27 วัน ลง 100 จุด
วันนี้ขอเม้าท์ถึงบรรยากาศการลงทุนมากเป็นพิเศษสักหน่อย เพราะแรงขายจำนวนมากที่พรั่งพรูออกมาตั้งแต่เช้าจรดเย็น
*วันนี้ขอเม้าท์ถึงบรรยากาศการลงทุนมากเป็นพิเศษสักหน่อย เพราะแรงขายจำนวนมากที่พรั่งพรูออกมาตั้งแต่เช้าจรดเย็น ทำให้ดัชนียืนซึมกระทืออยู่ที่ระดับ 1,557.87 จุด ลบไป 4.50 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.46 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ยังมองเป็นช็อตของเงินไหลออกจากตลาดหุ้นเหมือนรอบก่อน ๆ ดัชนีถึงส่อแววจะลงไปทำโลว์ใหม่ตลอดเวลา และเมื่อรวมเบ็ดเสร็จ 27 วัน ดัชนีทรุดตัวมากถึง 100 จุด มันไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ นะจะบอกให้
*งานนี้ไม่มีความจำเป็นต้องไปฟื้นฝอยหาตะเข็บให้ยุ่งยาก เพราะเพียงแค่มองภาพการเล่นเที่ยวนี้ให้แตกฉาน และคำนึงถึงเรื่องผลงานของบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 2 เป็นหลัก ต่อจากนั้นประเมินตัวเลขกำไรไตรมาส 3 จะดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญขนาดไหน? เพียงเท่านี้แฟนคลับก็จะมองเห็นความเป็นไปได้ที่ดัชนีจะทะยานมีมากขนาดไหน? “โมนิก้า” ถึงรู้สึกกังวลใจกับแรงเทขายทำกำไรที่จะออกมาในเร็ว ๆ นี้ไงล่ะคะ
*เนื่องจากนักลงทุนแกนหลักยังโชว์ตัวเลขขายสุทธิเหมือนกับวันก่อน แถมเสียงเชียร์จากบรรดากูรูก็เริ่มอ่อยลงเรื่อย ๆ สัปดาห์ที่ผ่านมาถึงเป็นสัปดาห์ที่หุ้นบลูชิพโชว์ฟอร์มไม่ออกกันสักเท่าไหร่! “โมนิก้า” เลยไม่อยากพูดถึงหุ้นตัวเดิม ๆ ในภาวะลงทุนที่แดงเป็นส่วนใหญ่ เพราะยังมีหุ้นที่น่าเม้าท์แตกอีกหลายตัว จึงขอใช้พื้นที่ตรงนี้สำหรับการพูดถึงเหตุการณ์แปลกประหลาดที่เกิดขึ้น ณ เวลานี้เจ้าค่ะ
*รายแรกที่ต้องเม้าท์ถึงคงโฟกัสไปที่หุ้น SABUY โดนเทขายต่อเนื่องท่ามกลางผลงานที่โตต่อเนื่อง “โมนิก้า” มองเป็นสถานการณ์ที่ผิดปกติอย่างแน่นอน และเที่ยวนี้คงมีกลิ่นตุ ๆ ให้สายลับจับบ้านเล็กได้ตามดมกลิ่นอย่างแน่นอน และถ้ามองเรื่องราวที่ยังค้างคาถึงทุกวันนี้ ก็ไม่มีประเด็นไหนที่เป็นลบเลยสักอย่าง! เดี๊ยนถึงรู้สึกงงมาก ๆ เมื่อเห็นราคาหุ้นยืนปิดที่ 17.70 บาท ลบไป 1.20 บาท หรือลงไป 6.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 296 ล้านบาทไงล่ะคะ
*ส่วนในรายของหุ้น JMART ภายใต้การบริหารจัดการของ “พี่ตุ้ม” ก็ไม่มีประเด็นทางธุรกิจเหมือนกับเจ้าแรกเช่นกัน แต่อาจมีปัญหาตรงที่ราคาหุ้นปรับตัวลงเยอะเกิน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาจึงเห็นหุ้นถูกเทขายตลอดทั้งวัน จนสุดท้ายลงมาปิดที่ 45.75 บาท ลบไป 1.00 บาท หรือลงไป 2.14% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 284 ล้านบาท แถมเป็นลักษณะของการ “ขึ้นวัน ลงวัน” อีกด้วยแบบนี้..เหมาะต่อการเล่นสั้นเหลือเกินจ้า!
*ผิดกับในรายของ TEAM อย่างสิ้นเชิง เพราะหุ้นตัวนี้จมปลักในทิศทางขาลงร่วม 6 เดือน และไม่มีวี่แววจะพลิกกลับขึ้นมาได้เลย! จู่ ๆ ก็พุ่งพรวดขึ้นมาปิดที่บริเวณ 3.62 บาท บวกไป 0.44 บาท หรือขึ้นไป 13.84% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 213 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ชวนให้น่าติดตามเหลือเกิน แถมประวัติเก่า ๆ ก็ชี้ชัดว่า วันเดียวเลิก! เดี๊ยนถึงเกรงว่า เที่ยวนี้จะมีคนเสียรู้ให้กับหุ้นตัวนี้น่ะซี
*เช่นเดียวกับในรายของ MATCH จู่ ๆ ทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 2.12 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 6% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 78 ล้านบาท มันไม่ได้ทำให้เดี๊ยนรู้สึกดีขึ้นสักเท่าไหร่! เพราะในอดีตหุ้นก็พุ่งแรงแบบไม่มีเหตุผล แต่ถัดมาอีกวันกลับโดนถล่มขายกลับไปที่เดิม ซึ่งเป็นภาพที่ติดตาของอีฉันมาจนถึงทุกวันนี้ จึงทำได้แค่เพียงภาวนาอย่าให้เป็นเช่นนั้นอีกเลย..โอมเพี้ยง!
*สำหรับหุ้นที่ขึ้นด้วยแนวโน้มผลงานที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น D เป็นรายถัดมาแบบไม่ลังเลใจ เพราะการทะยานขึ้นมาปิดที่ 6.20 บาท บวกไป 0.55 บาท หรือขึ้นไป 9.73% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 107 ล้านบาท มันเป็นเรื่องที่รับฟังได้อยู่แล้ว ผนวกกับลูกค้าที่เป็นต่างชาติก็เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ จึงอนุมานได้ทันทีว่า กำไรไตรมาส 2 น่าจะสวยไม่ใช่เล่นนะตัวเอง