ความรู้เรื่องท่อ-คลอง-แม่น้ำ

คนกรุงเทพฯ ลองตั้งคำถามตัวเองซิว่า “ไม่ได้เห็นนักโทษมาขุดลอกท่อระบายน้ำกันมายาวนานแค่ไหนแล้ว”


ใช่ว่า ชัชชาติจะมีแต่เสียงเชียร์กระหึ่มฝ่ายเดียว แต่อย่างน้อยก็ยังมี “คุณป้า” คนหนึ่ง เดินหน้าบึ้งตึงสวนทางมาในสวนสาธารณะ พร้อมกับเอ่ยปากไล่ให้ชัชชาติกลับไปทำงาน ทั้ง ๆ ที่เช้าวันนั้นยังเป็นเวลาแค่ 7 โมงเศษอันก่อนเวลาทำงานของพนักงานปกติเอง

ก็คงจะเป็นอารมณ์สวนทางกับกระแส “ทำงาน ทำงาน ทำงาน” ที่หนุนส่งให้ชัชชาติเป็นผู้ว่าฯ กทม.ที่ได้รับคะแนนเสียงสูงสุด 1.38 ล้านเป็นประวัติการณ์นั่นแหละ

แต่ชัชชาติก็นิ่งดี ยังพูดจาหยอกล้อกับสตาฟว่า ประชาชนเขาเร่งเราให้ไปทำงานแล้ว เช่นเดียวกับอารมณ์ที่มีเมตตาต่อนักร้องศรีสุวรรณ ไม่ถือโทษโกรธเคืองที่เอาเหตุไร้สาระมาฟ้องร้องถึงขั้นจะจับชัชชาติ “แพ้ฟาล์ว” กันเลย

เรื่อง “น้ำท่วม” คือโจทย์ใหญ่โจทย์หนึ่งของการบริหารราชการกทม. ที่ประชาชนรอคอยมานานแสนนานให้มีการแก้ปัญหา

ไม่ใช่ว่า แค่ฝนตกซู่เดียว กทม.ก็กลายเป็นแอ่งน้ำใหญ่ ก่อปัญหาการจราจรอัมพาตไปทั่วกทม.แต่ก็เล่นลิ้นไปกันว่า “น้ำรอระบาย”

คนกรุงเทพฯ ลองตั้งคำถามตัวเองซิว่า “ไม่ได้เห็นนักโทษมาขุดลอกท่อระบายน้ำกันมายาวนานแค่ไหนแล้ว” ผมว่าก็ตั้งแต่ก่อนเจ้าของคำคม “น้ำรอระบาย” ที่อยู่พรรคเดียวกัน ยันผู้ว่าฯ แต่งตั้งจากคสช.นั่นแหละ

ก็คงประมาณ 9-10 ปีเป็นอย่างต่ำกระมัง!

เพิ่งจะเป็นที่รับทราบกันในสมัยผู้ว่าฯ ชัชชาตินี่แหละครับว่า กทม.เป็นมหานครที่มีท่อระบายน้ำตามถนนตรอกซอกซอยรวมความยาวทั้งสิ้นถึง 6,500 กิโลเมตร

และในขณะเดียวกัน ก็เพิ่งจะรับทราบข้อมูลจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์ว่า “ไม่มีคำขอจากกทม.ให้นักโทษมาขุดลอกท่อระบายน้ำมาเป็นระยะเวลายาวนานแล้ว”

ท่อระบายน้ำ” คือห่วงโซ่ขั้นต้นของการระบายน้ำ จากนั้นจึงระบายน้ำไปยัง “คูคลอง” และถัดไปก็ระบายน้ำจากคูคลองไปสู่ “แม่น้ำ” และผันน้ำออกสู่ “ทะเล” ในที่สุด จึงจะครบวงจรระบบระบายน้ำ

