พาราสาวะถี

เริ่มจะใจชื้นกันขึ้นมาแล้วสำหรับผู้ประกอบการผับ บาร์ คาราโอเกะ เมื่อ อนุทิน ชาญวีรกูล ส่งสัญญาณสั่งให้กรมควบคุมโรคไปหามาตรการเพื่อที่จะให้มีการกลับมาเปิดบริการได้ในไม่ช้า


เริ่มจะใจชื้นกันขึ้นมาแล้วสำหรับผู้ประกอบการผับ บาร์ คาราโอเกะ เมื่อ อนุทิน ชาญวีรกูล ส่งสัญญาณสั่งให้กรมควบคุมโรคไปหามาตรการเพื่อที่จะให้มีการกลับมาเปิดบริการได้ในไม่ช้านี้ เช่นเดียวกับการผ่อนคลายการเดินทางเข้าประเทศที่จะขยับอีกขั้นด้วยการยกเลิกลงทะเบียนผ่านไทยแลนด์ พาส สำหรับคนไทยที่อยู่ต่างประเทศแล้วจะเดินทางกลับ การขยับเช่นนี้เป็นเพราะทางกระทรวงสาธารณสุขเชื่อมั่นว่าโควิด-19 จะไม่รุนแรงไปมากกว่านี้แล้ว

เหตุที่ทำให้มั่นใจกันได้มากขึ้นก็เพราะตัวเลขของผู้ป่วยหลังเทศกาลสงกรานต์ไม่ได้ก้าวกระโดดเหมือนอย่างที่หวาดวิตก นั่นเป็นผลมาจากความร่วมมืออย่างดีเยี่ยมของประชาชนส่วนใหญ่ แต่ระหว่างนี้สิ่งที่ฝ่ายกุมอำนาจและหมอการเมืองจะต้องกำชับและเน้นย้ำกับประชาชนก็คือ การ์ดต้องไม่ตก แม้อาจจะสวนทางกับแนวคิดและนโยบายที่จะทำให้คนได้กลับมาใช้ชีวิตและทำกิจกรรมกันเกือบเป็นปกติ แต่มาตรการส่วนบุคคลถือเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่จะไม่ให้ตัวเลขติดเชื้อกลับมาอยู่ในหลักหมื่นรายเหมือนที่ผ่านมา

ด้านผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ นำคณะเหินฟ้าเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐอเมริกา สมัยพิเศษ ที่กรุงวอชิงตัน ก่อนขึ้นเครื่องถูกนักข่าวถามมีความเป็นห่วงสถานการณ์ในประเทศหรือไม่ มีการส่ายหัวเป็นคำตอบ แต่ไม่ได้หมายความถึงว่าไม่เป็นห่วง เป็นปฏิกิริยาที่บอกกับสื่อว่าเบื่อหน่ายกับคำถามประเภทนี้ ซึ่งมันย่อมเป็นธรรมดาเมื่อสถานการณ์ทางการเมืองในเวลานี้ไม่ใช่เรื่องความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายค้าน หากแต่เป็นสนิมเกิดแต่เนื้อในตน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสนิมที่กัดกินกันภายในพรรคสืบทอดอำนาจ ความไม่ลงรอยกันระหว่างพี่น้องแก๊ง 3 ป. จับตาเป็นพิเศษคือพี่ใหญ่กับน้องเล็ก ที่ในมุมมองของ ทักษิณ ชินวัตร มองว่านี่เป็นภาวะ Love-Hate Relationship หรือทั้งรักทั้งเกลียด เมื่อเป็นเช่นนี้สิ่งที่ประชาชนจะต้องจับตามองกันก็คือ บรรยากาศหลังจากมีการเปิดประชุมสภาอย่างเป็นทางการไปแล้ว มีวาระสำคัญที่จะพิจารณาคือร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 และญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ฝ่ายค้านยังใช้วิธีเอาล่อเอาเถิดอยู่เวลานี้

พอจะเข้าใจได้ ท่วงทำนองของฝ่ายค้านเกี่ยวกับการยื่นซักฟอก เพราะต้องรอประเมินท่าทีในการอภิปรายร่างงบประมาณปี 2566 ที่จะเข้าสู่การพิจารณาในต้นเดือนมิถุนายนนี้เสียก่อน แน่นอนว่าฝ่ายค้านต้องจัดหนักในทุกเรื่องอยู่แล้ว เน้นการตั้งข้อสังเกตในงบประมาณที่สำคัญ งบของกระทรวงกลาโหมและกองทัพจะถูกจับขึงพืดเป็นพิเศษ และจะเป็นช่วงจังหวะที่บรรดาลิงทั้งหลายจะได้ฉกฉวยต่อรองขอกล้วยกันอุตลุด ตรงนี้จะได้เห็นชุดข้อมูลส่วนหนึ่งที่จะถูกปล่อยเพื่อการต่อรอง

ไม่ต้องสงสัย หากผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจไม่ให้ราคา ก็จะมีการรุกคืบด้วยการปล่อยชุดข้อมูลต่อเนื่องซึ่งเป็นเรื่องที่ฝ่ายค้านรอเก็บเพื่อนำไปประกอบในการยื่นซักฟอก ซึ่งจะว่าไปแล้วมีข้อมูลจำนวนหนึ่งที่ถูกส่งไปอยู่ในมือของทีมเตรียมการซักฟอกแล้ว เพียงแต่ว่ายังไม่ชัดเจนหรือมีน้ำหนักมากพอที่จะเล่นงานคนที่ถูกอภิปรายให้เกิดบาดแผลได้ นั่นเป็นเพราะผู้ที่นำส่งข้อมูลให้นั้นยังอยู่ระหว่างการยื่นหมูยื่นแมวกับอีกฝ่ายเพื่อไล่ราคาจนเป็นที่พอใจ

