BTSGIF & DIF ความเหมือนที่ต่าง
สองหน่วยลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างสายพันธุ์ ที่มีประเด็นต้องติดตามเป็นพิเศษอย่างใกล้ชิด นั่นก็คือ BTSGIF และ DIF
สองหน่วยลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างสายพันธุ์ ที่มีประเด็นต้องติดตามเป็นพิเศษอย่างใกล้ชิด นั่นก็คือ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGIF) และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (DIF) รอบ 1 ปีนับจากนี้น่าจะได้เห็นการเปลี่ยนอย่างมีนัยสำคัญเกิดขึ้น ทั้ง “มูลค่าเพิ่ม” หรือ “ด้อยมูลค่า” ที่ผู้ถือหน่วยและนักลงทุนต้องเฝ้าจับตาดูอย่างใกล้ชิด.!!
สำหรับ BTSGIF คือกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ลงทุนครั้งแรก ในรายได้ค่าโดยสารสุทธิ ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินงานรถไฟฟ้าสายสีเขียวหลัก จำนวน 2 สาย (หมอชิต-อ่อนนุช และสนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสิน) มีระยะทางรวมทั้งสิ้น 23.5 กิโลเมตร อายุสัมปทานสิ้นสุดลงวันที่ 4 ธ.ค. 2572 การลงทุนครั้งแรกมีมูลค่า 61,399 ล้านบาท
ส่วน DIF คือกองทุนที่เป็นเจ้าของหรือมีสิทธิการรับประโยชน์จากรายได้สุทธิที่เกิดจากกลุ่มทรัพย์สิน (Portfolio) รายใหญ่สุด ประเภท เสาโทรคมนาคมจำนวน 16,059 เสา สายใยแก้วนำแสง และระบบบรอดแบนด์เขตพื้นที่ต่างจังหวัด มีอายุสัญญาเช่าปัจจุบันถึงปี 2586 อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ยประมาณ 8%
ทั้ง BTSGIF และ DIF มีความเหมือนกันคือกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (อินฟราฟันด์) แตกต่างกันที่สายพันธุ์เท่านั้น BTSGIF เป็นสายพันธุ์ขนส่งมวลชน ส่วน DIF เป็นสายพันธุ์โทรคมนาคม แต่ว่าทั้ง 2 กองทุนมีประเด็นและเงื่อนไขที่จะเกิดขึ้นช่วง 1 ปีและนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงด้านมูลค่ากองทุนอย่างมีนัยสำคัญ..!!
โดย BTSGIF มีปมเรื่องการต่อายุสัญญาสัมปทานสายสีเขียวหลัก เป็นตัวชี้วัดหรือกำหนดมูลค่า..เนื่องจากอายุสัมปทานเหลืออยู่เพียง 8 ปี (สิ้นสุดสัมปทานปีพ.ศ. 2572) หากมีบทสรุปได้ขยายสัญญาสัมปทานจะทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มกับ BTSGIF ทันที..มากหรือน้อยจะขึ้นอยู่กับอายุหรือเงื่อนไขสัมปทานใหม่..
แต่ประเด็นอยู่ที่ว่า..จะได้ต่ออายุสัมปทานหรือไม่..? เพราะหากไม่มีการต่ออายุสัญญาสัมปทาน ความคาดหวังเรื่อง “มูลค่าเพิ่ม” จะกลายเป็นการ “ด้อยมูลค่า” ของ BTSGIF ในทันที
ส่วน DIF มีปมเรื่องการควบรวมกิจการระหว่างบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE กับบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC หากควบรวมกันได้สำเร็จ..นั่นหมายถึงโครงข่ายโทรคมนาคมของดีแทค นั่นคือเสาโทรคมนาคมจำนวน 8,815 แห่งทั่วประเทศ จะกลายเป็นสินทรัพย์ของบริษัทใหม่ทันที
นั่นเป็นโอกาสของ DIF (TRUE ถือหุ้น 23.38%) ในการเพิ่มทุนเพื่อซื้อสินทรัพย์ดังกล่าวเข้ากองทุน..นั่นหมายถึง DIF มีมูลค่าเพิ่มขึ้นมาทันที..แม้ระยะสั้นผู้ถือหน่วยอาจได้รับผลกระทบจากเกิดไดลูชั่นเอฟเฟค แต่ก็น่าจะเกิดมูลค่าเพิ่มจากผลตอบแทนในรูปเงินปันผลเพิ่มขึ้นในระยะยาว
แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่าการควบรวม TRUE-DTAC จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ และจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่..เพราะนั่นหมายถึง DIF มีโอกาสการสร้างมูลค่าเพิ่มได้..ในทางกลับกันหากควบกิจการไม่ได้..ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตาม มูลค่าเพิ่มที่คาดว่าจะเกิดขึ้น..จะกลับมาสู่การพึ่งพิง “มูลค่าที่เป็นอยู่” กันเช่นเดิม..
นับจากนี้จึงต้องติดตามประเด็น “การต่ออายุสัมปทานสายสีเขียวหลัก” และ “การควบกิจการ TRUE-DTAC” อย่างมีสติและวิจารณญาณที่หนักแน่นกันต่อไป..!!