วิบากกรรมใหม่อุตสาหกรรมเดินทาง
อุตสาหกรรมเดินทางตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว และมากกว่าที่คิดไว้เสียด้วยซ้ำ แต่ดูเหมือน กรรมเก่ายังไม่หมด สายการบินกำลังพบกับวิบากรรมใหม่
การระบาดของโควิด-19 ได้ทำให้อุตสาหกรรมเดินทางต้องหยุดชะงักไปโดยปริยาย แต่หลังจากที่การระบาดได้ลดลง และหลายประเทศ ได้เปิดประเทศและเปิดเศรษฐกิจมากขึ้น อุตสาหกรรมในภาคนี้ก็ฟื้นตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว และมากกว่าที่คิดไว้เสียด้วยซ้ำ แต่ดูเหมือน กรรมเก่ายังไม่หมด สายการบินกำลังพบกับวิบากรรมใหม่อีกในขณะนี้
ในช่วงนี้มีภาพจากแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในยุโรปและสหรัฐฯ ว่า สนามบินและสายการบินมีความยุ่งยากและวุ่นวายเพียงไรที่จะต้องจัดการกับดีมานด์ที่อัดอั้นมานาน ในบางที่นักเดินทางต้องเข้าคิวยาวเป็นเวลานานหลายชั่วโมงตามจุดตรวจหนังสือเดินทางและจุดรับกระเป๋า และสายการบินหลายแห่งต้องประกาศยกเลิก หรือเลื่อนเที่ยวบิน เป็นจำนวนมาก
จากข้อมูลของบริษัทข้อมูลการบิน “ซีเรียม” ในช่วงวันที่ 24 มิถุนายน ถึง 30 มิถุนายน สนามบินในอังกฤษทั้งหมดได้ยกเลิกเที่ยวบินไปราว 400 เที่ยวบิน ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 158% จากช่วงเดียวกันของปี 2562
สนามบินฮีทโธรว์ ซึ่งเป็นสนามบินที่มีผู้โดยสารมากสุดในกรุงลอนดอน ได้ขอร้องสายการบินในสัปดาห์ที่ผ่านมาให้ลดเที่ยวบิน เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารเกินกว่าสนามบินจะรองรับและจัดการได้
ในฝรั่งเศส สนามบินสำคัญในกรุงปารีสได้ยกเลิกเที่ยวบินราวหนึ่งในสี่เพราะคนงานนัดหยุดงาน ขณะที่บริทิช แอร์เวย์เตรียมรับมือกับการประท้วงของพนักงานที่จะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้เพื่อเรียกร้องค่าแรงคืนมาหลังจากที่ได้ลดไป 10% ในช่วงโควิดระบาด นอกจากนี้คนงานของไรอัน แอร์ในสเปน ได้ออกมาประกาศเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า จะประท้วงเป็นเวลา 12 วันในเดือน กรกฎาคม เพื่อผลักดันให้มีบรรยากาศในการทำงานที่ดีขึ้น
ในสหรัฐฯ ก็ประสบปัญหาแบบเดียวกัน ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ 4 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันชาติอเมริกา มีเที่ยวบินล่าช้ากว่า 12,000 เที่ยวและมีการยกเลิกเที่ยวบินอีกหลายร้อยเที่ยว
เนื่องจากว่านี่ยังไม่ใช่ช่วงที่มีคนเดินทางสูงสุดในช่วงฤดูร้อนของยุโรปและอเมริกา ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคม ถึงต้นเดือนกันยายน นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมการบินจึงคาดว่า ความวุ่นวายไม่น่าจะจบลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าและการเดินทางทางอากาศในช่วงฤดูร้อนของซีกโลกเหนือในปีนี้ น่าจะมีความไม่แน่นอนและเกิดความอลหม่านมาก
