จัดหนัก ‘แวลูสต๊อก’
วันนี้เดี๊ยนขอกระแดะสปีคอิงลิชสักนิดหนึ่ง เพราะอยากชี้ให้เห็นภาพของหุ้นกลางเล็ก ล้วนถูกปั่นกระแสมาในแนว Value Stocks หรือ “หุ้นคุณค่า” กันทั้งนั้น
*วันนี้เดี๊ยนขอกระแดะสปีคอิงลิชสักนิดหนึ่ง เพราะอยากชี้ให้เห็นภาพของหุ้นกลางเล็ก ล้วนถูกปั่นกระแสมาในแนว Value Stocks หรือ “หุ้นคุณค่า” กันทั้งนั้น ซึ่งเป็นสตอรี่ที่นักเล่นกลุ่ม “สมาร์ทมันนี่” ให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ และกำลังเป็นที่เม้าท์ถึงอย่างกว้างขวางในหมู่ขาลุย เพราะเป็นแรงซื้อที่มาจากแมงเม่าเพียว ๆ จึงไม่ต้องกังวลแรงขายที่มาจากนักเล่นกลุ่มสถาบันไงล่ะคะ
*ที่น่าสนใจคือนิยามที่ทำให้หุ้นโลกลืมหลายตัวกลายร่างทองเป็นหุ้นดาวเด่น น่าจะมาจากมูลค่าหุ้นต่ำกว่าราคาเหมาะสมตามทฤษฎี (ของดี ราคาถูก) หรือพูดกันติดปากก็คือ “พื้นฐานดี” ซึ่งเหมาะต่อการลงทุนในช่วงตลาดหุ้นผันผวน และอีกตัวแปรหนึ่งที่ใช้ประเมินกันเป็นประจำคือ มีเงินปันผลติดปลายนวมสม่ำเสมอ “โมนิก้า” จึงขอจำแนกสตอรี่หุ้นตัวแรงให้แฟนคลับไปประดับความรู้นะคะ
*สำหรับเกณฑ์ที่ใช้บิ้วอารมณ์ก็มีอยู่ด้วยกัน 3 เรื่องหลัก ๆ คือ พวกที่จ่ายเงินปันผลหนัก หรือที่เรียกันว่า High Dividend Yield รองลงมาเป็นของหุ้นที่มีค่า PE ต่ำ ซึ่งจะเป็นหุ้นที่มีผลการดำเนินงานด้อยกว่าหุ้นในกลุ่มเดียวกัน จึงทำให้นักลงทุนให้ค่าพรีเมียมต่ำตามไปด้วย และลำดับที่สามคือ หุ้นที่มีค่า PBV ต่ำ และเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่ม ก็จะทำให้หุ้นตัวนั้นน่าสนใจขึ้นมาทันทีเจ้าค่ะ
*โดยทั้ง 3 ประเด็นที่ใช้อ้างอิงจะมีผลสัมฤทธิ์ต่อเมื่อผลงานในงวดนั้น ๆ โตกระหึ่ม ซึ่งคุณ ๆ ท่าน ๆ ก็คงได้เห็นเต็มสองลูกตากันมาแล้ว “โมนิก้า” จึงไม่ต้องเอ่ยถึงเหตุผลต่าง ๆ ให้เปลืองพื้นที่กระดาษ ผนวกกับรีเทิร์นของหุ้นกลางเล็กก็กระฉูดดีเหลือเกิน เลยทำให้รายย่อยเทใจมาที่หุ้นกลุ่มนี้กันทั้งนั้น เดี๊ยนจึงขอเจียระไนหุ้นฟอร์มแรงที่ขึ้นมาด้วยสตอรี่ดังกล่าวอีกหนึ่งวัน เพราะคิดว่า ในไม่ช้าหุ้นเหล่านี้ก็คงลาโรงกันไปเองนะจ๊ะ
*สำหรับรายที่ “จัดหนัก จัดเต็ม” ตามประสาหุ้นต่ำสิบ “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้นขายโคมไฟอย่าง L&E เป็นรายแรกของหัวข้อสนทนา เพราะวันก่อนเพิ่งทำซิลลิ่งไปหยก ๆ วานนี้ก็เปิดกระโดดตั้งแต่หัววัน ก่อนจะพุ่งขึ้นไปทำไฮที่ระดับ 3.32 บาท แต่สุดท้ายโรยตัวลงมาปิดที่ระดับ 2.74 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 5.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 252 ล้านบาท ก็เป็นเรื่องที่นักเล่นต้องไปคิดกันต่อว่า หุ้นตัวนี้เข้าเกณฑ์ไหน? หรือมาแค่ชั่วคราวพะยะค่ะ
