวลาที่จะต้องวางมือ อยู่ที่ว่าพี่ใหญ่จะทำให้ทุกอย่างจบแบบเท่ ๆ หรือต้องแตกหักกัน อยู่ที่เงื่อนไขทั้งจากวงเจรจา และการยอมจำนนของน้องเล็ก
บังเอิญว่า วิษณุ เครืองาม ก็เพิ่งเปิดไทม์ไลน์ของรัฐบาลเรือเหล็ก ถ้าไม่มีอุบัติเหตุทางการเมืองก็อยู่กันไปครบวาระในวันที่ 23 มีนาคม 2566 “ส่วนจะครบได้หรือไม่ได้ ก็แล้วแต่ในอนาคต” ตรงนี้มันมีนัยทางการเมือง หมายความว่าเรื่องวาระในตำแหน่ง 8 ปีของความเป็นนายกรัฐมนตรีตามเงื่อนไขรัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจ ถ้านับตั้งแต่ปี 2557 ก็จะครบในเดือนสิงหาคมปีนี้ นี่ก็เป็นอีกปัจจัยที่จะทำให้อยู่ไม่ครบเทอม ซึ่งถ้าไม่อยากให้เกิดการตีความก็ต้องแสดงสปิริตให้เห็น
อาจจะเป็นจังหวะอันดีที่น้องเล็กจะได้ตอบแทนพี่ใหญ่ด้วยการไขก๊อก แล้วใช้กระบวนการของสภาเลือกนายกฯ คนใหม่ ซึ่งในทางการข่าวที่พูดถึงดีลใหญ่ก็หมายความว่า จะมีการเลือกหัวหน้าพรรคสืบทอดอำนาจให้มาเป็นผู้นำประเทศ สานฝันในบั้นปลายแม้น้องรักของตัวเองจะบอกกับสื่อตลอดว่าพี่ใหญ่ไม่ได้ต้องการเก้าอี้นี้ โดยจะเป็นการดำรงตำแหน่งไปจนรัฐบาลครบวาระในเดือนมีนาคมปีหน้า และโฉมหน้ารัฐบาลใหม่ก็จะไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเท่าไหร่
โครงใหญ่คือใช้พรรคร่วมรัฐบาลที่มีอยู่ในปัจจุบัน แต่ก็จะมีเก้าอี้รัฐมนตรีที่อยู่ในโควต้าของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ ที่จากการข่าวของ ไทกร พลสุวรรณ อดีตแกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณอ้างอิงแหล่งข่าวของตัวเองว่า พี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.จะนำไปเจรจาบิ๊กดีลที่ลอนดอน โดยยกให้เป็นโควต้าของพรรคฝ่ายค้านที่จะถูกดึงเข้ามาเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ถ้าเป็นไปตามสูตรนี้บรรดาลิ่วล้อสอพลอและกองเชียร์ที่ถือหางลุงคงไม่อยากเห็นภาพแบบนั้น และน้องเล็กก็คงไม่ยอมเช่นกัน
นั่นหมายความว่า พี่ใหญ่กับน้องเล็กต้องถึงขั้นแตกหัก โดยหากเดินกันตามดีลที่ว่าเราก็จะได้เห็นฝ่ายค้านเคาะวันเวลาที่จะซักฟอกในไม่ช้า แต่คงไม่เกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้ เพราะฝ่ายกุมอำนาจเองก็มีการเลื่อนการเสนอร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2566 เข้าสู่การพิจารณาของสภาไปเป็นเดือนมิถุนายน ประสานักเลือกตั้งไม่ว่าจะเกลียดขี้หน้ากันขนาดไหน กฎหมายฉบับนี้ต้องจับมือกันให้ผ่านไปก่อน จากนั้นจะทะเลาะตบตีกันอย่างไรค่อยว่ากันอีกที
การที่พรรคการเมืองหน้าใหม่เร่งดำเนินการประชุม ทำทุกอย่างให้เรียบร้อยกันในช่วงนี้ก็น่าจะเป็นการอ่านหรือรับสัญญาณทางการเมืองกันมาแล้วว่า รัฐบาลอยู่ไม่ครบวาระ จะมีการหย่อนบัตรเร็วกว่าที่มองกันไว้ ไม่เว้นแม้แต่พรรคสืบทอดอำนาจที่มีการแถลงเปิดตัวผู้สมัครส.ส.ของพรรค ทั้งที่การพิจารณาร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง 2 ฉบับยังไม่เสร็จสิ้น นักเลือกตั้งนั้นจมูกไว และสัญชาตญาณดีกว่าคนทั่วไป ส่วนมากจะรู้ดีด้วยว่าควรจะเลือกยืนข้างไหน