หากเที่ยวบินล่าช้าและมีการยกเลิกเที่ยวบินเป็นเวลานาน จะส่งผลกระทบต่อความต้องการของผู้บริโภคในการเดินทางในยามที่สายการบินกำลังรีบฉวยโอกาสที่ธุรกิจเพิ่งเฟื่องฟูหลังการระบาด ในขณะเดียวกันก็ต้องเตรียมรับมือกับการชะลอตัวที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เนื่องจากเริ่มมีสัญญาณภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกจะถดถอยมากขึ้น
ปัญหายังไม่ได้จบแค่นั้น มีรายงานเมื่อวันจันทร์ว่า ฮ่องกง ซึ่งเป็นศูนย์กลางการบินสำคัญของโลก ได้ระงับเที่ยวบินของ 3 สายการบิน คือ เอมิเรตส์แอร์ไลน์ กาตาร์แอร์เวย์ และการบินไทยเพื่อลงโทษที่สายการบินพาผู้โดยสารติดเชื้อโควิดเข้าไป การห้ามบินจะมีผลทันทีเป็นเวลา 5 วัน หากมีผู้ติดเชื้อโควิดเมื่อเดินทางไปถึง 5% หรือมากกว่า 5 คนขึ้นไป นอกจากนี้ฮ่องกงยังห้ามเข้าและสั่งปรับหากมีผู้โดยสารแสดงเอกสารไม่สมบูรณ์
สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดความวุ่นวายในอุตสาหกรรมเดินทางส่วนใหญ่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วทั้งอุตสาหกรรม มากกว่าที่จะเป็นปัญหาเฉพาะประเทศหรือเฉพาะสายการบินใดสายการบินหนึ่ง
การกลับมาเดินทางอย่างรวดเร็วของผู้โดยสารตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิ ทำให้สายการบินและสนามบินประหลาดใจและคิดไม่ถึงเล็กน้อย ดังนั้นจึงไม่ได้เตรียมพนักงานไว้รองรับเพียงพอ เนื่องจากสายการบิน ผู้ประกอบการสนามบิน และบริษัทอื่น ๆ ในภาคท่องเที่ยว ได้เลิกจ้างพนักงานในช่วงที่โควิดระบาดหนัก
เนื่องจากธุรกิจหยุดชะงักไปนาน คนงานในอุตสาหกรรมเดินทางได้มองหาโอกาสจากที่อื่นและไม่ได้กลับมาทำงานอีก ในขณะเดียวกัน ก็มีบางส่วนถูกบีบให้เกษียณอายุก่อนกำหนด นอกจากนี้ ยังยากที่จะดึงดูดพนักงานที่มีความสามารถใหม่ ๆ เนื่องจากกำลังมีการเปลี่ยนแปลงในตลาดแรงงานครั้งใหญ่ โดยเกิดปรากฏการณ์ ลาออกครั้งใหญ่ (Great Resignation) เมื่อคนงานเลือกที่จะลาออกจากงาน เพื่อแสวงหาชีวิตการทำงานที่ดีมากขึ้น
การจ้างพนักงานใหม่เป็นวิธีแก้ปัญหาระยะกลางถึงระยะยาวเท่านั้น เนื่องจากงานที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางจำนวนมาก ต้องมีการฝึกอบรมภาคบังคับก่อนที่จะสามารถเริ่มทำงานได้ ในขณะเดียวกัน หลายคนที่อยู่ในภาคนี้ รู้สึกว่าไม่ได้รับค่าตอบแทนเพียงพอและไม่พอใจกับสภาวะในการทำงาน
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะมีการนัดหยุดงาน ประท้วง หรือยกเลิกเที่ยวบินและเกิดความวุ่นวายสักแค่ไหน นักวิเคราะห์อีกส่วนหนึ่งยังเชื่อมั่นต่อภาคอุตสาหกรรมเดินทาง และโทษสื่อว่า รายงานข่าวโอเวอร์ไปซักหน่อย เพราะว่าเที่ยวบินส่วนใหญ่ยังตรงเวลาและจนถึงขณะนี้ยังสามารถหลีกเลี่ยงความวุ่นวายได้
ต้องรอฟังผลประกอบการของบริษัทในอุตสาหกรรมการเดินทางอีกทีว่า จะดีขึ้นกว่าระดับก่อนเกิดโควิดและจะสามารถพลิกฟื้นกำไรกลับมาได้หรือไม่ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ แต่ถ้าดูจากราคาน้ำมันที่พุ่งแรงอย่างต่อเนื่องในเวลานี้ น่าจะหืดขึ้นคอเหมือนกัน
ส่วนผู้โดยสาร เพื่อความไม่ประมาท ใครที่มีแผนจะเดินทางไปเที่ยวเมืองนอกในช่วงฤดูร้อนปีนี้ ต้องเตรียมตัวและเผื่อเวลาที่จะพบกับปัญหาในการเดินทางได้ทุกที่และทุกเมื่อ ไม่งั้นจะเสียทั้งเงินและเวลาโดยไม่จำเป็น