เงินไม่มีที่ไป?
การขึ้นของตลาดหุ้นไทยในเวลานี้ไม่มีนัยอะไรทั้งสิ้น เพราะสิ่งที่ทุกคนมองตรงกันคือ ตลาดหุ้นไทยจะยืนระยะได้นานแค่ไหน?
*การขึ้นของตลาดหุ้นไทยในเวลานี้ไม่มีนัยอะไรทั้งสิ้น เพราะสิ่งที่ทุกคนมองตรงกันคือ ตลาดหุ้นไทยจะยืนระยะได้นานแค่ไหน? เพราะเมื่อดูจากตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ ล้วนมีแต่เรื่องที่ชวนให้ปวดเศียรเวียนเกล้าแทบทุกวัน จนเดี๊ยนเริ่มกังขากับการเคลื่อนไหวของดัชนีมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังแสดงอาการ “ขึ้นไม่สุด ลงไม่สุด” ออกมาให้เห็นถี่ขึ้น ซึ่งมันหมายความว่า ตลาดหุ้นไทยยังไม่พร้อมขึ้นนะนายจ๋า
*ประเด็นตรงนี้แหละที่ทำให้การเคลื่อนตัวของดัชนีมักมีลักษณะตรงข้ามกับสถานการณ์เศรษฐกิจเป็นประจำ “โมนิก้า” จึงเชื่อเหลือเกินว่า นี่เป็นผลมาจาก “เงินไม่มีที่ไป” จึงวนเวียนเข้ามาในตลาดหุ้นเป็นระลอก ซึ่งเป็นอาการเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลกที่เกิดขึ้นในยามนี้..ครั้นจะไหลไปลงทุนในทองคำ ก็เป็นช่วงที่ราคาเป็นขาลงเสียแล้ว หรือจะโยกไปเล่นน้ำมันเหมือนเช่นรอบก่อน ๆ ก็เป็นจังหวะที่ราคากำลังไซด์เวย์ รวมทั้งการลงทุนโยกไปเล่นตลาดบอนด์ ก็เป็นจังหวะที่ไม่เอื้อเท่าที่ควรนะจะบอกให้
*สถานการณ์ข้างต้นทำให้เงินลงทุนที่เข้ามายังตลาดหุ้นเป็นลักษณะแทงกั๊ก พร้อมกับมีคำพูดหลุดออกจากปากกูรูมากมายว่า สุดท้ายก็มาตายรังในตลาดหุ้นแบบไม่เต็มใจ จึงเห็นรายการทุบหุ้นโชว์ทุกครั้งที่ปรับตัวขึ้นแรง “โมนิก้า” จึงไม่รู้สึกเซอร์ไพรส์เมื่อเห็นดัชนีวิ่งขึ้นไปถึง 1,685.42 จุด ต่อจากนั้นรูดลงมาปิดที่ระดับ 1,668.97 จุด ลบไป 6.36 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.16 หมื่นล้านบาท เพราะมันเป็นไฟต์ของการเล่นสั้นไงล่ะคะ
*โดยเฉพาะในรายของหุ้นโรงหมอ THG ถูกมือดีกระหน่ำขายอย่างหนักหน่วง 2 วันติด จนหุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 80 บาท ลบไป 8.50 บาท หรือลงไป 9.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.36 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเกมโหดที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน และเป็นจังหวะที่ทำให้เสียศูนย์ไปพอสมควร และการที่หุ้นยังเทรดบน PE 56 เท่า ก็หมายความว่า งบไตรมาส 1 ต้องโตระเบิดระเบ้อ จึงเป็นเกมที่ต้องดูกันต่อไปว่า ทำได้ไหม?..อิอิอิ
*ส่วนรายที่ทำผลงานออกมาดีจริง ๆ ต้องยกให้กับม้ามืดกลุ่มแบงก์อย่าง KTB หลังราคาหุ้นวิ่งไม่เลิก จนล่าสุดขึ้นมาปิดที่ระดับ 14.90 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 4.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.37 พันล้านบาท แถมโบรกเกอร์ประสานเสียงอัพเกรดกำไรปี 65 และขยับราคาเป้าหมายขึ้นไปที่ 18 บาท หลังการตั้งสำรองมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง จึงกลายเป็นหุ้นที่นักเล่นต้องมีติดพอร์ตไว้บ้างนะคะ
*เช่นเดียวกับในรายของ MONO ราคาหุ้นดีดตัวแรง ขึ้นไปปิดที่ระดับ 2.52 บาท บวกไป 0.36 บาท หรือขึ้นไป 16.67% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 419 ล้านบาท “โมนิก้า” ขอทิ่มประเด็นไปเลยทันทีว่า นี่เป็นการเก็งงบไตรมาส 1 เป็นหลัก หลังโบรกเกอร์เจ้าดังอย่าง บล.บัวหลวง ประเมินคร่าว ๆ จะเห็นตัวเลขกำไรในระดับสิบล้าน พร้อมกับออกตัวแรงล้อฟรีว่า โตทุกไตรมาส! ซึ่งเป็นผลมาจากความร่วมมือระหว่าง 3BB-MONOMAX และการจัดหาคอนเทนต์สำหรับแพลตฟอร์ม 3BB GIGATV จุ๊ ๆ..รู้แล้วก็เคาะขวากันเลยเจ้าค่ะ
*สำหรับหุ้นตัวจี๊ดอย่าง ARIN หลังจากสลัดตัวเองหลุดแคชฯ ราคาหุ้นก็ทะยานขึ้นไปปิด “ออลไทม์ไฮ” ที่ระดับ 4.12 บาทเมื่อวันก่อนในทันที แต่วานนี้กลับเข้าสู่โหมดอิ่มตัวเสียอย่างนั้น พร้อมกับเห็นภาพการอ่อนตัวลงมาปิดที่ระดับ 3.94บาท ลบไป 0.18 บาท หรือลงไป 4.37% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 94 ล้านบาท แบบนี้ “โมนิก้า” พูดได้คำเดียวว่า หุ้นการเมืองก็มีลักษณะ “มาเร็ว ไปเร็ว” แบบนี้แหละ! และมีแววเจอแรงขายถล่มซ้ำออกมาอีกดอก เพราะตลาดหุ้นรับรู้ถึงประเด็นเทิร์นอะราวด์ไปมากพอสมควรแล้วน่ะซี
*ปิดท้ายนาทีนี้ต้องยกให้ “ตู้เต่าบิน” ของ FORTH กระแสแรงดีไม่มีตกพาบินสมชื่อ! ล่าสุดเพิ่มฟังก์ชันทำโจ๊ก เหมือนถือคติมีของหวานก็ต้องมีของคาว แต่ดูเหมือนราคาหุ้นจะวิ่งแซงหน้าความจริงมากเกินไป จึงโดนเทกระจาดแบบจัดเต็มทุกดอก วานนี้จึงเห็นหุ้นลงมาปิดที่ระดับ 41.25 บาท ลบไป 9.75 บาท หรือลงไป 19.12% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.68 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเกมวัดดวงอย่างหนึ่งว่า งบไตรมาสแรกต้องโชว์กำไรปัง ๆ ต่อจากนั้นจึงจะเห็นหุ้นไปต่อสวย ๆ เพราะอาการที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้เหมือนบอกให้รู้ว่า จบเกมชั่วคราวจ้า!