KBANK สู่นายหน้าประกัน.!?

ตอนนี้ดูเหมือนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญกับแบงก์มากขึ้นเรื่อย ๆ เห็นได้จากการที่หลายแบงก์ปรับตัวขยับไปทำธุรกิจที่นอกเหนือแบงก์มากขึ้น


ตอนนี้ดูเหมือนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญกับแบงก์มากขึ้นเรื่อย ๆ เห็นได้จากการที่หลายแบงก์ปรับตัวขยับไปทำธุรกิจที่นอกเหนือแบงก์มากขึ้น เพื่อมุ่งหารายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย หนึ่งในนั้นก็คือ แบงก์สีเขียว ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK

ที่จริง KBANK เป็นเจ้าแห่งการขยับ เป็นมากกว่าแบงก์มาตั้งนานนมแล้วนะ แค่การขยับอาจไม่หวือหวาเหมือนแบงก์อื่นที่เปิดตัวแบบอึกทึกครึกโครมก็เท่านั้น เลยไม่เป็นที่สนใจมากนัก…

ขณะที่การขยับครั้งล่าสุดของ KBANK นั้นน่าสนใจ เพราะเป็นการจัดตั้งบริษัท กสิกร ไลน์ อินชัวรันส์โบรกเกอร์ จำกัด เพื่อรุกสู่ธุรกิจโบรกเกอร์ประกัน หรือนายหน้าประกันเต็มรูปแบบ…

แต่ก็น่าคิดในเมื่อ KBANK มีแบงก์แอสชัวรันส์ นายหน้าขายประกันอยู่แล้ว ทำไมต้องตั้งบริษัทขึ้นใหม่ให้ยุ่งยากด้วยล่ะ..?

นั่นอาจเป็นเพราะ 1) ถ้ายังจำกันได้ เมื่อช่วงกลางปี 2564 KBANK ประกาศเซ็นสัญญาขายประกันชีวิตให้กับบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ MTL ระยะเวลา 10 ปี เริ่มตั้งแต่ 1 ม.ค. 2565-1 ม.ค. 2574 ซึ่งเป็นสัญญาแบบเอ็กซ์คลูซีฟ นั่นหมายความว่า KBANK ต้องขายประกันให้กับ MTL เพียงเจ้าเดียวเท่านั้น เพื่อแลกกับเงินค่าแรกเข้า 12,700 ล้านบาท ทำให้ไม่สามารถหากินกับเจ้าอื่นได้…

KBANK เลยแก้เกมด้วยการตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะทำให้สามารถขายให้กับบริษัทประกันอื่น ๆ ได้ด้วย

2) ก็ชัดเจนว่า KBANK ต้องการเพิ่มรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ผ่านรายได้จากค่านายหน้าขายประกัน หรือค่าคอมมิชชั่น ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีมาร์จิ้นสูง ดูได้จากผลประกอบการของบริษัทนายหน้าขายประกันรุ่นพี่อย่าง บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TQM ที่มีอัตรากำไรสุทธิเฉลี่ยสูงกว่า 20% เลยทีเดียว

และ 3) เป็นเทรนด์ธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะการมาของโควิดที่เป็นปัจจัยเร่งเร้าให้คนหันมาทำประกันกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิต หรือประกันภัย ก็จะช่วยหนุนให้ธุรกิจนายหน้าขายประกันมีโอกาสเติบโตตามไปด้วย

โดยการรุกสู่ธุรกิจนายหน้าขายประกันครั้งนี้…KBANK สามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่เดิม ไม่ว่าจะเป็นสาขา พนักงานสาขา ตู้เอทีเอ็ม หรือแพลตฟอร์มดิจิทัล ซึ่งผ่านการลงทุนครั้งเดียวไปแล้ว มาต่อยอดขายประกัน ก็น่าจะสามารถสร้างรายได้ได้เป็นกอบเป็นกำอ่ะนะ

ขณะที่ถ้าไปดูพอร์ตสินเชื่อส่วนบุคคล ณ สิ้นปี 2564 ของ KBANK อยู่ที่ 73,333 ล้านบาท บ่งบอกว่า น่าจะมีฐานลูกค้ารายย่อยอยู่เยอะ ซึ่งสามารถพ่วงขายประกันไปพร้อมโปรดักส์อื่น ๆ ได้ด้วย…

ทำให้ธุรกิจนายหน้าขายประกันน่าจะมาช่วยหนุนการเติบโตของ KBANK ได้ไม่มากก็น้อย…เผลอ ๆ ในอนาคตจะเป็นอีกตัวหนึ่งที่จะมาชดเชยค่าธรรมเนียม หรือค่าฟีที่มีแนวโน้มลดลง จากการดิสรัปชั่นก็เป็นได้

ซึ่งก็ต้องติดตามว่า บริษัท กสิกร ไลน์ อินชัวรันส์โบรกเกอร์ จะเริ่มรันธุรกิจเมื่อใด..?

แต่เชื่อว่านี่คงไม่ใช่ธุรกิจสุดท้ายที่ KBANK จะแตกไลน์แน่ ๆ น่าจะมีธุรกิจอื่น ๆ ตามมาอีกเพียบ…

ส่วนจะเป็นธุรกิจอะไรนั้น…ต้องไปกระซิบถามแม่ทัพหญิง “ขัตติยา อินทรวิชัย” เอาเองแล้วล่ะ..!!

…อิ อิ อิ…

Back to top button