ทนายเฒ่าคัมแบ็ก!
ในที่สุดตลาดหุ้นไทยก็ถูกชี้นำจากอิทธิพลของตลาดหุ้นต่างประเทศเหมือนเดิม และทำให้การวิ่งขึ้นไปถึงระดับ 1,640.69 จุดเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก ๆ
*ในที่สุดตลาดหุ้นไทยก็ถูกชี้นำจากอิทธิพลของตลาดหุ้นต่างประเทศเหมือนเดิม และทำให้การวิ่งขึ้นไปถึงระดับ 1,640.69 จุดเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก ๆ แต่ท้ายสุดกลับย่อตัวมาปิดที่ระดับ 1,625.18 จุด ลบไป 1.05 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.80 หมื่นล้านบาท กลายเป็นประเด็นที่ทำให้ “โมนิก้า” ตั้งตัวไม่ทันอีกเช่นกัน เพราะโมเมนตัมเมื่อวันก่อนทำท่าจะไซด์เวย์อีกพักใหญ่ แต่เอาเข้าจริงกลับพุ่งกระฉูดอย่างร้อนแรง จนดูเหมือนไม่แคร์เรื่องราวที่เป็นตัวถ่วงตลาดหุ้นอีกเลยนะจ๊ะ
*ประเด็นข้างต้นทำให้เดี๊ยนเกิดความสับสนต่อสถานการณ์มากขึ้นไปอีก และทำให้ตลาดหุ้นไทยเข้าสู่โหมดเกมหุ้นแบบเต็มตัว ซึ่งมีตัวแปรหลักอยู่ที่ฝั่งอเมริกามีข่าวดีเข้ามาซัพพอร์ตต่อเนื่องขนาดไหน ? และความกังวลต่อปัญหาเงินเฟ้อทุเลาลงขนาดไหน ? หรือแม้กระทั่งอาการที่มีต่อการเร่งขึ้นดอกเบี้ยนอยด์ขนาดไหน ? ล้วนเป็นประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนในวันหน้าอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ
*จุดนี้เองที่ทำให้ “โมนิก้า” เลือกที่จะเม้าท์ถึงเรื่องฮอต ๆ ของบรรดาคนช่างเผือกแทนเรื่องตลาดหุ้น เพราะมีเรื่องราวที่ทำให้ผู้คนเกิดสงสัยมากเหลือเกิน และตัวอีฉันก็อยากจะรู้เหมือนกัน ว่าคนเหล่านั้นกำลังคิดจะทำอะไร ? แถมแต่ละชื่อที่ถูกเปิดเผยออกมา ก็ทำให้หลายคน “อึ้งกิมกี่” กันเป็นแถว ซึ่งเป็นตัวจุดชนวนความเผือกของตัวอีฉันเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ เพราะเที่ยวนี้ทนายเฒ่าโดดลงมาเล่นด้วยตัวเองน่ะซี
*ว่ากันว่าการเข้ามาของทนายเฒ่าเที่ยวนี้ไม่ธรรมดา เพราะการเข้ามาถือหุ้นใน TVD ด้วยเงินลงทุนในระดับ 200 ล้าน ถือเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ค่อยได้เห็นกันสักเท่าไหร่! เพราะตาเฒ่าเป็นคนที่ถนัดลงทุนมากกว่าถนัดธุรกิจ จึงทำให้เชื่อว่าจะมีปรากฏการณ์ผ่าซากบริษัทเพื่อทำให้ตัวเบาขึ้น ไม่เช่นนั้นทุกอย่างจะไม่เป็นเหมือนที่วางแผนไว้ และจะทำให้เกมหุ้นพังในเวลาอันรวดเร็วนะจะบอกให้
