ขึ้นวัน ลงวันโมนิก้าและทีมงาน
*วานนี้ “โมนิก้า” ต้องมานั่งลุ้นไปด้วยกับดัชนีว่าจะไปต่อหรือไม่ ทั้งๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยยังเอาแน่ เอานอนไม่ได้สักที แต่ความกังวลก็เกิดขึ้นจริงๆ สำหรับสถานการณ์ของตลาดหุ้นที่แกว่งตัว “ขึ้นวันลงวัน” ให้เห็นอีกครั้ง...และสถานการณ์ที่ว่านี่ เหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า ตลาดหุ้นไทยกำลังเข้าช่วงของการปรับฐานใหญ่ ทำให้การปรับตัวขึ้นแรงก่อนหน้านี้เป็นแค่ “ขึ้นเพื่อลง”อย่างที่เห็น ซึ่งเป็นผลจากแรงเทขายจริงๆ นะคะ
*วานนี้ “โมนิก้า” ต้องมานั่งลุ้นไปด้วยกับดัชนีว่าจะไปต่อหรือไม่ ทั้งๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยยังเอาแน่ เอานอนไม่ได้สักที แต่ความกังวลก็เกิดขึ้นจริงๆ สำหรับสถานการณ์ของตลาดหุ้นที่แกว่งตัว “ขึ้นวันลงวัน” ให้เห็นอีกครั้ง…และสถานการณ์ที่ว่านี่ เหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า ตลาดหุ้นไทยกำลังเข้าช่วงของการปรับฐานใหญ่ ทำให้การปรับตัวขึ้นแรงก่อนหน้านี้เป็นแค่ “ขึ้นเพื่อลง”อย่างที่เห็น ซึ่งเป็นผลจากแรงเทขายจริงๆ นะคะ
*สถานการณ์ที่เกิดขึ้นฟ้องให้เห็นได้ชัด จากช่วงภาคเช้าดัชนีปิดบวกอยู่ที่ 1,424.96 จุด บวกไป 1.54 จุด ขณะที่ภาคบ่ายดัชนีดันกลับมาปิดลบ…โดยปิดที่ 1,413.16 จุด ลบไป 10.26 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.40 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการขายทำกำไร อย่างนักลงทุนรายย่อย 1,161.01 ล้านบาท รวมถึงกองทุนกลับลำเทขายออกมา 365.03 ล้านบาท เห็นแบบนี้เดี๊ยนแทบจะไม่ต้องอธิบายอะไรมากมายเลย
*ประเด็นทั้งหมดที่กล่าวถึงไม่มีอะไรมาก แค่ให้นักลงทุนทันกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก็เท่านั้น เพราะ “โมนิก้า” เชื่อว่าดัชนียังคงพัดหวนอยู่อย่างนี้อีกสักระยะ พยายามแนะนำให้แฟนคลับเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋ว่า“หุ้นลงได้ ก็ขึ้นได้” อย่าเกิดอาการวิตกจริตจนเกินเหตุ ไม่เช่นนั้นจะเสียทั้งของเสียทั้งรอบ นาทีนี้ถึงต้องหาจังหวะงามๆสอยหุ้นรายตัวเข้าพอร์ตให้ได้ตามแผนที่ตั้งไว้นะเจ้าคะ
*ด้วยเหตุนี้ “โมนิก้า” ยังต้องค้นหาหุ้นดาวเด่นที่ปรับตัวขึ้นมาให้กันนะจ๊ะ จะบอกให้… อย่างหุ้น BIG ผู้นำด้านกล้อง อุปกรณ์ถ่ายภาพ มือถือและอุปกรณ์ไงละ…ช่วงนี้ราคาหุ้นวิ่งเกือบสัปดาห์แล้ว วานนี้ ราคาปิดที่ 1.70 บาท บวกไป 0.04 บาท หรือขึ้นไป 2.41% มูลค่าการซื้อขาย 35.90 ล้านบาท ทำให้เดี๊ยนอดที่จะพูดถึงไม่ได้ และยิ่งธุรกิจเค้าเติบโตดี้ดี๊จนเดี๊ยนแอบอิจฉาอยู่เหมือนกัน
*ส่วนในรายนี้จะมองข้ามไปก็กระไรอยู่ เมื่อผลการดำเนินงานที่ออกมายังสวยสดงดงาม โดยเฉพาะหุ้นJASแม้ยังคงรับรู้กำไรพิเศษจากการทยอยโอนสินทรัพย์เส้นใยแก้วนำแสง (FOC) เข้ากองทุน JASIF ก็ตาม แต่ภาพรวมเดี๊ยน คอนเฟิร์มว่าสดใส ล่าสุดราคาหุ้นปิดที่ 5.90 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 1.72% มูลค่าการซื้อขาย 2,583.24 ล้านบาท งานนี้คิดกันเองว่าจะไล่ซื้อหุ้นเข้าพอร์ตหรือเปล่า….
