เขามาแล้ว
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ มาแล้ว! มาพร้อมกับคะแนนนำอันดับหนึ่ง 1,386,215 คะแนน ทิ้งห่างอันดับสอง “ดร.เอ้” สุชัชวีร์ ที่ได้ 254,723 คะแนน ถึง 1,131,492 คะแนน
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ มาแล้ว! มาพร้อมกับคะแนนนำอันดับหนึ่ง 1,386,215 คะแนน ทิ้งห่างอันดับสอง “ดร.เอ้” สุชัชวีร์ ที่ได้ 254,723 คะแนน ถึง 1,131,492 คะแนน
เรียกว่า “ทิ้งกันไม่เห็นฝุ่น” และทำสถิติเป็นผู้ว่ากทม.ที่ได้รับเลือกตั้งด้วยคะแนนสูงสุดกว่าใครในประวัติศาสตร์
ปฏิกิริยาตอบรับระหว่าง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมนั้น แตกต่างกันลิบลับเป็นอันมาก
ท่าทีบิ๊กตู่นั้น แสดงความยินดีตามธรรมเนียมก็จริง พร้อมกับบอกว่า “ถ้าทำสองร้อยนโยบายได้จริง ก็คงเป็นรัฐบาลไปแล้ว”
แต่กระนั้นก็ยังบอกว่า “การเลือกตั้งผู้ว่ากทม. เป็นเพียงจังหวัดหนึ่งก็เท่านั้นเองในประเทศไทย” และท้ายบทสนทนา ก็เติมความเครียดด้วยการเดินออกจากโพเดียมแถลงข่าวไปเฉย ๆ
ส่วนสมศักดิ์ เทพสุทิน ให้การตอบรับแบบอบอุ่นยิ่ง แม้ไม่มีคำขอมาจากว่าที่ผู้ว่ากทม. แต่ก็แสดงความจำนงกลางอากาศว่า “ยินดีจะนำนักโทษออกมาช่วยขุดลอกท่อระบายน้ำในกทม. เพราะผู้บริหารกทม.คนเก่าไม่ยอมให้การอนุมัติ”
ทั้งนี้ก็คงเพราะการขุดลอกท่อระบายน้ำ เป็นหนึ่งใน 214 นโยบายของชัชชาติ ที่จะขุดลอกท่อระบายน้ำปีละสามพันกิโลเมตรนั่นเอง
ขณะที่ผู้บริหารคนเก่าของกทม.ไม่รู่ว่าจะเป็น “คนเก่า” ตั้งแต่ยุคคุณชายสุขุมพันธุ์” หรือ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เพียงคนเดียว
ท่าทีของรมต.ร่วมรัฐบาล “บิ๊กตู่” อบอุ่นยิ่งนักต่อว่าที่ผู้ว่ากทม. แม้ยังไม่เข้าไปรับตำแหน่งบริหารงาน
นี่ยังไม่นับรวมท่าทีผอ.เขตหลักสี่ กทม. ที่ประชุมผู้บริหารงานเขต ศึกษาลู่ทางตอบสนอง 214 นโยบาย ของว่าที่ผู้ว่าชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ชัชชาติคนนี้นี่เอง เป็นคนเดียวกับที่อยู่หน้าบัลลังก์ศาลรัฐธรรมนูญ และยืนฟังการอบรมจากตุลาการศาลฯ ท่านหนึ่งบนบัลลังก์ที่เห็นต่าง “ให้ถนนลูกรังหมดไปก่อน ถึงค่อยมาสร้างรถไฟความเร็วสูง”
พร้อมกับระบุว่า เงินกู้ 2 ล้านล้านจะก่อหนี้ไปชั่วลูกชั่วหลาน “แม้คุณชัชชาติตายไปแล้ว ก็ยังต้องตามชดใช้หนี้ที่คุณชัชชาติก่อไว้”
ร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เพื่อสร้างอนาคตประเทศไทย ถูกตีตกโดยศาลรัฐธรรมนูญ แม้จะมีคำชี้แจงอย่างสงบว่า ไม่ได้กู้ก้อนใหญ่ทีเดียว เป็นการทยอยกู้ภายใน 7 ปี ตีมูลค่าเฉลี่ยเงินกู้ปีละ 3 แสนล้านบาทเท่านั้น
คิดไปก็น่าขำ “ลุงตู่” กู้ไปปีหนึ่ง ๆ เท่าไหร่กับโครงการประชานิยมตลอด 8 ปีมานี้ แล้วเหลืออะไรเป็นแก่นสารบ้าง
มันคงเกินกว่าที่ชัชชาติจะขอกู้ 2 ล้านล้าน ที่จะได้รถไฟความเร็วสูง 3 ภาค กับรถไฟรางคู่ทั่วประเทศเป็นมรดกตกทอดมาถึงวันนี้แล้วล่ะ
ชัชชาติคนนี้แหละ คือเจ้าของสโลแกน “เวลาก็มีมูลค่า”
“การที่เราไม่ทำมา 20 ปี และมาทำตอนนี้ คือการที่คนในอดีตสร้างหนี้มาให้เราหรือเปล่า”
ยกตัวอย่างรถไฟรางคู่ที่อนุมัติงบปี 36 เพียงแค่ 8 หมื่นล้านบาท แต่มาทำวันนี้ อาจต้องใช้เงินสูงถึง 4 แสนล้านบาท
วันนี้ชัชชาติมาแล้ว มาจริง ๆ พร้อมกับ 214 นโยบายบริหารกทม. เชิญติดตามดูโดยพลัน