พาราสาวะถี
ขย่มกันแรงสะเทือนกันหนัก สนิมเนื้อในตนเริ่มส่งผลต่อเสถียรภาพของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจและรัฐบาลเรือเหล็ก ประเด็นค่าตัวส.ส. 30 ล้านบาท
ขย่มกันแรงสะเทือนกันหนัก สนิมเนื้อในตนเริ่มส่งผลต่อเสถียรภาพของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจและรัฐบาลเรือเหล็ก ประเด็นค่าตัวส.ส. 30 ล้านบาทแลกกับการล้มเก้าอี้นายกรัฐมนตรีนั้นเป็นเรื่องขี้ปะติ๋ว รู้กันอยู่ว่าพวกถนัดไอโอก็หนีไม่พ้นการปล่อยข่าวเพื่อดิสเครดิต ทำลายความน่าเชื่อถือของฝ่ายตรงข้าม หากแต่แท้ที่จริงแล้ว ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น การล้มหรืออยู่ยาวของขบวนการสืบทอดอำนาจนั้น อยู่ที่การจัดการผลประโยชน์ให้ลงตัวต่างหาก
ความเคลื่อนไหวของบรรดาพรรคเล็กพรรคน้อยที่ทำตัวเหมือนกบฏนั้น แท้ที่จริงก็เพื่อเป้าหมายที่ต้องการ หากสมหวังกันแล้วทุกอย่างก็จะเงียบหายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สิ่งสำคัญที่ผู้นำเผด็จการต้องตระหนักในฐานะคนที่พล่ามและคุยโวเรื่องไม่มีทุจริต ทำทุกอย่างโปร่งใส แต่รายล้อมรอบตัว บริวารทั้งหลายนั้นสุจริต มือสะอาดตามท่านผู้นำหรือไม่ หลายอย่างหลักฐานบานทะโร่จะอุ้มสมกันเพื่อไม่ให้ตัวเองมีมลทินคงไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง และไม่สง่างามเอาเสียเลยกับคนที่อ้างตัวว่าเป็นคนดี
กรณีของโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก หรือการประมูลท่อส่งน้ำอีอีซีนั้น เป็นตัวอย่างที่จะพิสูจน์ให้เห็นถึงความเอาจริงเอาจังต่อการจัดการความไม่โปร่งใสกับผู้มีอำนาจในการประมูลโครงการสำคัญของภาครัฐ ไม่ใช่แค่อ้างว่า “ตำแหน่งนายกฯ มีหน้าที่แค่กำกับดูแล” แล้วใช้วิธีการที่อ้างว่าตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเพื่อให้ทุกอย่างถูกลืมไปจากการใช้วิธีซื้อเวลาเท่านั้น แต่ต้องเอาจริงเอาจังที่จะกระชากหน้ากากของการทำให้เกิดกระบวนการซึ่งทำให้สังคมกังขาด้วย
เรื่องนี้ ศรีสุวรรณ จรรยา ที่ไปยื่นเรื่องให้ป.ป.ช.ทำการตรวจสอบ ก็ชี้ให้เห็นช่องอันเป็นพิรุธอื้อซ่า ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงทีโออาร์ ซึ่งศรีสุวรรณได้ยื่นร้องไปตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ก็ยังจะดันทุรังเดินหน้ากันต่อ พอใกล้จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จึงมาสั่งให้ชะลอ มันสะท้อนให้เห็นถึงความไม่จริงใจและจริงจังต่อการจัดการปัญหาการทุจริต ความไม่โปร่งใสในการดำเนินโครงการต่าง ๆ ที่สำคัญของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งอีอีซีที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจอ้างเป็นผลงาน ถือเป็นหน้าเป็นตา ไม่ควรมีอะไรทำให้แปดเปื้อน
สิ่งที่น่าสนใจจากการเปลี่ยนแปลงทีโออาร์ ในฐานะประชาชนธรรมดาทั่วไปก็มองเห็นได้แล้วว่ามันไม่ชอบมาพากล แต่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจกลับอ้างว่ามีหน้าที่แค่กำกับดูแล ทั้งที่มูลค่าของโครงการนี้สูงถึงกว่า 2 หมื่นล้านบาท มันต้องมีความเข้มงวดในทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับโครงการ พิรุธที่ศรีสุวรรณชี้นั้นล้วนแต่ทำให้เกิดความเคลือบแคลงทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นยกเลิกลักษณะต้องห้ามของผู้ยื่นข้อเสนอ ปรับลดทุนจดทะเบียนของผู้ยื่นข้อเสนอจาก 500 ล้านบาท เป็น 300 ล้านบาท