*ถามว่าช็อตแรกที่ทุกคนจะได้เห็นคืออะไร “โมนิก้า” ตอบได้ทันทีว่า การที่กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่ใช้สิทธิในการเพิ่มทุนแบบ RO พร้อมกับโอนสิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนทั้งหมดไปที่ตาเฒ่าแบบจัดเต็ม คือการเปิดทางให้กลุ่มทุนใหม่เข้ามายึดบอร์ด ซึ่งจะมีการส่งคนของตนเองเข้ามาสางปัญหาที่ทำให้บริษัทขาดทุนเรื้อรัง และจะนำไปสู่การตัดขายธุรกิจที่เป็นเนื้อร้ายออกไปให้ได้มากสุดเท่าที่จะทำได้ไงล่ะคะ
*ช็อตนี้แหละ..ที่จะเป็นตัววัดความสามารถของทีมทนายเฒ่าเก่งเพียงใด เพราะคงไม่มีใครยอมปล่อยให้ทุนรอนที่เพิ่งใส่เข้าไปใหม่ร่อยหรอไปเปล่า ๆ และช็อตนี้จะต้องเป็นเกมที่เร็วมากเพื่อแข่งกับเวลา “โมนิก้า” ถึงให้เวลาไม่เกิน 2 เดือนสำหรับการล้างบ้าน…ถ้าเกิดเหตุการณ์ในลักษณะทอดเวลานานไปมากกว่านั้น! อาจอนุมานได้ทันที ว่าทุกอย่างจบเห่เพียงเท่านี้นะตัวเอง!
*สาเหตุที่ทำให้เชื่อนั้น เป็นเพราะปีที่แล้วบริษัททีวีช้อปปิ้งขาดทุนปาเข้าไปถึง 260 ล้านบาท และทำให้ส่วนทุนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ไตรมาส 1 ของปีนี้ก็เกิดตัวแดงขึ้นมาราว ๆ 130 ล้านบาท ซึ่งทำให้ส่วนทุนลดลงมาอยู่ในระดับ 400 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 2 ของปีนี้ก็มีแนวโน้มขาดทุนอีกเช่นกัน ซึ่งเป็นผลมาจากกำลังซื้อของคนในประเทศลดลง ซึ่งจะทำให้ส่วนทุนลดลงอย่างน่าใจหาย..แต่โชคดีที่มีเงินจากเพิ่มทุนเข้ามาเติมสายป่านให้ยาวขึ้น จึงทำให้สถานการณ์โดยรวมยังไม่เลวร้ายลงนะจะบอกให้
*นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ “โมนิก้า” กล้าประเมิน “เกมหุ้น” และ “เกมธุรกิจ” ไม่ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก เพราะช็อตที่สองถูกขีดเส้นด้วยห้วงเวลาจำกัด ซึ่งกลายเป็นตัวเร่งให้กลุ่มทุนใหม่ต้องรีบเอาธุรกิจใหม่สวม เพื่อทำให้บรรทัดสุดท้ายของงบการเงินพลิกกำไร พร้อมกับมีเสียงเม้าท์มอยเล่น ๆ ในหมู่แมงลือว่า งานนี้เป็นเกมเดิมพันครั้งใหญ่ของทนายเฒ่าของจริง หลังห่างหายไปเวทีใหญ่นานพอสมควรน่ะซี
*ที่น่าสนใจคือ ธุรกิจที่จะเอาเข้ามาคงเป็นแนว “เฮลตี้” ซึ่งเข้ากับยุคสมัยได้พอดี และกำลังอินเทรนด์สุด ๆ ในหมู่บริษัทจดทะเบียน ซึ่งจะปั้นกำไรกลับสู่ทีวีดีได้มากแค่ไหน ? ก็ยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูกันต่อไป “โมนิก้า” จึงอยากให้แฟนคลับลองประเมินจากสิ่งที่เม้าท์ให้ฟัง ว่ามีความเป็นไปได้ขนาดไหน ? เพราะเกมที่จะทำให้ “วิน-วิน” กันทุกฝ่าย มันก็มีสูตรนี้สูตรเดียวล่ะพ่อทูนหัว..ส่วนช็อตที่สามซึ่งเป็นจุดไคลแม็กซ์จะมาเล่าให้ฟังในวันหน้า เพราะพื้นที่หมดแล้วจริง ๆ นะจ๊ะ