RBF เริ่มฟื้นโควิด
แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/65 ผู้บริหาร RBFมั่นใจจะเติบโตได้ต่อเนื่อง ทั้งจากยอดขายในประเทศและต่างประเทศ
คุณค่าบริษัท
หลังจากบริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF ซึ่งเป็นผู้ผลิตสารแต่งกลิ่น รสและสีผสมอาหาร พลาดท่าทำกำไรสุทธิงวดปี 2564 ลดลงเหลือ 420.10 ล้านบาท จากปี 2563 ที่มีกำไรสุทธิ 519.02 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากโควิด ก็ถูกมองว่า ผลประกอบการในไตรมาส 1/2565 ก็จะออกมาไม่ดีเช่นกัน ทว่าพอเปิดงบไตรมาสแรกออกมา กลับโชว์กำไรสุทธิอยู่ที่ 162.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 117% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 75.02 ล้านบาท
กำไรที่เพิ่มขึ้น มาจากการเติบโตของทุกกลุ่มธุรกิจ ทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์แป้งและซอส ที่มีรายได้เพิ่มขึ้น 27.31% กลุ่มผลิตภัณฑ์วัตถุแต่งกลิ่นรสและสีผสมอาหาร มียอดขายเพิ่มขึ้น 8.33% กลุ่มผลิตภัณฑ์อบแห้ง รายได้เพิ่มขึ้น 19.67% กลุ่มอาหารแช่แข็ง รายได้เพิ่มขึ้น 64.66% และกลุ่มผลิตภัณฑ์ซื้อมาขายไป ยอดขายเพิ่มขึ้น 4.53%
ส่งผลให้รายได้จากการขายและให้บริการอยู่ที่ 984.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.48% โดยแบ่งเป็นยอดขายในประเทศ เพิ่มขึ้น 67.74 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 9.39% และต่างประเทศ เพิ่มขึ้น 71.54 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 57.96% โดยเฉพาะในประเทศอินโดนีเซียและเวียดนามมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดี
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2565 ผู้บริหารมั่นใจจะเติบโตได้ต่อเนื่อง ทั้งจากยอดขายในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะการรับรู้รายได้จากธุรกิจกัญชงที่จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากผลผลิตโรงสกัดสารกัญชงของบริษัทเริ่มมีการส่งมอบให้กับลูกค้าไปบ้างแล้วบางส่วน ทั้งธุรกิจอาหาร เครื่องดื่ม และเครื่องสำอาง รวมทั้งมีออเดอร์จากลูกค้ารายใหญ่เข้ามาแล้วหลายราย
ด้าน บล.ฟินันเชีย ไซรัส ระบุว่า RBF จะเห็นแนวโน้มกำไรในครึ่งปีแรกฟื้นตัวได้ดี แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์ในช่วงครึ่งปีหลัง ได้แก่ แนวโน้มราคาวัตถุดิบ และผลตอบรับของผลิตภัณฑ์กัญชงปลายน้ำ เพราะหากประสบความสำเร็จ จะทำให้เกิด Repeat Order ในส่วนของวัตถุดิบ CBD ของบริษัทได้มากขึ้น และอาจสร้างรายได้กัญชงให้บรรลุตามเป้าหมายได้
ทั้งนี้ ยังคงสมมติฐานรายได้กัญชงปี 2565 ตามเดิมที่ 600 ล้านบาท (13.4% ของรายได้ทั้งปี) และคาดกำไรปกติปี 2565 ไว้ที่ 870 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 83.1% จากปีก่อน
สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น RBF ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 57.88 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 18.68 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายสูงกว่าตลาดหลายเท่าตัว สอดคล้องกับ P/BV ที่ระดับ 6.73 เท่า ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ส่วนใหญ่ P/BV จะอยู่ที่ระดับ 1–2 เท่า
…
รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่
- นางเพ็ชรา รัตนภูมิภิญโญ 456,031,000 หุ้น 22.80%
- นายสมชาย รัตนภูมิภิญโญ 456,030,900 หุ้น 22.80%
- บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) 200,000,000 หุ้น 10.00%
- พ.ต.พญ.จัณจิดา รัตนภูมิภิญโญ 160,159,000 หุ้น 8.01%
- พญ.สนาธร รัตนภูมิภิญโญ 160,159,000 หุ้น 8.01%
รายชื่อกรรมการ
- นางเบญจวรรณ รัตนประยูร ประธานกรรมการบริษัท, กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ
- นายสมชาย รัตนภูมิภิญโญ ประธานกรรมการบริหาร, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, กรรมการ
- นางเพ็ชรา รัตนภูมิภิญโญ กรรมการ
- น.ส.จัณจิดา รัตนภูมิภิญโญ กรรมการ
- น.ส.สนาธร รัตนภูมิภิญโญ กรรมการ
- นายสุรนาถ กิตติรัตนเดช กรรมการ
- นายธีรพัฒน์ ญาณาธรกุล กรรมการ
- นายอากิฮิโกะ คิชิ กรรมการ
- นายฤทธิรงค์ บุญมีโชติ กรรมการ
- นายรัตน์ ด่านกุล กรรมการอิสระ, ประธานกรรมการตรวจสอบ
- นายศุภสิน สุริยะ กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ
- นายเผดิมศักดิ์ จารยะพันธุ์ กรรมการอิสระ