SCB(X) วันนี้บวกหรือลบ
ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์ประเมินว่า วันที่ 2 ของการซื้อของ SCB จะมีผลต่อการ “เหวี่ยง” ของดัชนี SET อย่างมาก
บมจ.เอสซีบี เอกซ์ SCB(X) วานนี้เข้าเทรดวันแรกเป็นไปตามคาด
ราคาเปิดบริเวณ 120 บาท บวก/ลบ เล็กน้อย หรือใกล้เคียงกับราคาสุดท้ายของ SCB (115.50 บาท) ก่อนวันขึ้นเครื่องหมายหมดสิทธิแลกหุ้น
ก่อนจะมาปิดที่ราคา 114.00 บาท
เพิ่มขึ้น 43 บาท เปลี่ยนแปลง +60.56% จากฐานที่เป็นราคาปิดของ SCBB (แบงก์ไทยพาณิชย์) ที่ 71.00 บาท
ราคาของ SCB(X) ที่เข้าเทรดวันแรก
ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดหลักเกณฑ์คล้ายกับหุ้น IPO
ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 0.01 บาท และสูงสุดไม่เกิน 3 เท่าของราคาปิด SCBB (71.00 บาท)
เมื่อวานนี้ราคาหุ้น SCB ขึ้นไปสูงสุด 121 บาท และต่ำสุด 113 บาท
ราคาของ SCB ถูกกดลงมาเล็กน้อยในช่วงท้ายตลาด หลังมีรายงานข่าวว่า FTSE ได้ปรับลดน้ำหนักหุ้น บมจ.เอสซีบี เอกซ์ (SCB) จากดัชนี FTSE All-World Index
เหตุผลเพราะสัดส่วนของนักลงทุนรายย่อยหรือฟรีโฟลทลดลง
การประกาศของ FTSE จะมีผล ณ ราคาปิดของวันนี้ (28 เม.ย.)
และคาดว่าจะมีเงินไหลออกมาจาก SCB ประมาณ 85 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 2,900 ล้านบาท
ทว่าการปรับลดน้ำหนักครั้งนี้เป็นเรื่องของทางเทคนิค
และไม่ได้เกี่ยวกับพื้นฐานของ SCB
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า น้ำหนักที่ถูกปรับลง ทำให้กองทุนประเภท Passive Fund ที่ลงทุนในหุ้นอ้างอิงดัชนี
จะต้องเทขายกันออกมา
ประเด็นที่น่าสนใจสำหรับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับ SCB
ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์ประเมินว่า วันที่ 2 ของการซื้อของ SCB จะมีผลต่อการ “เหวี่ยง” ของดัชนี SET อย่างมาก
โดยจะเป็นการเหวี่ยงขึ้น และน่าจะช่วยดันดัชนีขึ้นมาได้ 10-12 จุด และส่งผลต่อ SET50 Index ด้วย เพราะหุ้นจะถูกเข้าคำนวณใน SET50 แบบอัตโนมัติหลังสิ้นสุดการซื้อขาย SCB เมื่อวานนี้
แต่เมื่อมีข่าวเกี่ยวกับ FTSE ลดน้ำหนัก
จึงน่าจับตาดูว่า วันนี้ราคาหุ้น SCB จะไปต่อหรือปรับลดลงจากแรงขาย (ณ ราคาปิดวันนี้)
เมื่อวานนี้ SCB มีราคาปิด 114 บาท
นักวิเคราะห์ต่างแนะนำว่า ให้ขายทำกำไรออกไปก่อน และย้อนกลับมาซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว จึงเข้าทยอยสะสม
โดยเฉพาะบริเวณ 105-110 บาท
หากราคาหุ้น SCB ลงมาบริเวณนี้ ทำให้อัพไซด์เปิดกว้างขึ้นอย่างมากจากราคาพื้นฐานที่บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) แต่ละแห่งให้ราคาเป้าหมายไว้ระหว่าง 140–160 บาท
ในแง่ของพื้นฐานของ SCB
ธุรกิจใหม่ของ SCBX แบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ
อย่างแรกคือกลุ่ม สินเชื่อจำนำทะเบียน สินเชื่อดิจิทัล และเครดิตการ์ด
ในแง่ของสินเชื่อจำนำทะเบียน SCB จะได้เปรียบคู่แข่งขันรายอื่น ๆ ในด้านของ “ต้นทุน” ที่ต่ำกว่า จึงสามารถกำหนดอัตราดอกเบี้ยให้ลงมาถูกกว่าคู่แข่งขันได้
ส่วนกำไร (สินเชื่อจำนำทะเบียน) ยังคงอยู่ในระดับสูง
ขณะที่บริษัทร่วมทุนกับ ADVANC ทำสินเชื่อดิจิทัล
SCB จะได้เปรียบในด้านของฐานลูกค้า ADVANC ที่มีคนใช้บริการอยู่กว่า 44 ล้านราย
ธุรกิจอีกกลุ่มคือ “ธุรกิจบนแพลตฟอร์ม”
เช่น SCB Securities (SCBS) หรือ บล.ไทยพาณิชย์
มีการประเมินว่า ธุรกิจนี้จะ “หนุนกำไรทันที” ให้กับบมจ.เอสซีบี เอกซ์
2 กลุ่มธุรกิจนี้ ถูกจับตามองอย่างมากที่จะเข้ามาขับเคลื่อนผลประกอบการของ เอสซีบี เอกซ์ ให้เติบใหญ่
นอกเหนือจากธุรกิจธนาคาร ที่ปัจจุบัน ยังคงสร้างรายได้หลักให้กับ เอสซีบี เอกซ์
วันนี้ต้องการลุ้นกันว่า แรงขายของกองทุนประเภท Passive Fund ที่จะเทหุ้น SCB ออกมา กับนักลงทุนที่รอเข้าซื้อสะสม เพื่อลงทุนระยะปานกลางถึงยาว (รวมถึงกลุ่มเก็งกำไร)
จะช่วยประคองหรือหนุนราคา SCB ได้มากน้อยแค่ไหน