หุ้นถมไม่เต็ม

ราคาหุ้น PRINC วิ่งขึ้นไปอยู่ที่ระดับเหนือ 6.50 บาทหลังจากที่ประกาศงบการเงินงวดไตรมาสแรกที่มีกำไรกลับมางดงามกว่า 420 ล้านบาท


ราคาหุ้นของบริษัทโฮลดิ้งทางด้านการบริหารโรงพยาบาลอย่าง บริษัท พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ หรือ PRINC วิ่งขึ้นไปอยู่ที่ระดับเหนือ 6.50 บาทหลังจากที่ประกาศงบการเงินงวดไตรมาสแรกที่มีกำไรกลับมางดงามกว่า 420 ล้านบาท ทั้งที่ว่าไปแล้วยังมีตัวเลขขาดทุนสะสมคงค้างอยู่อีกกว่า 400 ล้านบาทให้ปรากฏอยู่เพื่อแสดงให้เห็นว่าจะยังไม่มีการจ่ายปันผลให้เห็น

แล้วทันทีที่ราคาหุ้นขยับขึ้นจากสิ้นปีก่อนเกือบ 50%  ข่าวการเพิ่มทุนขายหุ้นตามแผนธุรกิจที่เคยประกาศไว้นานจนแมงเม่าในตลาดหลงลืมไปแล้วก็เกิดขึ้นเมื่อดีลขายหุ้นของ  PRINC แบบเฉพาะเจาะจงให้กับพันธมิตรอย่างในเครือหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าที่อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ก็เกิดขึ้นตามมา ทำให้มีกองทุนเข้ามาในกิจการที่จะทำธุรกรรมเติบโตทางลัดผ่านการทำ M&A ที่วางเอาไว้ต่อยอดไปได้

PRINC มีแผนการลงทุนและขยายกิจการของบริษัทฯ ในอนาคตอย่างต่อเนื่อง และต้องการทุนใหม่เข้ามาโดยที่บริษัทประกาศเจตนาชัดเจนว่าจะเพิ่มทุนอีกปีละ 10% เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับรองรับการขยายกิจการในอนาคตได้อย่างทันการณ์

บริษัทฯ มีแผนที่จะใช้เงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุน ไปขยายธุรกิจโรงพยาบาลและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งตามแผนการลงทุนของบริษัทฯ จะมีทั้งการขยายโรงพยาบาล ทั้งการปรับปรุงและขยายโรงพยาบาลแห่งเดิม รวมถึงการลงทุนในโรงพยาบาลแห่งใหม่

วิธีการเข้าซื้อกิจการโรงพยาบาลเดิม และ/หรือการลงทุนสร้างโรงพยาบาลใหม่ ซึ่งคิดเป็นเงินลงทุนในอนาคตประมาณ 1,500-2,000 ล้านบาท รวมทั้งอาจนำไปใช้เป็นเงินหมุนเวียนในกิจการและหรือชำระหนี้บางส่วนให้แก่สถาบันการเงิน ซึ่งบริษัทฯ จะพิจารณาใช้เงินกู้ยืมสถาบันการเงินควบคู่กันไป

ประเด็นของกลยุทธ์ซื้อกิจการใหม่และปรับปรุงโรงพยาบาลเดิมที่ซื้อมา เป็นส่วนที่ทำให้ผลประกอบการพลิกมีกำไรสุทธิได้เร็วกว่าคาดการณ์ รับผลพวงจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่รุนแรงในช่วงเมษายน-กันยายน 2564 ที่ผ่านมา  โดยโรงพยาบาลในเครือทั่วประเทศมีร่วมกับรัฐบาลในการรักษาและดูแลผู้ป่วยจากโควิด-19 รวมถึงทำหน้าที่ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชนทั่วไป การจำหน่ายวัคซีนทางเลือก การจัดทำโรงพยาบาลสนาม Hospitels และ Home Isolation เป็นต้น

กำไรที่โดดเด่นนับจากไตรมาสที่ 4 ของปีก่อนที่ทำให้งบปี 2564 กลับมามีกำไร หลังจากการขาดทุนต่อเนื่อง และสามารถกำไรโดดเด่นในไตรมาสแรกของปีนี้  ที่ระดับกว่า 400 ล้านบาท (เทียบกับปีก่อนที่ขาดทุน 160 ล้านบาทเศษ) โดยขาดทุนสะสมลดฮวบมากเหลือติดลบที่  655  ล้านบาทเศษถือเป็นกลยุทธ์ที่ผู้บริหารจะใช้อ้างเป็นเหตุผลในการขายหุ้นให้พันธมิตรใหม่ได้ราคาสวย ๆ แต่ก็มีคำถามตามมาว่า ในระยะยาวแล้วการลดมูลค่าของบริษัทจากการที่กำไรสุทธิต่อหุ้นอาจจะย่ำแย่ลงเนื่องจากการเพิ่มทุนมากเกินไป…อาจจะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่

เรื่องนี้ ยังไม่มีคำตอบจากผู้บริหารของ PRINC ที่เพิ่งรับเงินจากการขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับพริ้นซิเพิล “ราช กรุ๊ป” จากการออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่จำนวนไม่เกิน 346,233,682 หุ้น ราคาหุ้นละ 4.09 บาท คิดเป็น 1,416,095,759.38 บาท เพื่อใช้เป็นทุนในการขยายงานตามแผน โดยมีคำอ้างว่า RATCH (ซึ่งเป็นบริษัทผลิตไฟฟ้า) สนใจโมเดลการลงทุนธุรกิจบริการสุขภาพ มีความใกล้เคียงกับธุรกิจผลิตไฟฟ้า “เพื่อต่อยอดและพัฒนาธุรกิจบริการสุขภาพได้”……ซึ่งเป็นคำอ้างที่ไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย

ในช่วงเวลาเช่นนี้ ผลประกอบการในช่วงต่อไปของ PRINC จะเป็นการยืนยันว่าดีลที่เกิดขึ้นเป็นแค่วิศวกรรมทางการเงิน หรือว่าการตีเหล็กยามร้อนกันแน่

เพียงแต่ในชั้นต้นนี้ ผู้ถือหุ้นของ PRINC ที่คาดหวังว่าจะเป็นหุ้นปันผลสวย ๆ คงต้องรอไปก่อนกับปฏิบัติการขายข่าวซื้อโรงพยาบาลใหม่ การขายหุ้นเพิ่มทุนแบบ PP และกำไรสุทธิต่อหุ้นที่แน่นิ่ง แม้ว่ากำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้น

จนกว่าจะมีคำตอบที่ชัดเจนว่า ถึงเวลาที่จะทำให้หุ้น PRINC กลายเป็นหุ้นที่ “ถมเต็มแล้ว”

ค่อยว่ากันอีกทีว่าเมื่อใดจะถึงวันนั้น…ระหว่างนี้ต้องคอยดูค่าพี/อีที่ 36 เท่า และราคาหุ้นที่มากกว่าบุ๊กเกือบ 3 เท่าตัวไปพลาง ๆ

Back to top button