ปรับลดหนังสือรับรองวงเงินสินเชื่อจาก 800 ล้านบาท เป็น 300 ล้านบาท และเปลี่ยนข้อกำหนดทางเทคนิคของผู้ยื่นเสนอ จากต้องเป็นนิติบุคคลผู้มีอาชีพและประสบการณ์ในการประกอบธุรกิจ หรือบริหารจัดการระบบท่อส่งน้ำ เป็นต้องเป็นนิติบุคคลที่ดำเนินธุรกิจสาธารณูปโภคเกี่ยวกับการจัดการน้ำ และมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์การพิจารณาซองข้อเสนอ โดยในครั้งแรกจะนับคะแนนจากซองที่ 2 และซองที่ 3 รวมกัน จนกระทั่งมีการประกาศผู้ชนะการประมูลด้วยมูลค่า 2.5 หมื่นล้านบาท
นอกจากการเปลี่ยนเงื่อนไขหรือหลักเกณฑ์ใหม่ในครั้งที่ 2 อันเป็นข้อพิรุธสำคัญแล้ว ยังมีเรื่องที่ไม่ใช่แค่ศรีสุวรรณที่ยื่นร้องให้สอบ แม้กระทั่งบรรดาแกนนำพรรคเล็กที่เดินสายหารือกับฝ่ายค้านเวลานี้อย่าง พิเชษฐ สถิรชวาล คือ เหตุใดไม่มีการเปิดประมูลโครงการแบบอีบิดดิ้งให้ทุกบริษัทเข้ามาแข่งขันกัน แต่กลับใช้วิธีเรียกมาแค่ 5 บริษัท ในการแข่งขันเสนอราคา และสรุปให้บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด เป็นผู้ชนะ ทั้งที่ควรจะเชิญบริษัทอื่น ๆ โดยเฉพาะยักษ์ใหญ่ของวงการมาร่วมประมูลด้วย
ในประเด็นนี้เสี่ยหมาเห็นว่าถ้าไม่มีการเล่นแร่แปรธาตุแล้วเปิดประมูลกันอย่างโปร่งใส เชื่อว่ารัฐจะได้ผลประโยชน์ไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท มากกว่าที่บริษัทซึ่งชนะการประมูลเสนอให้ อย่างไรก็ตาม ในมุมทางการเมือง การเคลื่อนไหวของเสี่ยหมาในนามกลุ่ม 16 นั้น เป็นเรื่องธรรมดาที่คนทั่วไปจะมองว่ามีมิติของผลประโยชน์ทางการเมืองแอบแฝง ขณะเดียวกัน การสร้างแรงกระเพื่อมดังกล่าวก็ทำให้สังคมได้เห็นว่ามีความไม่ปกติเกิดขึ้นระหว่างแกนนำฝ่ายกุมอำนาจแน่นอน ทั้งพี่น้องแก๊ง 3 ป.และพรรคสืบทอดอำนาจ
จะเห็นได้ว่าในฐานะหัวหน้าพรรคพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ได้ยกหูหาเสี่ยหมาขอร้องให้นำเรื่องดังกล่าวไปพูดคุยกันในพรรคสืบทอดอำนาจ และ “ขอให้เบาเครื่องลงมาหน่อย” ซึ่งกลุ่มเคลื่อนไหวย้ำว่าไม่ลดราวาศอก หากยังมีการดันทุรังที่จะให้บริษัทดังว่าได้งาน ก็จะลงมติไม่ไว้วางใจ สันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และเลขาธิการพรรคสืบทอดอำนาจ ในฐานะเป็นประธานคณะกรรมการคัดเลือกบริษัทเพื่อดำเนินโครงการดังกล่าว
คำขู่ที่เกิดขึ้นมีข้อยกเว้นด้วยว่าไม่เกี่ยวกับการยกมือไม่ไว้วางใจผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ ตรงนี้ก็พอเห็นช่องของกลุ่มที่เคลื่อนไหวว่าต้องการอะไร แต่อย่างน้อยก็เห็นได้ชัดว่าการพุ่งเป้าไปที่สันติที่เป็นแม่บ้านพรรคสืบทอดอำนาจคนใหม่นั้น เป็นการเอาคืนกันทางการเมือง เนื่องจากกลุ่ม 16 มีสายสัมพันธ์อันดีกับ ธรรมนัส พรหมเผ่า คนที่ถูกอัปเปหิไปจากพรรคแกนนำรัฐบาล ทว่าทั้งหมดนี้จะไม่มีน้ำหนักใด ๆ หากทุกอย่างได้ดำเนินการไปด้วยความโปร่งใส นี่เป็นแค่น้ำจิ้ม ยังมีทีเด็ดที่เป็นข้อมูลอินไซด์เกี่ยวกับการทุจริตเรื่องอื่น ซึ่งพร้อมที่จะถูกส่งถึงมือฝ่ายค้าน
งานนี้คนที่อ้างว่า “ผมไม่เคยทำ” เรื่องการซื้อตัวส.ส. คงจะปล่อยให้ผ่านไปได้ยาก ยังไงก็ต้องจัดการสยบแรงกระเพื่อมจากม้าพยศเหล่านี้ให้จบในเร็ววัน มิเช่นนั้น ข่าวการนัดกินข้าวฝ่ายค้านของกลุ่ม 16 ข่าวพรรคเศรษฐกิจไทยนัดหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลกับฝ่ายค้าน และการเล่นเอาล่อเอาเถิดเรื่องวันเวลาที่จะยื่นซักฟอกของฝ่ายค้าน รวมไปถึงประเด็นนายกฯ สำรองก็จะตามหลอกหลอนทำให้ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจเครียดได้รายวัน ยิ่งถูกนักข่าวตามถามปมพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.กันรายวัน โรคประสาทจะเล่นงานเอาง่าย ๆ