FORTH-FSMART เต่าบิน..หุ้นติดลมบน
หลังจาก FSMART เจอปรากฏการณ์ดิสรัปชั่น จนถูกมองว่าตู้บุญเติมจะถึงทางตันละมั้ง...ทำให้หุ้น FSMART ในช่วงที่ผ่านมาเงียบเป็นเป่าสาก
หลังจากบริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ FSMART เจอปรากฏการณ์ดิสรัปชั่น จนถูกมองว่าตู้บุญเติมจะถึงทางตันละมั้ง…ทำให้หุ้น FSMART ในช่วงที่ผ่านมาเงียบเป็นเป่าสาก แม้จะพยายามไดเวอร์ซิไฟน์ธุรกิจ ปรับปรุงตู้บุญเติมให้มีลูกเล่นมากขึ้นก็ตาม…
มิหนำซ้ำยังถูกกระแสของบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY ที่ก่อนหน้านี้ทำธุรกิจตู้คล้ายกัน แต่มีสีสันมากกว่า เบียดจนหลุดจากจอเรดาร์นักลงทุนไปพักใหญ่
กระทั่งกลุ่มบริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ FORTH ในนามบริษัท ฟอร์ท เวนดิ้ง จำกัด หรือ FVD ออกโปรดักส์ “ตู้เต่าบิน” ซึ่งเป็นตู้จำหน่ายกาแฟและชงเครื่องดื่มอัตโนมัติ (FORTH ถือหุ้นใน ฟอร์ท เวนดิ้ง สัดส่วน 45% ส่วน FSMART ถือหุ้น 19.34%) ก็สร้างความฮือฮาได้อีกครั้ง…
เนื่องจากตู้เต่าบินเป็นตู้ที่ทันสมัย โดยชูคอนเซ็ปต์เป็นคาเฟ่อัตโนมัติที่มีบาริสต้าบอตเป็นผู้ให้บริการ 24 ชั่วโมง ที่มีเมนูเครื่องดื่ม ทั้งหมวดกาแฟ, หมวดโซดา, ชา, นมและช็อคโกแลต และอื่น ๆ กว่า 170 เมนู ครอบคลุมทั้งเมนูร้อน เย็น และปั่น โดยสามารถเลือกระดับความหวาน หรือเพิ่มช็อตพิเศษได้…กลายเป็นไวรัลดังในโลกโซเชียลฯ
เมื่อมีคนพูดถึงตู้เต่าบินเยอะ…ก็ส่งผลบวกมาถึงตัวหุ้น โดยเฉพาะ FSMART ที่ราคาร้อนฉ่า รอบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาปรับขึ้นไปแล้ว 50.28% และรอบ 1 เดือน ปรับขึ้นไป 128.63% ในขณะที่ FORTH รอบ 1 สัปดาห์ ราคาปรับขึ้น 21.43% และรอบ 1 เดือน ราคาปรับขึ้น 67.21%
จะเห็นว่า แรงเห่อตู้เต่าบินไปตกอยู่ที่ FSMART ทั้ง ๆ ที่ถือหุ้นแค่ 19.34% เท่านั้น
โอเค…แม้ FSMART จะได้รับประโยชน์จากตู้เต่าบิน 3 เด้ง เริ่มจาก 1) รายได้ค่าบริหารจัดการคาเฟ่อัตโนมัติทั้งหมด 2) รับรู้กำไรตามสัดส่วนการถือหุ้น และ 3) ได้ขยายจุดติดตั้งบริการตู้บุญเติมที่จะไปควบคู่กับตู้เต่าบิน…อันนี้ก็เข้าใจได้อ่ะนะ
แต่จริง ๆ แล้ว FORTH เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ตู้เต่าบินตั้ง 45% แถมยังเป็นแม่ของ FSMART ด้วย น่าจะได้ประโยชน์มากกว่าสิ กลับได้อานิสงส์ในแง่ราคาหุ้นน้อยกว่าซะงั้น…
แล้วที่น่าแปลก เพิ่งจะมีกระแสเห่อตู้เต่าบินกันเมื่อไม่นานมานี้ ทั้ง ๆ ที่เปิดขายมาเป็นปีแล้ว ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2564 โน่นแหละ
ส่วนข้อมูลที่ว่า ปัจจุบันมีตู้เต่าบินจำนวน 1,200-1,300 ตู้ มียอดขายเฉลี่ย 80,000-90,000 แก้วต่อวัน โดยราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 34 บาทต่อแก้ว ทำให้มีรายได้เฉลี่ย 2.9 ล้านบาทต่อวัน ขณะที่อัตรามาร์จิ้นสูงกว่า 60% โดยตั้งเป้าหมายในปี 2565 จะขยายตู้เพิ่มเป็น 5,000 ตู้ และเพิ่มเป็น 20,000 ตู้ภายในปี 2567…
ฮือ…ก็ถือเป็นตัวเลขที่ดูดีอยู่แหละ…
แหม๊…กระแสดีอย่างนี้ ผลการดำเนินงานก็น่าจะดีด้วยสิ แต่ถ้าย้อนไปดูงบในปี 2564 ของบริษัท ฟอร์ท เวนดิ้ง ซึ่งเป็นปีแรกที่ขายตู้เต่าบิน ยังขาดทุน 34 ล้านบาท จากรายได้ 226 ล้านบาท…
ทำให้อดคิดไม่ได้ ตู้เต่าบินมันดีจริงหรือเปล่า..? กระแสเห่อตอนนี้มันเว่อร์วังอลังการไปป่ะเนี่ย..?
อย่าลืมว่า แม้มูลค่าตลาดกาแฟและเครื่องดื่มต่าง ๆ จะสูงกว่า 200,000 ล้านบาท แต่ก็เป็นตลาดที่แข่งขันกันดุเดือดเลือดพล่านเหมือนกัน ดังนั้นคงไม่ง่ายที่จะยืนหยัดในตลาดนี้…
ก็ต้องติดตามกันว่า กระแสเต่าบิน…จะบินไปได้แรงและไกลแค่ไหน..?
เกรงว่าจากที่พาให้หุ้น FSMART กับ FORTH ติดลมบนอยู่ในขณะนี้ จะพานักลงทุนติดดอยไปด้วยน่ะสิ
เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือนไม่ได้นะจ๊ะ…
…อิ อิ อิ…