หุ้นไม่มีเจ้ามือ ราคาไม่วิ่ง
เมื่อวานนี้ดัชนี SET ปิดลบ 3.40 จุด เป็นไปตามคาดการณ์
เมื่อวานนี้ดัชนี SET ปิดลบ 3.40 จุด เป็นไปตามคาดการณ์
เพราะ 4 วัน (ทำการ) ก่อนหน้านี้ ดัชนีปิดบวกมาตลอดรวม 57.97 จุด
ส่วนนักลงทุนต่างประเทศ ซื้อต่อเนื่องมา 8 วันติดต่อกัน และหากย้อนหลังไป 30 วัน (ทำการ) ต่างชาติซื้อสุทธิรวมกว่า 27,813 ล้านบาท (ไม่รวมวานนี้ที่ขายสุทธิ 1,603 ล้านบาท)
ต่างชาติจึงต้องขยับพอร์ต ขายทำกำไรออกมาบ้าง นิด ๆ หน่อย ๆ
ส่วนมูลค่าการซื้อขายรวม เพิ่มขึ้นมาเป็น 7 หมื่นล้านบาท
ถือว่าวอลุ่มเทรดน่าจะค่อย ๆ เริ่มกลับมา
ส่วนวันก่อนหน้านี้ที่พุ่งขึ้นมา 9.72 หมื่นล้านบาท เพราะมีเงินจากกองทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนตามดัชนี MSCI
ทำให้มูลค่าซื้อขายโป่งขึ้นมาเป็นพิเศษ
ที่น่าสนใจคือ เวลาหุ้นขนาดใหญ่เริ่มขยับลำบาก ราคาเริ่มย่ำฐาน หรือมีแรงขายทำกำไรบ้าง
นักลงทุนจึงพยายามเสาะหาตัวหุ้นมาเล่น
เป็นหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว
และช่วงเวลานี้แหละที่เรามักจะเห็น “เจ้ามือ” ที่สถิตอยู่ในหุ้นขนาดกลางและเล็ก เริ่มเข้ามาทำราคา
มีการไล่ราคาหุ้นขึ้นมาเพื่อเรียกรายย่อยเข้ามาลงทุน
ก่อนที่จะให้รายย่อยนั่นแหละ ช่วยดันราคาขึ้นไป แล้วเจ้ามือ จะไปรอขายข้างบนที่เป็นราคาเป้าหมาย
อย่างเมื่อวานนี้ เริ่มเห็นหุ้นไซส์เล็ก 4-5 หุ้น เจ้ามือเริ่มทำงานกันล่ะ
มูลค่าซื้อขายเข้ามาติดท็อป 30 ที่มีวอลุ่มเทรดสูงสุด
หุ้นตัวเดิม ๆ และเจ้ามือคนเดิม ๆ ทั้งนั้น
ส่วนจะมีตัวไหนบ้าง นักลงทุนน่าจะมองเห็นกัน
แต่หากจะเข้าไปเสี่ยง คงต้องใช้กลยุทธ์ตีหัวเข้าบ้าน เข้าเร็วออกเร็ว ชนะเจ้ามือให้ได้
ตั้งซื้อเป็นไม้ พอแมทแล้ว ต้องตั้งขายรอไว้เลย
หุ้นเหล่านี้ได้ 2-3 ช่องน่าจะพอแล้ว
เพราะหากหวังมากกว่านั้น แล้วเข้าไปติด คงได้ดอยกันยาว เพราะไม่รู้ว่ารอบใหม่จะมาอีกตอนไหน
หรืออาจจะไม่วนกลับมาอีกเลยก็ได้
กลับมาที่เขียนไว้ตรงหัวคอลัมน์ว่า “หุ้นไม่มีเจ้ามือ ราคาไม่วิ่ง”
นักลงทุนที่เทรดกันมานาน น่าจะพอทราบกันดี
หรือหากจะให้เข้าใจกันแบบง่าย ๆ คือ หุ้นที่วิ่งขึ้น ถูกลากลงทุกวันนี้ มี “เจ้ามือ” คุมทั้งนั้น
เจ้ามือที่ว่านี้ อาจจะเป็นได้ทั้ง
1.เจ้าของ (เทรดผ่านนอมินี)
2.ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท (หุ้น) นั้น ๆ (เทรดผ่านนอมินี)
3.นักลงทุนรายใหญ่ (เทรดผ่านนอมินี+ซื้อขายเองโดยตรง)
4.กองทุน
และ 5.นักลงทุนต่างชาติ
เจ้ามือแต่ละคนในแต่ละหุ้นจะมีพฤติกรรมในการ “ทำราคา” แตกต่างกันไป
เช่น ตอนนี้หุ้นกลางเล็กที่เจ้ามือ เริ่มกระชากราคาขึ้นมา
คงต้องนั่งดูลาดเลาไปก่อนซัก 1-2 วัน เพื่อสังเกตพฤติกรรมที่ว่านี้แหละ
หุ้นบางตัว จำนวนหุ้นน้อย สภาพคล่องต่ำ หาปัจจัยบวกไม่ได้ วันดีคีนดี ราคาดีดขึ้นมา แบบนี้ค่อนข้างอันตราย และเมื่อวานนี้ มีโผล่เข้ามาให้เห็นกันแล้ว
โดนทุบตอน ATC จนเกือบติดฟลอร์
ใครออกไม่ทันคงต้องยอมตัดขาดทุนนั่นแหละ