ฝรั่งเก็บหุ้นเปิดเมือง

เมื่อวานนี้ดัชนี SET อาจจะปิดดูแปลก ๆ

เพราะนักลงทุนสถาบัน ต่างชาติ และรายย่อย ซื้อสุทธิทั้งหมด

แต่พอร์ตของโบรกเกอร์กลับขายออกมากว่า 293 ล้านบาท และเป็นตัวกดดัชนีลงมาปิดในแดนลบ

ประเด็นไม่ได้มีอะไรมาก

เพราะวานนี้ (29 มิ.ย.) เป็นวันที่ TFEX Series M (S50M22) ปิดสัญญาในสิ้นงวดไตรมาส 2/65 มาเป็นซีรีส์ S50U22

และยังมี Single Stock Futures อีก

ประกอบกับ 3 วันทำการก่อนหน้านี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดบวกทุกวัน

เริ่มจาก วันที่ 24 มิ.ย. +11.15 จุด, 27 มิ.ย. +11.44 จุด และ วันที่ 28 มิ.ย. +14.27 จุด

หรือดันดัชนีขึ้นมาจากระดับ 1,557 จุด มาอยู่ที่ 1,594 จุด

ทำให้เมื่อวานนี้ ดัชนีย่อตัวลงมา

ความน่าสนใจอยู่ที่วันนี้ ที่เป็นวันสิ้นงวดไตรมาส 2/65 และวันที่จะต้องจับตาหุ้นเข้า-ออก ดัชนี SET50 กับ SET100

ทบทวนข้อมูลกันอีกครั้ง

หุ้นเข้า SET50 รอบครึ่งปีหลัง คือ บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต (BLA), บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) และ บมจ.เจ มาร์ท (JMART)

ส่วนที่ออก คือ บมจ.คอมเซเว่น (COM7), บมจ.ราช กรุ๊ป (RATCH), บมจ.ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) (STGT)

ดัชนี SET100 หุ้นเข้าใหม่ 4 หลักทรัพย์

ประกอบด้วย บมจ.ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น (FORTH) บมจ.เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ (ONEE) บมจ.พรีเชียส ชิพปิ้ง (PSL) และ บมจ.ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (TIPH)

ออก คือ บมจ.บ้านปู เพาเวอร์ (BPP), บมจ.อาร์เอส (RS), บมจ.แสนสิริ (SIRI), บมจ.น้ำมันพืชไทย (TVO)

JMART และ BLA มีการเข้ามาเก็งกำไรกันก่อนหน้านี้แล้ว

ทำให้ราคาหุ้นวานนี้ปิดแดนลบ หรือขายทำกำไรออกมา

ส่วนกองทุนที่ต้องเข้าซื้อหุ้นใหม่ใน SET50 จะมีผล ณ ราคาปิด (ATC) ของวันนี้ (30 มิ.ย.)

ไม่แน่ใจว่า ราคาจะย่อลงมาอีกหรือเปล่า

เพราะสังเกตว่า เวลากองทุนต้องเข้าซื้อหุ้นที่อ้างอิงดัชนี หุ้นตัวนั้น ๆ มักจะถูกตบราคาลงช่วง ATC

ส่วน JMT มีปัจจัยบวกเข้ามาหนุน คือ การเปิดตัว “เจเค เอเอ็มซี” ที่ร่วมกับแบงก์กสิกรไทย (KBANK) และจะได้ก้อนหนี้เสียล็อตแรกเข้ามาบริหาร 3 หมื่นล้านบาท และคาดว่าสิ้นปีตัวเลขจะขึ้นไปถึง 5 หมื่นล้านบาท

ต้องมาจับตาดูว่า วันนี้ราคาช่วง ATC จะถูกกดหรือไม่

ขณะที่แนวต้าน (ระยะสั้น) ของ JMT อยู่บริเวณ 80 บาท

หากผ่านตรงนี้ไปได้อีกรอบ

มีโอกาสที่ราคาจะขึ้นไปทำนิวไฮเดิมที่เคยวิ่งไปถึง 88.25 บาท (26 เม.ย. 65)

ส่วนหุ้นเข้าใหม่ SET100 วิ่งกันไปคนละทิศทางเช่นกัน

แต่ ณ ราคาปิดของวันนี้ ยังคงต้องระวังด้วยเช่นกัน ว่าจะถูกกดลงหรือไม่

กลับมาที่นักลงทุนสถาบัน หรือกองทุน และนักลงทุนต่างชาติ

3 วันก่อนหน้านี้ที่ดัชนี SET ปิดบวก แต่กองทุนขายออกมา 3 วันติดต่อกัน สวนทางกับนักลงทุนต่างประเทศที่ซื้อสุทธิ 2-3 วันติดต่อกัน

ข่าวว่า ต่างชาติมีการปรับพอร์ตขายหุ้นทำกำไรออกมาบ้าง

และวกกลับเข้าไปซื้อหุ้นกลุ่มเปิดเมืองที่ราคาหุ้นเริ่มย่อตัวลงมา ทั้งกลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร และโรงพยาบาล (เน้นกลุ่มลูกค้าพรีเมียม เช่น BH และ BDMS)

หากวันนี้ต่างชาติยังซื้อ

และกองทุนกลับมาซื้อเพิ่มอีก

ต้องมาลุ้นกันอีกครั้งว่า จะผ่านแนวต้านสำคัญ 1,600 จุด ได้หรือเปล่า