BCP โรงกลั่นถึงโรงตึ๊ง.!

BCP ยังคงเดินหน้าสร้างแวลูให้กับปั๊มบางจากอย่างต่อเนื่อง ก็เลยเป็นที่มาของการไปร่วมกับออมสิน และ TIPH ในการรุกธุรกิจสินเชื่อที่ดินและขายฝาก


เอ๊ะ..!! น่าแปลกใจ เมื่อธนาคารออมสิน ซึ่งเป็นพันธมิตรเก่ากับบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD (ร่วมกันปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถดอกเบี้ยต่ำ) จู่ ๆ ก็หันมาจับไม้จับมือกับบริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH และบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ซะงั้น..!?

โดยจะตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้นมาใหม่ และมีสถานะเป็นนอนแบงก์รัฐ เนื่องจากมีออมสินถือหุ้นใหญ่ 49% ส่วนที่เหลืออีก 51% เป็นการร่วมทุนของ TIPH และ BCP…เบื้องต้นจะรุกธุรกิจสินเชื่อที่ดินและขายฝากก่อน จากนั้นจะขยายไปสู่ธุรกิจสินเชื่อบุคคลในลำดับต่อไป…

ว่าแต่ทำไมออมสินไม่จับกับ SAWAD ล่ะ..? อันนี้น่าคิด

โอเค…จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่…พักไว้ก่อน…

เพราะมีอีกประเด็นที่น่าสนใจ จากการที่มี BCP มาร่วมปาร์ตี้กะเค้าด้วย…ทำให้ BCP มีขาใหม่งอกขึ้นมา นั่นคือธุรกิจนอนแบงก์..!!

ขณะที่ ที่ผ่านมาเรารู้จัก BCP ในฐานะโรงกลั่นยักษ์ใหญ่ มีปั๊มน้ำมันแบรนด์ “บางจาก” และมีธุรกิจพลังงานทดแทน ผ่านบริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG รวมทั้งธุรกิจผลิตและจำหน่ายไบโอดีเซล ผ่านบริษัท บางจากไบโอฟูเอล จำกัด (BBF)

ถ้าโฟกัสไปที่ปั๊มน้ำมัน จะเห็นว่าพักหลัง ๆ มา BCP พยายามจะสร้างแวลูมากขึ้น…ซึ่งถ้ายังจำกันได้ ก่อนหน้านี้เคยไปจับมือกับห้างบิ๊กซี (เมื่อครั้งยังเป็นของกลุ่มเซ็นทรัล) เปิดมินิบิ๊กซีในปั๊มน้ำมันบางจาก แต่พอห้างบิ๊กซีถูกเปลี่ยนมือมาเป็นของ “เสี่ยเจริญ สิริวัฒนภักดี” นโยบายเปลี่ยนไป ก็จบแค่นั้น ไม่เห็นการเปิดสาขาในปั๊มเพิ่ม…

ขณะเดียวกัน BCP ก็พยายามปลุกปั้นนอนออยล์ ปรับปรุงร้านกาแฟอินทนิล ซึ่งฟอร์แมตก็คงไม่ต่างจากร้านกาแฟอเมซอนของ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR นั่นแหละ ส่วนพื้นที่เชิงพาณิชย์ก็ปล่อยเช่าไป

แต่ไม่จบแค่นั้นน่ะสิ BCP ยังคงเดินหน้าสร้างแวลูให้กับปั๊มบางจากอย่างต่อเนื่อง ก็เลยเป็นที่มาของการไปร่วมกับออมสิน และ TIPH ในการรุกธุรกิจสินเชื่อที่ดินและขายฝาก…แม้เป็นธุรกิจที่ BCP ไม่เคยทำมาก่อนก็ตามที..!!

เท่ากับว่า BCP นอกจากจะเป็นโรงกลั่นแล้ว ต่อไปจะเป็นโรงตึ๊งด้วยนะเนี่ย..!!

โอเค…แม้รายได้จากโรงตึ๊งคงไม่มาก เมื่อเทียบกับพอร์ตรายได้รวมของ BCP…แต่ก็ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ

ขณะที่การร่วมมือกันของทั้ง 3 ค่าย…คงมีออมสินเป็นแกนหลัก เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญด้านการปล่อยสินเชื่อลูกค้ารายย่อยอยู่แล้ว แถมยังมีสาขามากกว่า 1,080 แห่งทั่วประเทศด้วย ส่วน TIPH มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจประกันและมีทีมนักสำรวจที่มีความพร้อม

ขณะที่ BCP มีปั๊มน้ำมันบางจากกระจายมากถึง 1,233 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดในการปล่อยกู้ได้ นอกเหนือจากสาขาของแบงก์ออมสิน

ที่สำคัญ อย่าลืมว่าข้อได้เปรียบของปั๊มน้ำมัน คือ มีที่จอดรถเยอะ การเข้าถึงลูกค้าได้ง่าย แถมมีคาปาซีตี้พร้อม ทั้งห้องน้ำ ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ทำให้มีความหลากหลายของลูกค้าอีกด้วย…

การรุกสู่ธุรกิจสินเชื่อที่ดินและขายฝากครั้งนี้ แม้จะคิดดอกเบี้ยไม่สูงแค่ 8-9% ในขณะที่ดอกเบี้ยในตลาดเก็บสูงถึง 15-30% แต่อย่างน้อย ๆ ก็จะได้ในแง่ของวอลุ่ม และจะถูกชดเชยด้วยต้นทุนที่ต่ำ เพราะมีออมสินเป็นแบ็กอัพ ซึ่งแม้ดอกเบี้ยอาจไม่สูงเท่าบริษัทเอกชน แต่ก็คงมีมาร์จิ้นอยู่แหละ

ส่วนเอกชนที่เคยอิ่มหมีพีมันกับธุรกิจนี้ ก็น่าจะเริ่มร้อน ๆ หนาว ๆ กันแล้วล่ะ..!?

…อิ อิ อิ…

Back to top button