SAWAD-MTC ลงสุดหรือยัง
สังเกตราคาหุ้นทั้ง SAWAD และ MTC กันบ้างไหม หากย้อนกลับไปดูกราฟของทั้งสองหุ้นจะพบว่า ราคาปรับลงต่อเนื่องในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา
สังเกตราคาหุ้นทั้ง SAWAD และ MTC กันบ้างไหม
หากย้อนกลับไปดูกราฟของทั้งสองหุ้นจะพบว่า ราคาปรับลงต่อเนื่องในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา
ของ SAWAD ราคาปรับลงจากระดับประมาณ 80 บาท (พ.ค. 64) ล่าสุดวันที่ 3 พ.ค. 65 ราคาลงมาที่ 52-53 บาทต่อหุ้น หรือลงมาประมาณ 34%
ส่วน MTC ราคาช่วง 1 ปีย้อนหลัง (จาก พ.ค. 64) ลงจากบริเวณ 66 บาท
ล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ราคามาอยู่ที่ 45-46 บาท คิดเป็นเปลี่ยนแปลงร่วงประมาณ 32%
ราคาที่ปรับลงเมื่อเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ของสองหุ้นนี้อยู่ในระดับใกล้เคียงกัน
มีคำถามว่า เกิดอะไรขึ้น
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ หุ้นทั้งสองตัวนี้ต่างเป็นขาขึ้น เป็น Growth Stock นักลงทุนเข้ามาไล่ลงทุนกันคึกคัก มูลค่าการซื้อขายมากกว่าทุกวันนี้ค่อนข้างมาก
ปัจจัยลบที่เข้ามากดดันทั้ง SAWAD และ MTC น่าจะมีจากหลายปัจจัย
ทั้งของสถานการณ์โควิด-19 ที่อาจจะทำให้ความสามารถการจ่ายคืนหนี้ของลูกหนี้ลดลงไปบ้าง
การตั้งสำรองเพิ่มขึ้น
ดอกเบี้ยกลับมาอยู่ในช่วงของขาขึ้น
การแข่งขันในตลาดที่รุนแรงขึ้นจากบริษัทที่ทำธุรกิจคล้าย ๆ กัน ที่เป็นบริษัทลูกของธนาคารพาณิชย์
ความเสี่ยงด้านนโยบายจากภาครัฐ เช่น จากแบงก์ชาติ ที่พยายามเข้ามาควบคุมอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สินเชื่อประเภทต่าง ๆ
และน่าจะมีอีกหลายปัจจัย
ลักษณะของราคาหุ้นที่ค่อย ๆ ปรับลดลงมาต่อเนื่อง
คาดว่าน่าจะเป็นการปรับพอร์ตของกลุ่มนักลงทุนสถาบัน หรือกองทุนต่าง ๆ ที่ทยอยปล่อยออกมา
มีการวิเคราะห์กันว่า ประเด็นเรื่องดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาขึ้น และการคุมดอกเบี้ยเงินกู้ของแบงก์ชาติ
น่าจะเป็นปัจจัยที่กดดันทิศทางผลประกอบการของหุ้นสองตัวนี้มากสุด เพราะจะส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเวลาออกหุ้นกู้ในแต่ละครั้ง
ขณะที่ดอกเบี้ยสินเชื่อต่าง ๆ ที่เคยคิดกับลูกค้าในระดับ 25-30%
เริ่มถูกบีบให้แคบหรือปรับลดลงมา
สินเชื่อบางปะเภทถูกกดลงมาต่ำกว่า 20%
สถานการณ์แบบนี้จะทำให้ส่วนต่างแคบลง และไปกดดันภาพรวมของกำไรสุทธิปรับลดลง
จะเห็นได้จากการเติบโตของกำไร ไม่ได้เติบโตสูงเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว
เริ่มมีการประเมินจากนักวิเคราะห์ว่า ราคาหุ้นล่าสุดของทั้ง SAWAD และ MTC น่าจะลงมาใกล้จุดต่ำสุด
หรือตอบรับเกี่ยวกับปัจจัยลบทั้งหมดแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้น น่าจะผ่านจุดพีคไปแล้ว
ส่วนเรื่องการถูกคุมดอกเบี้ยเงินกู้ในสินเชื่อต่าง ๆ น่าจะค่อย ๆ เบาบางลงแล้ว เว้นแต่ยังมีสินเชื่อบางประเภทที่อยู่ระหว่างการพิจารณา เช่น สินเชื่อมอเตอร์ไซค์
ปัจจุบัน SAWAD เทรดกันที่ระดับพีอีเพียง 15-16 เท่า
และมีระดับ P/BV ที่ไม่ได้แพง คือ 2.92 เท่า
ส่วนอัตราผลตอบแทนเงินปันผลประมาณ 3.4-3.5%
เช่นเดียวกับ MTC ที่ล่าสุด เทรดกันระดับพีอี 19-20 เท่า และมี P/BV ที่ 3.90 เท่า
ส่วนอัตราผลตอบแทนเงินปันผลค่อนข้างต่ำ คืออยู่ที่ 0.81% เพราะทาง MTC ยังคงนโยบายการจ่ายเงินปันผลน้อย เพื่อนำเงินไปลงทุนและขยายสาขาเพิ่ม
แล้วให้นักลงทุนไปมีผลตอบแทนจากส่วนต่างราคาหุ้นหรือ Capital Gain แทน
ทว่า เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปแบบนี้ ต้องมาดูว่านโยบายของ MTC จะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่
เพื่อสร้างความน่าสนใจให้กับนักลงทุนเพิ่มขึ้น
ย้อนกลับมาที่ราคาหุ้นทั้ง SAWAD และ MTC
หากดูจากแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/65 บรรดานักวิเคราะห์คาดกันว่า กำไรน่าจะปรับลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
แต่หากเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ กำไรน่าจะปรับเพิ่มขึ้นได้
แต่หากผลประกอบการออกมามากกว่าคาดการณ์
น่าจะทำให้ราคาหุ้นค่อย ๆ เริ่มกลับมาได้
แต่หากต่ำกว่าคาดการณ์ เข้าใจว่าราคาน่าจะปรับลงจากปัจจุบันได้อีก