หลอกดันหุ้น (อีกแล้ว)
ดูเหมือนการขึ้นดอกเบี้ยของแบงก์ต่าง ๆ กำลังจะสร้างปัญหาให้กับคน “ผ่อนบ้าน ผ่อนคอนโด” เพราะต้องโดนดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
*ดูเหมือนการขึ้นดอกเบี้ยของแบงก์ต่าง ๆ กำลังจะสร้างปัญหาให้กับคน “ผ่อนบ้าน ผ่อนคอนโด” เพราะต้องโดนดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว โดยเฉพาะคนที่หมดโปรโมชั่นดอกเบี้ยคงที่ ต้องวิ่งวุ่นหาที่รีไฟแนนซ์กันจ้าละหวั่น ขณะที่ตัวแบงก์กลับนอนตีขิมกินส่วนต่างดอกเบี้ยอย่างสบายใจเฉิบ ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้หลายคนเปลี่ยนมุมมองครึ่งปีหลังน่าจะลากเลือดแน่ ๆ พะยะค่ะ
*เนื่องจากประเทศไทยกำลังเข้าสู่ภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นแบบเต็มตัว ซึ่งจะทำให้ระบบเศรษฐกิจชะลอตัวอีกรอบ ทั้งที่ก่อนหน้านี้มองกันว่า ครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ “โมนิก้า” จึงรู้สึกเฉย ๆ เมื่อเห็นหุ้นไทยไม่ได้ไปต่อ และแสดงอาการจะลงไปทำโลว์ใหม่ในไม่ช้า เพราะโดนตีขนาบด้วยปัจจัยเป็นลบตลอดเวลา โดยเฉพาะการตกอยู่ใต้อิทธิพลดาวโจนส์แบบบูรณาการ มันเป็นเรื่องที่ทำให้เดี๊ยนคิดบวกไม่ได้จริง ๆ เจ้าค่ะ
*ฉะนั้นการยืนปิดของดัชนีที่ระดับ 1,572.67 จุด บวกไป 4.34 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.94 หมื่นล้านบาท จึงเป็นเรื่องที่ต้องยอมรับสภาพด้วยความเต็มใจ เพราะตลาดหุ้นไทยตกอยู่ภายใต้การคอนโทรลของนักลงทุน “ต่างชาติ” กับ “กองทุน” ซึ่งส่งผลให้การเคลื่อนตัวของดัชนีออกไปในทางลบเป็นหลัก และจะเห็นการดันหุ้นช่วงสั้น ๆ ต่อจากนั้นก็สาดใส่เมื่อขึ้นมาใกล้ 1,600 จุด และทำให้การขึ้นมาปิดแก๊ปที่ 1,630 จุดเป็นหมันต่อไปเหมือนเดิมจ้า!
*คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้นถ่านหินตัวพ่ออย่าง BANPU ก็ทำท่าจะขึ้นไปหายอดเดิมบริเวณ 15 บาท แต่ก็โดนขายหนักตรงบริเวณ 13.50 บาทเสียก่อน จนหุ้นต้องลงมาป้วนเปี้ยนที่ฐานเดิมบริเวณ 12 บาทอีกครั้ง “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่นักเล่นต้องทำความเข้าใจใหม่ และมองการยืนปิดที่ระดับ 12.40 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 1.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.83 พันล้านบาท คือจุดวัดใจว่าหุ้นจะเด้งไหม?..อิอิอิ
*ส่วนรายที่เริ่มเด้ง และมีลุ้นไปต่อ “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้น JMT เพื่อชี้ให้เห็นแก๊ปเป้าหมายค่อนข้างเปิดกว้าง ซึ่งเป็นจังหวะของการเข้ามาเล่นเก็งกำไร จึงอยากถามแฟนคลับว่า การยืนปิดที่ระดับ 74.75 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 2% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.61 พันล้านบาท เทียบกับยอดแรกที่บริเวณ 80 บาทน่าลุ้นขนาดไหน? และมั่นใจกับฐานแนวรับบริเวณ 70 บาทขนาดไหน? ลองไปคิดกันดูนะคะ
*สำหรับรายที่ลุ้นไม่ขึ้นอย่างหุ้น TU ถือเป็นหุ้นที่น่าผิดหวังสำหรับตัวอีฉันเต็ม ๆ เพราะในมุมของสตอรี่แจ่ม บวกกับการเบ่งกำไรยังอยู่ในลู่ทางที่ดี “โมนิก้า” ถึงไม่อยากเชื่อว่า หุ้นจะทรุดตัวลงมาปิดที่ระดับ 16.60 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 2.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.34 พันล้านบาท จึงต้องถอยลงไปดูแนวรับบริเวณ 16 บาทเป็นการทดแทน เพราะเที่ยวก่อนหุ้นก็เด้งกลับจากบริเวณนี้นะตัวเอง
*ประเด็นดังกล่าวทำให้ต้องเหลียวมองหุ้นที่โดนถล่มยาวเป็นแรมเดือนอย่าง DOHOME อย่างรวดเร็ว เพราะการลงมาปิดที่ระดับ 15.80 บาท ลบไป 1.40 บาท หรือลงไป 8.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 274 ล้านบาท เหมือนเป็นภาพสะท้อนความกังวลที่มีต่อการทำกำไรในอนาคต ผนวกกับทุกคนรับรู้อย่างแพร่หลายว่า กำลังซื้อหด! จึงทำให้การเทรดบน P/E 28 เท่ามีความเสี่ยงสูงไปโดยปริยายพะยะค่ะ
*ส่วนหุ้นสายโหดที่ชอบ “ลากแล้วทุบ” แบบไม่มีเยื่อใย ต้องยกตำแหน่งนี้ให้กับ BWG แต่เพียงผู้เดียว เพราะก่อนหน้านี้พุ่งพรวดขึ้นไปถึง 1.10 บาท แต่หลังจากนั้นก็ร่วงลงทุกวันแบบไม่มีดิสเบรก จนล่าสุดลงมายืนปิดที่ระดับ 0.85 บาท ลบไป 0.04 บาท หรือลงไป 4.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 201 ล้านบาท พร้อมกับทำนิวโลว์ในรอบครึ่งปีแบบนี้ มันหมายความว่า เจ้ามือเปิดตูดแน่บไปหมดแล้วใช่ไหมเอ่ย?
*ตบท้ายกันที่หุ้นบันเทิงขาลงอย่าง ONEE กันสักหน่อย เพราะการอ่อนตัวลงมาเรื่อย ๆ จนล่าสุดยืนปิดที่ระดับ 9.95 บาท ลบไป 0.55 บาท หรือลงไป 5.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 113 ล้านบาท โดยปลายเดือน มี.ค. เพิ่งขึ้นไปทำไฮที่บริเวณ 13.10 บาท มันเป็นภาพที่สร้างความกังวลใจให้เดี๊ยนพอสมควร เพราะสิ่งที่แสดงออกมาทางราคาหุ้นทำให้เชื่อว่า กำไรอาจไม่ตามเป้าที่ตั้งไว้ไงล่ะคะ