บอกมาโดยตลอดทุกครั้งที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ บรรดาพ่อค้าข้อมูลทั้งหลายจะอิ่มหมีพีมันกันเป็นพิเศษ ไม่ใช่เฉพาะฝ่ายกุมอำนาจเท่านั้นที่จะต้องระแวดระวังไม่ให้เกิดภาวะเกลือเป็นหนอน ฝ่ายค้านก็เช่นกัน ต้องปกปิดกันสุดฤทธิ์เพื่อไม่ให้ข้อสอบรั่ว ที่ผ่านมาน่าจะเห็นแล้วว่าฝ่ายไหนที่เพลี่ยงพล้ำมากกว่ากัน อย่างไรก็ตามบริบททางการเมืองนาทีนี้กับการซักฟอกหนที่นำมาซึ่งการถูกขับออกจากพรรคสืบทอดอำนาจของ ธรรมนัส พรหมเผ่า ว่ากันว่าแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

หนนั้นอาจมีประเด็นมาจากส.ส.จำนวนไม่น้อยในพรรคสืบทอดอำนาจไม่พอใจที่คนซึ่งเป็นรัฐมนตรี รวมไปถึงผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ ทำตัวห่างเหินไม่ให้ราคากับนักเลือกตั้ง จนสุดท้ายต้องเกิดการลากกระเป๋าเข้าสภา จึงสามารถสร้างความสบายใจต่อเสียงที่จะยกมือหนุนได้ แต่การซักฟอกหนนี้เสียงของฝ่ายกุมอำนาจไม่ได้อยู่ที่พรรคแกนนำรัฐบาลเป็นผู้คุมเกม โดยมีมือแจกกล้วยคอยประสาน หากแต่ขึ้นอยู่กับคนที่ถูกมองว่าเป็นผู้กุมชะตากรรมรัฐบาลอย่างอนุทินแห่งภูมิใจไทยนั่นเอง

ไม่ใช่เฉพาะส.ส.ของตัวเองที่มีอยู่ในมือซึ่งเหนือกว่าเพื่อนร่วมรัฐบาลอย่างประชาธิปัตย์ ยังมีพวกเตรียมเปลี่ยนสีเสื้อที่อยู่ในซีกฝ่ายค้านที่พร้อมโหวตให้อยู่แล้ว และพวกที่ไม่ได้ย้ายข้างแต่รอรับเงื่อนไขพิเศษ กรณีนี้ก่อนหน้าทางพรรคสืบทอดอำนาจมีธรรมนัสเป็นคนขับเคลื่อน แต่เมื่อผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจเลือกที่จะแตกหักไปแล้ว ก็ต้องไปยืมจมูกคนอื่นหายใจ เพราะบรรดารัฐมนตรีสายตรงทั้งหลายนั้นเป็นพวกที่ใช้เป็นปากเสียงแทนได้ แต่ไม่มีบารมีพอที่ไปขอให้นักเลือกตั้งมาช่วยค้ำยันเสถียรภาพให้ได้

ความขัดแย้งที่ยังดำเนินไปต่อเนื่องนั้น มีการมองไปถึงความเปลี่ยนแปลงที่ว่าผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจอาจยืนระยะไม่ครบยก อยู่ไม่ครบวาระ แต่ไม่ได้หมายถึงมีปัญหาจากปมการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเกิน 8 ปีตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด เพราะประเด็นนี้ต่อให้มีการยื่นร้องให้ตีความไม่ว่าจะมุมไหนก็ตาม ฟันธงล่วงหน้าล้านเปอร์เซ็นต์ยังไงก็รอด ปมที่จะทำให้ต้องไปก่อนกำหนดคือ ผลงานที่ไม่ปรากฏหากลากยาวจนครบวาระเกรงว่าโอกาสที่จะกลับมาหลังเลือกตั้งไม่น่าจะมี

ดังนั้น เมื่อผ่านร่างงบประมาณปี 2566 ไปได้ งบหาเสียงจัดกันเต็ม การยุบสภาเพื่อชิงความได้เปรียบจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ขณะเดียวกันสถานการณ์ในช่วงเวลานั้นอาจจะมีการขยับกันเรื่องนายกฯ สำรองที่พูดกันไว้ก่อนหน้านี้หนักหน่วงมากขึ้น ประสาคนที่ไม่ยอมเสียหน้าต้องชิงลงมือด้วยตัวเองก่อน ส่วนที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจแสดงความมั่นอกมั่นใจจะอยู่ไปจนกว่าตัวเองจะพอใจ ในความเป็นจริงมันเป็นเช่นนั้นหรือไม่

บรรดาที่ปรึกษาโดยเฉพาะเนติบริกรที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจไว้วางใจ น่าจะยื่นกระจกให้ท่านผู้นำได้ส่องดูแล้วว่า ความเป็นจริงของสถานการณ์เป็นอย่างไร เหมือนที่ทักษิณในฐานะคนที่เคยมีอำนาจและเหลิงอำนาจมาก่อนให้ความเห็น ไม่มีใครกล้าพูดความจริงกับท่านเพราะท่านมีอำนาจมาก และอยู่นานจนไม่มีใครกล้าพูดความจริง ทำให้ท่านจะไม่รู้ความจริง ภาษานักรัฐศาสตร์บอกว่า “ถ้ายิ่งคุณมีอำนาจมากเท่าไหร่ คุณกำลังอยู่ห่างความจริงมากเท่านั้น”

Back to top button