ตามเช็คบิลมติชน-สยามกีฬา
ประเทศนี้ มันหาความสุขสงบไม่ได้สักที เพราะคนแก้มันแก้ผิดทาง หรือโดยแท้จริงแล้ว เป็นเพราะผู้มีอำนาจ ไม่มีเจตนาแม้แต่นิด จะให้เกิดความสุขสงบ
ประเทศนี้ มันหาความสุขสงบไม่ได้สักที เพราะคนแก้มันแก้ผิดทาง หรือโดยแท้จริงแล้ว เป็นเพราะผู้มีอำนาจ ไม่มีเจตนาแม้แต่นิด จะให้เกิดความสุขสงบ
ขอเรียนตามตรงว่า สงสัยจะเป็นประการหลัง คือ ผู้มีอำนาจ ขาดเจตนาจะให้เกิดความสุขสงบในบ้านเมือง มุ่งผลในการประหัตประหารฝ่ายตรงข้ามจนล่วงเลยเวลามาเกือบ 2 ทศวรรษแล้ว
ดังเช่นเรื่อง “โรดโชว์ สร้างอนาคตประเทศไทย” ที่อัยการสูงสุด เห็นว่าไม่มีมูลเพียงพอ “สั่งไม่ฟ้อง” แล้ว แต่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือป.ป.ช.ยังดันต่อ เหมือนไม่อยากให้เรื่องจบ
ยื่นฟ้องเองต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กล่าวหาจำเลยทั้ง 6 ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ใช้อำนาจโดยทุจริต โดยมุ่งหมายไม่ให้มีการแข่งขันราคาจัดจ้างการทำโรดโชว์ฯ อย่างเป็นธรรม…
เพื่อเอื้อประโยชน์แก่บมจ.มติชนและบมจ.สยามสปอร์ต ซินดิเคท
อ้างเหตุร่างพ.ร.บ.กู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่งของประเทศ ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ เป็นผลให้โครงการโรดโชว์เกิดความสูญเปล่าและเสียหายเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 239.7 ล้านบาท ฟ้องลงโทษจำเลยที่ 1-3 ตามมาตรา 157 และจำเลยที่ 4-6 ฐานเป็นผู้สนับสนุน
คุ้นชื่อไหมครับ บมจ.มติชน จำกัด (มหาชน) ก็คือค่ายสื่อสารมวลชนกลุ่มมติชน ที่มีสื่อในมือครบเครื่องหลากหลายและการจัดงานอีเวนต์ทั่วประเทศ ที่มีมวลชนเข้าร่วมทุกระดับชั้น
ส่วนสยามสปอร์ต ซินดิเคท หรือที่รู้จักกันเป็นอันดีในนาม “สยามกีฬา” ก็เป็นสื่อกีฬาที่มีเครือข่ายครบเครื่องกว้างขวางที่สุด เป็นสื่อที่มีแฟนคลับทุกระดับชั้นไม่ว่ายากดีมีจนอย่างไร ขอแต่เพียงเป็นผู้มีหัวใจรักการกีฬาเท่านั้น
มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ชัดเจนที่สุดก็คือฟุตบอลอาชีพไทยลีกจนกลายเป็นลีกอาชีพโดดเด่นที่สุดในย่านอาเซียนทุกวันนี้
จำเลยที่ 1-6 ตามลำดับ ประกอบด้วยนส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร, นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล, สุรนันทน์ เวชชาชีวะ, บมจ.มติชน, บมจ.สยามสปอร์ตฯ และนายระวิ โหลทอง
คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญในเดือน มี.ค. 2557 ครั้งนั้น เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในวงวิชาการที่ว่า “ตราบใดถนนลูกรังยังไม่หมดไป ก็ไม่ควรจะสร้างรถไฟความเร็วสูง ซึ่งจะก่อภาระหนี้สินให้ประเทศเป็นอันมาก”
ตรรกะนี้ คงใช้ไม่ได้กับประเทศจีน ซึ่งกลายเป็นเจ้าโลกรถไฟความเร็วสูงไปแล้ว รวมทั้งญี่ปุ่น และประเทศในยุโรป เพราะประเทศที่เอ่ยนามมานี้ ก็ยังมีถนนลูกรังตามท้องไร่ท้องนาและชนบทห่างไกลกันอยู่
หากยังยึดหลัก “ถนนลูกรังต้องหมดไปก่อน” ก็คงจะกลายเป็น “สองมาตรฐาน” ไป เพราะสมัยพล.อ.ประยุทธ์ทำไมอนุมัติสร้างได้ตั้ง 2 เส้นคือ รถไฟความเร็วสูงไทย–จีนซึ่งยังเกาะอยู่แค่กลางดง และรถไฟความเร็วสูง 3 สนามบิน
แต่ทำไมสมัยน.ส.ยิ่งลักษณ์ จึงทำรถไฟความเร็วสูงไม่ได้ ทั้งที่มีวงเงินลงทุนชัดเจนที่ 2 ล้านล้านบาท ครอบคลุมทั้ง 4 เส้นทางที่มากกว่าทั้งเหนือ-ใต้-อีสาน-ตะวันออก และมีกำหนดเวลาก่อสร้างแล้วเสร็จที่แน่ชัดในปี ค.ศ. 2020 หรือ พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา
ไม่ใช่ปล่อยให้รถไฟสายล้านช้างวิ่งแซงหน้า รับผักผลไม้จากม้าเหล็กไทยข้ามพรมแดนไปจีนเช่นทุกวันนี้
“เวลาก็มีมูลค่า” หากก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ใช้เงินแค่ 2 ล้านล้านบาท แต่หากมาสร้างวันนี้ก็อาจบานปลายเป็น 3-4 ล้านล้านบาท เหมือนเช่นรถไฟรางคู่ทั่วประเทศเมื่อ 30 ปีก่อน ใช้เงินแค่ 80,000 ล้านบาทเอง แต่มาวันนี้ต้องกลายเป็น 400,000 ล้านบาทไปเสียแล้ว
โครงการโรดโชว์ไทยแลนด์ 2020 มูลค่า 240 ล้านบาท ที่อัยการตีตก แต่ป.ป.ช.รื้อฟื้นมาฟ้องศาลฎีกาฯ เป็นโครงการที่ต้องดำเนินการประชุมรับฟังความเห็นพี่น้องประชาชนถึง 24 จังหวัด หากจะตัดสินว่าสูญเปล่าไร้ค่า ก็เพราะมีคำตัดสินจากศาลฯ ว่าขัดรัฐธรรมนูญ “ภายหลังจากมีปฏิบัติการครบถ้วนไปแล้วทั้ง 24 จังหวัด”
ความยุติธรรม มันต้องมีกันบ้าง อย่าเอาแต่จุดไฟสงครามโดยไม่เลิกรากันเสียที