OR ลุ้นผ่าน 27 บาท

หากมองทั้งในทางเทคนิค และพื้นฐานขณะนี้

ราคาหุ้นของบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR (โออาร์) ราคายังผ่าน 27.00 บาท ค่อนข้างยาก ถึงยากมาก ๆ

หากดูจากกราฟหุ้น OR ก่อนหน้าที่ราคาหุ้นจะร่วงลงมาจากระดับ 30 บาท

และมาเคลื่อนไหวบริเวณ 25 บาท +/- อยู่พักใหญ่นั้น

มีอยู่ประมาณ 3-4 ครั้ง ที่ราคาหุ้นขึ้นมาแถว ๆ 27.00–27.50 บาท

แต่จนแล้วจนรอด ราคายังวิ่งผ่านไม่ได้

ทำให้ราคาหุ้นโออาร์ ลงมาพักฐานบริเวณ 24.00–25.50 บาท

ก่อนจะมาดีดกลับเมื่อวานนี้ ราคาขึ้นไปสูงสุด 26.75 บาท และลงมาปิด 26.50 บาท ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายกลับมาหนาแน่นกว่า 2,825 ล้านบาท

มาดูสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้นโออาร์ดีดกลับเมื่อวานนี้

หลัก ๆ จากการรายงานผลประกอบการงวดไตรมาส 1/2565

โออาร์มีกำไรฟื้นตัวอย่างโดดเด่น หรือกว่า 3.8 พันล้านบาท

แม้ว่าตัวเลขกำไรจะลดลง 4% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2564 แต่เพิ่มขึ้นถึง 64% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2564

และที่สำคัญ กำไรที่ออกมานั้น มากกว่าที่นักวิเคราะห์หรือตลาดคาดการณ์ไว้

จึงเป็นเซนติเมนต์เชิงบวกสำหรับหุ้นโออาร์ในช่วงนี้

กำไรของโออาร์ที่โดดเด่น มาจากกลุ่ม Mobility ที่มีปริมาณการขายน้ำมันถึง 6.7 พันล้านลิตรหลังจากมาตรการควบคุมโควิดเริ่มผ่อนคลาย

การขายน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น ทำให้ค่าการตลาดทะยานขึ้นมาเป็น 1.14 บาทต่อลิตร สำหรับไตรมาส 1/2565

จากที่เคยอยู่ระดับต่ำ 0.98 บาทต่อลิตรในช่วงไตรมาส 4/2564

กำไรของน้ำมันเบนซินที่ดีขึ้นมาจากการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้นในช่วงราคาน้ำมันดีดขึ้น

มาดูธุรกิจ Lifestyle หรือทางด้านนอน-ออยล์ กันบ้าง

พบว่า EBITDA (Earnings Before Interest, tax, Depreciation, and Amortization หรือกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ย) ปรับดีขึ้นมาเป็น 1.3 พันล้านบาท

หรือเพิ่มขึ้นถึง 27% จากไตรมาส 1/2564

และเพิ่มขึ้น 13% จากไตรมาสก่อนหน้า (Q4/2564) สาเหตุจากสถานการณ์โควิดที่ดีขึ้น

โออาร์ เมื่อมีค่าการตลาด (น้ำมัน) สูงขึ้น

และตัวเลข EBITDA หรือกำไรก่อนภาษีเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ทำให้มีนัยสำคัญเชิงบวกต่อผลประกอบการของโออาร์

ราคาหุ้นที่วิ่งเมื่อวานนี้ น่าจะสะท้อนเกี่ยวกับผลประกอบการของไตรมาสแรก

มาถึงคำถามว่า แล้วราคาหุ้นโออาร์จะวิ่งไปต่อได้ไหม

หากดูจากราคาเป้าหมายของนักวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่ง

ราคาเป้าหมายอยู่ระหว่าง 22.00–32.00 บาท ต่อหุ้น และมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 28.00 บาท +/- เล็กน้อย

ทำให้ราคาหุ้นน่าจะถูกคลึงไว้บริเวณปัจจุบันนี่แหละ หรือ 26.00–27.00 บาท

ส่วนแนวโน้มไตรมาส 2 และไตรมาสถัด ๆ ไป

นักวิเคราะห์มีการประเมินว่า แนวโน้มกำไร หรือค่าการตลาดของโออาร์น่าจะดีขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะค่าการตลาดจากน้ำมันดีเซลที่รัฐบาลทลายเพดานที่เคยอั้นไว้ไม่ให้เกิน 30 บาท ขึ้นมาเป็น 32 บาท

ตรงนี้ทำให้โออาร์จะมีค่าการตลาดดีขึ้นจากน้ำมันดีเซล นอกเหนือจากน้ำมันเบนซิน

ยอดขายน้ำมันน่าจะเพิ่มขึ้น (แม้ราคาน้ำมันปลีกจะสูงขึ้น) จากที่คนกลับมาเดินทางกันมากขึ้น

ส่วนธุรกิจนอน-ออยล์ เช่น กาแฟ และร้านอาหารต่าง ๆ ของโออาร์ น่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้น และส่งผลต่อตัวเลข EBITDA ที่เริ่มมีสัดส่วนมากขึ้นเรื่อย ๆ

ทำให้คาดการณ์ไตรมาส 2/2565 ของโอออาร์ น่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกได้

แต่อย่างที่เคยเขียนไว้ก่อนหน้านี้

หุ้น… ต่อให้มีแนวโน้มที่ดี พื้นฐานดี แต่หากไม่มี “เจ้ามือ” นั้น

ราคาหุ้นยากที่จะวิ่งขึ้นไปได้