*ด้านหุ้น WAVE ก็มาแรงแบบฉุดไม่อยู่ ดูได้จากราคาหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 6.50 บาท บวก 1.10 บาท หรือบวกไป 20.37% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 165.31 ล้านบาท แต่จนแล้วจนรอดความแซ่บก็ทำพิษ หนีไม่ได้ตาอย่างตลาดหลักทรัพย์ฯ จับเข้ามาตรการกำกับการซื้อขาย ระดับ 1 : Cash Balance มีผล 6 พ.ย.-26 พ.ย. 58 ไปโดยปริยายแต่ถ้านักลงทนจะลงทุนต่อก็คิดกันเอาเองแล้วกันเนอะ…
*มาต่อที่ TAKUNI ชาวดอยคงจะโล่งอกโล่งใจไปได้เปราะหนึ่ง! เพราะเดี๊ยนเห็นตัวเลขงบไตรมาส 3 ที่ออกมามีกำไรถึง 24.11 ลบ. เติบโต 352.95% งานนี้ต้องขอปรบมือให้คุณประเสริฐที่ปั้นตัวเลขสวยๆ ออกได้ถูกใจนักลงทุนเสียเหลือเกินค่ะ แต่อย่างว่า “โมนิก้า” เป็นพวกนักสำรวจเลยเหลือบไปเห็นตัวเลขที่ออกมาสวยๆ รอบนี้ ล้วนแต่เป็นกำไรจากธุรกิจก่อสร้างทั้งนั้น ส่วนธุรกิจหลักขายแก๊สและขนส่ง LPG เห็นแล้วรันทดใจแทนเสียจริง เห็นที“พี่ประเสริฐ”คงจะต้องหันมาเอาดีด้านธุรกิจก่อสร้างแทนเลยดีกว่าไหมคะ
*เม้ามาถึงหุ้นพี่บิ๊กกลุ่มรับเหมาฯ อย่าง ITDตัวเดิมเพิ่มเติมเดี๋ยวบอก โดยวันนี้พี่บิ๊กเจอข่าวร้ายถล่มท้ายตลาดจนราคาหุ้นถึงกับรูดหนัก มาอยู่ที่ 7.70 บ. ลบไป 0.55 บ. หรือ 6.67% ด้วยวอลุ่มทะลักกว่า 3.38 พันล้านบาท ส่วนเรื่องข่าวร้ายที่ว่าก็คงไม่พ้นเรื่องของรถไฟทางคู่ คลอง 19-แก่งคอย สัญญา 1-2 รวมมูลค่า 1.2 หมื่นล้าน ที่มีการเลื่อนเสนอราคาออกไปจากเดิมกำหนด แถมยังมีกระแสเม้าจากชาวเน็ตว่าจะเพิ่มทุนอีกด้วย แหมๆ .อย่างนี้นักลงทุนที่ไม่ชอบเล่นกับความเสี่ยงก็ทิ้งหุ้นออกมาก่อนนะสิคะ แต่สำหรับ “โมนิก้า” มองว่าหุ้นตัวนี้เจอข่าวร้ายทีไรก็ปรับตัวขึ้นเด้งกลับได้อย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วัน เห็นของเซลล์ขนาดนี้ไม่เข้าเก็บก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วนะค้า