*คล้ายกับกรณีของหญิงลี LEE หุ้นอาหารสัตว์ก็กระชากขึ้นมาปิดที่ระดับ 2.74 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 7.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 113 ล้านบาท ท่ามกลางสตอรี่ปันผลงามเป็นที่ตั้งแบบนี้ “โมนิก้า” เลยมองเป็นเกมสั้นที่นักเล่นต้องไหวตัวให้ทัน เพราะธรรมชาติของหุ้นตัวนี้ไม่เคยแรลลี่ยาวสักที ผนวกกับในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาก็เทรดไม่เกิน PE 21 เท่า เดี๊ยนจึงต้องถามแฟนคลับว่า วันนี้พีอีเกินระดับดังกล่าวไปแล้ว..เสี่ยงไหมเอ่ย?
*ส่วนรายที่คัมแบ็คอย่างเต็มตัวอีกครั้ง และกำลังเป็นที่กล่าวขานในหมู่ขาลุย “โมนิก้า” คงเทน้ำหนักไปที่หุ้น GC เพื่อทำให้นักเล่นได้รู้ว่า วันนี้หุ้นเทรดบนพีอี 15 เท่า ผนวกกับ 4 ปีที่ผ่านมาอัตราเงินปันผลตอบแทนก็เกินระดับ 5% จึงไม่ใช่เรื่องยากที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 7.30 บาท บวกไป 1.55 บาท หรือขึ้นไป 27% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 136 ล้านบาท เพราะเรื่องที่ยากจริง ๆ คงอยู่ที่ว่า หุ้นจะยืนระยะได้นานแค่ไหน? น่ะซี
*สำหรับตัวอย่างที่ใช้เปรียบเทียบได้ดีสุด “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น PATO เพราะการพุ่งขึ้นพรวดพราดขึ้นไปถึงระดับ 14.10 บาท ก่อนจะย่อตัวลงมาปิดที่ระดับ 11.50 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 3.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 26 ล้านบาท โดยที่หุ้นยังเทรดบน PE 16 เท่า มันหมายความว่า หุ้นตัวนี้ยังมีโอกาสไปต่อได้อีกหรือเปล่า? และอาการสวิงสวายที่เกิดขึ้นอาจส่งสัญญาณให้รู้ว่า เริ่มมีการเช็คเรตติ้งคนเล่นหรือเปล่าคะ
*ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องหันมามองหุ้น MBAX เพื่อชี้ให้เห็นสตอรี่ของหุ้นตัวนี้มาในแนว “แวลูสต๊อก” แบบจัดเต็มทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง พีอี 12 เท่า หรือ พีบีวี 1.80 เท่า หรือแม้กระทั่งยีลด์ 5% ล้วนเข้าทางหุ้นตัวนี้เต็ม ๆ แต่ติดปัญหาที่ว่า ไตรมาส 2 กำไรจะโตแค่ไหน? เพราะตรงนี้จะเป็นตัวบอกว่า การยืนปิดที่ระดับ 6.75 บาท บวกไป 1.55 บาท หรือขึ้นไป 30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 244 ล้านบาท ยังมีแก๊ปให้ไปต่อไหมเจ้าค่ะ