ฝรั่งหวนเก็บแบงก์..?
ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ หากดูความเคลื่อนไหวดัชนีของ SET คล้ายกับว่าเป็นเล่นรถไฟเหาะตีลังกา คือ ดัชนีค่อนข้าง “สวิง” อย่างมาก
ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้
หากดูความเคลื่อนไหวดัชนีของ SET คล้ายกับว่าเป็นเล่นรถไฟเหาะตีลังกา
คือ ดัชนีค่อนข้าง “สวิง” อย่างมาก
เปิดตลาดช่วงเช้า ดัชนีรูดทันที ก่อนที่จะดีดกลับขึ้นมาอยู่แดนบวกด้วยเวลาอันรวดเร็ว
ทว่าหลังจากนั้นไม่นาน ดัชนีค่อย ๆ ปรับลงมาสู่แดนลบอีกครั้ง
กระทั่งปิดตลาดภาคเช้า
พอเปิดภาคบ่าย ดัชนีได้รูดลงต่อทันที ลงไปลึกสุด 1,548.87 จุด หรือหลุดแนวรับสำคัญ 1,550 จุด
นั่นทำให้นักลงทุนเกิดการ “แพนิก” แล้วเทขายหุ้นตัวสำคัญออกมาจากพอร์ต เพราะหวั่นว่า ดัชนีจะลงไปลึกมากกว่านี้
เพราะก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์ต่างเตือนว่า หากดัชนีร่วงหลุด 1,550 จุด
อาจจะทำให้ดัชนีลงมาลึกที่บริเวณ 1,530 จุด
เพียงชั่วครึ่งที่ดัชนีหลุด 1,550 จุด ในเวลา 15.15 น.
ปรากฏว่า ณ เวลา 15.20 น. ดัชนีกลับค่อย ๆ ดีดกลับขึ้นมายืนเหนือ 1,550 จุด อีกครั้ง
แล้วค่อย ๆ ปรับขึ้นมาเรื่อย ๆ
กระทั่งมาปิดตลาดที่ระดับ 1,557.40 จุด ลดลงเพียง -0.47 จุด
ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายที่มากระโดดขึ้นช่วงท้ายตลาดกว่า 46,061 ล้านบาท
หลังจากตลาดปิด ได้เดาไว้เลยว่า วันนี้นักลงทุนต่างชาติน่าจะซื้อสุทธิแน่นอน
แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริง
เพราะวานนี้ต่างชาติซื้อสุทธิอีกว่า 1,839 ล้านบาท และเป็นการซื้อต่อเนื่องวันที่ 4 ติดต่อกันเริ่มจาก
วันที่ 6 ก.ค.ซื้อสุทธิ 2,285 ล้านบาท
วันที่ 7 ก.ค. ซื้อสุทธิ 1,812 ล้านบาท
วันที่ 8 ก.ค. ซื้อสุทธิ 1,709 ล้านบาท
หรือรวม 4 วันทำการ ต่างชาติซื้อสุทธิรวมกัน 7,645 ล้านบาท
ส่งผลให้นับจากต้นปีมาจนถึงวานนี้ (11 ก.ค.) ต่างชาติยังมียอดซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยอยู่กว่า 115,056 ล้านบาท
มีความเป็นไปได้ว่า เมื่อวานนี้ ต่างชาติอาจจะมีการ “ปรับพอร์ต”
ด้วยการขายหุ้นในกลุ่มเปิดเมืองที่ราคาขึ้นมาค่อนข้างสูง
แล้ววกกลับมาซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารอีกครั้ง หลังจากราคาได้ลงมาค่อนข้างลึก และเข้าเขตขายมากเกินไป
เราจึงเห็นหุ้นกลุ่มแบงก์ที่นำโดย KBANK BBL และ SCB เริ่มกลับมาวิ่งแรงอีกครั้ง
หุ้นบิ๊กแคปหรือที่มีมาร์เก็ตแคปใหญ่ขนาดนี้ ด้วยวอลุ่มเทรดที่เข้ามามากเป็นหลักพันล้านบาท
มีเพียงกลุ่มนักลงทุนสถาบันเท่านั้นที่จะลากหุ้นบิ๊กแคปขึ้นมาได้
ขณะที่เมื่อวานนี้ฝั่งกองทุนได้ขายสุทธิออกมา
จึงเหลือเพียงต่างชาติเท่านั้น ซึ่งวานนี้ก็มียอดซื้อสุทธิเพียงกลุ่มเดียว
มาถึงตอนนี้ ยังประเมินได้ไม่แน่ชัดว่า ต่างชาติจะซื้อสุทธิไปถึงเมื่อไหร่ และพวกเขาประเมินทิศทางค่าเงินบาทเป็นอย่างไร
เพราะหากมองว่า ค่าเงินบาทยังอ่อนค่า
ต่างชาติก็ไม่น่าจะซื้อต่อเนื่องแบบนี้
หรือว่า การเข้ามาดักซื้อในครั้งนี้ เป็นเกมล่อให้นักลงทุนในประเทศซื้อตามหรือไม่..?
จึงเป็นเรื่องที่ยากต่อการคาดเดา