เมื่อห่วงโซ่ขั้นต้นคือ “ท่อระบายน้ำ” อุดตันเสียแล้ว ก็ไม่มีห่วงโซ่ระบายน้ำต่อไปยังลำคลอง-แม่น้ำ-ทะเล กรุงเทพฯ ถึงกลายเป็นพื้นที่ “เปราะน้ำ” ที่ตกซู่มาทีไร ก็เกิดน้ำท่วมขังทีเฉไฉกันเป็น “น้ำรอระบาย” เมื่อนั้น

นี่คือความรู้เบื้องต้นของระบบระบายน้ำ แต่เหตุใดผู้บริหารกทม.ในอดีต ทำไมคิดไม่ได้ คิดไม่เป็นจนพ่ายแพ้เลือกตั้งยับเยินก็ไม่รู้สิ

ไม่น่าแปลกใจนักหรอก ที่ปัญหาน้ำท่วมขังกทม.และการขุดลอกท่อระบายน้ำจะเป็น 1 ใน 214 นโยบายที่ชัชชาติใช้หาเสียง ซึ่งขณะนั้นชัชชาติยังบอกว่าจะขุดลอกคูคลองท่อระบายน้ำความยาวแค่ 3,000 กิโลเมตรเท่านั้น

และก็ได้รับการขานรับอย่างอบอุ่นจากสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ที่เสนอตัวประสานนโยบายนำเอานักโทษออกมาช่วยขุดลอกคูคลอง ก่อนชัชชาติจะเข้ารับตำแหน่งด้วยซ้ำ

ชัชชาติใช้เวลาไม่นานนัก ก็สามารถทำข้อตกลงกับกรมราชทัณฑ์จะนำนักโทษชั้นดีออกมาขุดลอกท่อระบายน้ำระยะทาง 500 กิโลเมตรโดยใช้งบประมาณ 15 ล้านบาท

เป็นงบ 15 ล้านบาทที่เจียดออกมาจาก 95 ล้านบาทที่คงเหลืออยู่ในคลังกทม.นี่แหละ และจะยังประโยชน์ทั้งต่อภารกิจกทม.ที่จะได้แรงงานนักโทษที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการขุดลอกท่อ และรายได้นักโทษไว้ใช้สอยตอนพ้นโทษ

หวังว่า คงจะมีการเพิ่มระยะทางขุดลอกท่อระบายน้ำต่อไป อย่างน้อยก็ควรให้ได้สัก 3,000 กิโลเมตรขึ้นไปตามที่ชัชชาติหาเสียงไว้

เมื่อทะลวงท่อระบายน้ำที่ขัดขวางทางเดินน้ำสำเร็จ ก็เบาใจได้ว่า น้ำจะไหลเข้าระบบสู่คูคลองทีก็ต้องมีการขุดลอกอย่างเข้มข้นเช่นกัน

เช่นนี้แล้ว ก็คาดหวังได้ว่า มีน้ำไหลเข้า “อุโมงค์ยักษ์” 4 แห่งที่สร้างเสร็จ เพื่อผันน้ำออกสู่เจ้าพระยาไปสู่ทะเลแน่นอน “อุโมงค์ยักษ์” จะได้ไม่เป็น “อุโมงค์หลับ” เหมือนเช่นที่ผ่านมาอีกต่อไป

ไม่รู้ว่าการไม่ขุดลอกท่อระบายน้ำที่ผ่านมา เอาแต่จ้างเอกชนทำงานแบบเปาะ ๆ แปะ ๆ และก็ทิ้งงานเสียเป็นส่วนใหญ่ เกิดเพราะความไม่เข้าใจ ไม่ตระหนักในเรื่องของระบบระบายน้ำเพียงพอ หรือมีเจตนาซ่อนเร้นในเรื่องของผลประโยชน์จากการจัดซื้อจัดจ้างที่จ้างเอกชน “ง่ายกว่า” กันแน่

ทะลวงท่อและขุดลอกคูคลองได้ ปรากฏการณ์ฝนตก “ซู่เดียว” ก็เกิดน้ำรอระบายได้ จะหมดไปแน่นอน

Back to top button