JKN หุ้นกู้เกินขนาด.!?

แต่ในความเงียบของตัวหุ้นนั้น สิ่งที่ไม่เงียบเลย เห็นจะเป็นการออกหุ้นกู้ของ JKN นี่แหละ ซึ่งออกบ๊อยบ่อย


แหม๊…ตั้งแต่ปิดดีลซื้อช่อง NEW18 หรือชื่อใหม่ JKN18 ไปเมื่อกลางปีที่แล้ว หุ้นบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ของ เจ๊แอน-“จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์” ก็เงียบเหงาเป็นเป่าสาก…ราคาไม่หวือหวาเหมือนเมื่อครั้งกระโน้นอีกเลย มีแต่จะสาละวันเตี้ยลงเรื่อย ๆ…

จากเมื่อต้นปี เคยซื้อขายกันที่ 8 บาทกว่า ๆ ปัจจุบันเหลือแค่ 4 บาทเศษเท่านั้น…

สงสัยอิทธิฤทธิ์ซีรีส์อินเดีย รวมถึงแรงเห่อกัญชง-กัญชา คงสิ้นมนต์ขลังไปแล้วละมั้ง..!!

แต่ในความเงียบของตัวหุ้นนั้น สิ่งที่ไม่เงียบเลย เห็นจะเป็นการออกหุ้นกู้ของ JKN นี่แหละ ซึ่งออกบ๊อยบ่อย โดยนับตั้งแต่ต้นปี 2565 จนถึงปัจจุบัน มีการออกหุ้นกู้ไปแล้วหลายครั้ง

เริ่มจากการออกหุ้นกู้วงเงิน 900 ล้านบาท อายุ 2 ปี ดอกเบี้ย 6.25% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ เพื่อนำเงินไปใช้ชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนด 300 ล้านบาท ภายในเดือน ก.ค. 2565 และใช้ในการลงทุน, ขยายธุรกิจ, เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท จำนวน 600 ล้านบาท ในปี 2565-2566

รวมทั้งการออกหุ้นกู้แปลงสภาพอายุ 3 ปี วงเงินไม่เกิน 1,500 ล้านบาท ขายให้กลุ่ม Advance Opportunities Fund (AO Fund) และ Advance Opportunities Fund 1 (AO Fund 1) ซึ่งทยอยออกมาแล้ว 7 ครั้ง

ถ้าดูจากการออกหุ้นกู้ข้างต้น ก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะเมื่อไปส่องงบการเงิน จะเห็นว่า JKN มีหนี้ที่เป็นหุ้นกู้ค่อนข้างสูงอยู่ที่ 1,194 ล้านบาท ส่วนหนี้สถาบันการเงินอยู่ที่ 273 ล้านบาท ส่งผลให้ส่วนของหนี้สินระยะยาวที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีอยู่ที่ 1,529 ล้านบาท

ขณะที่ ณ สิ้นเดือน มี.ค. 2565 JKN มีเงินสดและรายการเท่าเทียบเท่าเงินสด 135 ล้านบาทเท่านั้น

แต่บอกเลยว่าเห็นยอดหุ้นกู้เกินขนาดอย่างนี้แล้วชักใจคอไม่ดี เพราะอย่าลืมว่า การมีหุ้นกู้เยอะ ๆ จะเป็นการสร้างภาระทางการเงินหรือเปล่า..? เพราะอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้จะสูงกว่าการกู้แบงก์นะ

แล้วปกติหุ้นกู้มักจะมีอายุสั้นกว่าการกู้เงินแบงก์ ดังนั้น เมื่อถึงเวลาไถ่ถอน หากช่วงนั้นสภาพคล่องตึงมือ ก็มีความเสี่ยงว่าจะไถ่ถอนได้หรือเปล่า..? หรืออาจจะต้องยืดระยะเวลาออกไป…ส่วนกรณีหุ้นกู้แปลงสภาพ แม้จะสามารถแปลงสภาพไปเป็นหุ้นสามัญได้ แต่ถ้าแปลงบ่อย ๆ ก็มีโอกาสสูญเสียความเป็นเจ้าของได้นะ…

เป็นความเสี่ยงที่มองข้ามไม่ได้นะเนี่ย…

ส่วนในมุมบิสซิเนส ดูเหมือนการได้ครอบครองช่อง JKN18 หลังจากก่อนหน้านี้ต้องไปยืมจมูกคนอื่นหายใจ…เท่าที่เห็นเป็นแค่การใช้คาปาซิตี้ของ JKN ที่มีอยู่เท่านั้น ไม่ได้มีแวลูเพิ่มเติมแต่อย่างใด…

เรียกว่าถ้าเปิดช่อง JKN18 มาตอนนี้ จะเห็นแค่หน้าเจ๊แอน ที่สวมบทพรีเซ็นเตอร์ขายผลิตภัณฑ์ของ JKN เท่านั้น ส่วนโฆษณาหรือคอนเทนต์อื่น ๆ แทบไม่เห็นเลย…

ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า การมีช่องเป็นของตัวเองจะกลายเป็นทุกขลาภของ JKN หรือเปล่าน้อ..?

ส่วนที่ก่อนหน้านี้ไปจับมือกับ CNBC ประเทศสหรัฐอเมริกา ในการผลิตคอนเทนต์รายการข่าวเศรษฐกิจภายใต้ลิขสิทธิ์ CNBC เป็นระยะเวลา 10 ปี..ก็ยังไม่เห็นมูลค่าเพิ่มเหมือนกัน

ก็ไม่รู้ว่า ด้วยปัจจัยเหล่านี้หรือเปล่า ที่ทำให้งบไตรมาสแรกปีนี้ออกมาไม่ค่อยสู้ดีนัก ทำกำไรหายไป 44.45% เหลือแค่ 54 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเคยทำได้ 99 ล้านบาท…

เอาใจช่วยให้ไตรมาสที่เหลือ JKN แก้มือได้ละกัน…

ไม่เช่นงั้นนักลงทุนอาจต้องร้องเพลง ถอยดีกว่า…ไม่เอาดีกว่า แน่ ๆ ค่ะ เจ๊แอน ขาาา..!?

…อิ อิ อิ…

Back to top button