แบงก์ท่าจะแย่?

วันนี้ “โมนิก้า” ขอมาในแนวโหดสลัดรัสเซีย ก่อนพรุ่งนี้จะเข้าวัดทำบุญเนื่องในวันพระใหญ่ จึงขออนุญาตบอกเล่าสิ่งต่าง ๆ ที่ได้ยินมาจากชมรมขาเผือก


*วันนี้ “โมนิก้า” ขอมาในแนวโหดสลัดรัสเซีย ก่อนพรุ่งนี้จะเข้าวัดทำบุญเนื่องในวันพระใหญ่ จึงขออนุญาตบอกเล่าสิ่งต่าง ๆ ที่ได้ยินมาจากชมรมขาเผือก ซึ่งอาจมีมูลความจริงที่พอรับฟังได้เยอะพอสมควร หรืออาจเป็นเรื่องราวที่ไม่มีมูลเลยก็ได้ เดี๊ยนถึงต้องถามแฟนคลับว่า สถานการณ์ดอกเบี้ยขาขึ้น กำลังซื้อหดตัวแรง และเงินเฟ้อพุ่งแรง มันทำให้ครึ่งปีหลัง 65 หุ้นแบงก์อยู่ดีมีสุขจริงเหรอคะ

*ประกอบกับเห็นหุ้นแบงก์อยู่ในทิศทางไซด์เวย์ดาวน์เป็นแรมเดือน และกลุ่มนักลงทุนสถาบันที่นำโดย “ต่างชาติ” และ “กองทุน” กลายเป็นคนกระหน่ำขายเป็นช่วง ๆ “โมนิก้า” ย่อมรู้สึกตะขิดตะขวงใจเมื่อได้ยินคำพูดหุ้นแบงก์คัมแบ็ค เพราะสิ่งที่รับรู้มาตลอด 5-6 เดือนคือ หุ้นแบงก์ลงยาวเลยนะลูกพี่! จึงต้องทำความเข้าใจกันใหม่ว่า เที่ยวนี้เป็นแค่การเก็งงบที่กำลังจะประกาศ “ดีกว่าคาด” หรือ “เป็นตามคาด” และที่เลี่ยงไม่พ้น “แย่กว่าคาด” นะจะบอกให้

*สำหรับผลลัพธ์ทั้ง 3 ทางเลือกที่เกริ่นไว้ในตอนต้น ก็คงออกมาในแนว sell on fact อีกตามเคย เพราะบรรยากาศของการลงทุนไม่เอื้อให้เล่นต่อยาว ๆ โดยผลลัพธ์แรกอาจดูดีกว่าทางเลือกอื่น ซึ่งจะทำให้ราคาหุ้นประคองตัวในระดับสูงได้ต่อไป ขณะที่ผลลัพธ์อื่นคงทำให้สภาพหุ้นดูไม่จืดเลยทีเดียว ยกเว้นวันนั้นสภาพตลาดหุ้นทั่วโลกตกอยู่ในโหมดเขียว ก็ไม่มีอะไรต้องวอรี่ทั้งสิ้นเจ้าค่ะ

*ฉะนั้นการที่ตลาดหุ้นไทยยืนปิดที่ระดับ 1,557.40 จุด ลบไป 0.47 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.60 หมื่นล้านบาท ท่ามกลางหุ้นแบงก์พุ่งอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้ง “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นการเล่นเก็งกำไรมากกว่า ผนวกกับแต่ละแบงก์ก็อยู่ในช่วงของการทุ่มงบลงทุน เพื่อต่อยอดการเติบโตแบบก้าวกระโดดในอนาคต เดี๊ยนเลยไม่แปลกใจที่สุ่มเสียงของผู้รู้หลายรายพูดไปในทางเดียวกันว่า งบคงไม่สวยเท่าไหร่นะจ๊ะ

*น่าแปลกที่บทวิเคราะห์บางแห่งกลับมองว่า ผลงานยังดูดีไม่เสื่อมคลาย โดยเฉพาะในรายของ KKP ถึงขั้นเชื่อว่า ไตรมาส 2 ปี 65 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 64 กำไรจะโตเกินระดับ 40% ซึ่งจะพยุงราคาหุ้นให้ทรงตัวในระดับสูงต่อไป แต่กลายเป็นว่า ในช่วง 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาหุ้นร่วงจากระดับ 72 บาทอย่างง่ายดาย จนช่วงเช้าวานนี้เห็นขึ้นไปถึง 63.50 บาท สุดท้ายก็ลงมาปิดเสมอตัวที่ระดับ 62 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 334 ล้านบาท..มันหมายความว่าไงมิทราบ!

*ส่วนรายถัดมาอย่างแบงก์สีเขียว KBANK ก็คาดกันว่า กำไรน่าจะอยู่ในระดับ 1.20 หมื่นล้าน ซึ่งเป็นตัวเลขที่โต 32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนนั้น กลายเป็นสตอรี่ที่ประคองราคาหุ้นให้แกว่งตัวไปมาในกรอบ 140-150 บาทเป็นเวลากว่าสองเดือนกว่า และกลายเป็นหุ้นแบงก์ที่น่าเล่นสั้นขึ้นมาทันที เพราะการยืนปิดที่ระดับ 146 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 1.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.83 พันล้านบาท มันมีดาวน์ไซด์ต่ำในทุกมิติน่ะซี

*สำหรับรายที่มีผลงานเฉิดฉายเหมือนเดิเม และสตอรี่เด็ดให้เห็นเป็นระยะ “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น SCB แบบไม่มีข้อกังขาอะไรทั้งสิ้น ขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับช่วงเวลาของการเปลี่ยนถ่ายธุรกิจไปเป็นเทคคอมพานี ย่อมมีประเด็นที่ทำให้นักเล่นเกิดความสงสัย และทำให้ราคาหุ้นไหลลงมากกว่าคนอื่น (ทั้งที่คาดว่า กำไรงวดนี้จะโต 17%) เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับประเมินการยืนปิดที่ระดับ 102 บาท บวกไป 3.25 บาท หรือขึ้นไป 3.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.63 พันล้านบาท น่าเล่นสั้นไหมคะ

*ส่วนรายที่มีอาการสาหัสสุด และราคาหุ้นไหลลงตลอดตั้งแต่ต้นปี “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น BAY ซึ่งใคร ๆ ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า กำไรงวดนี้ลดเกินครึ่ง และไม่มีวี่แววจะฟื้นตัวในเร็ววัน เดี๊ยนถึงไม่อยากให้แฟนคลับใส่ใจหุ้นตัวนี้มากนัก เพราะช่วงปกติก็ไม่มีวอลุ่มเทรดอยู่แล้ว ส่งผลให้การเปลี่ยนแปลงของกำไรไม่มีผลกับคนหมู่มาก และการยืนปิดที่ระดับ 32.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.80 ล้านบาท น่าจะเป็นการยืนตายซากเท่านั้นเองจ้า!

*ตบท้ายกันที่ดีล ADVANC หอบเงินเพื่อขอซื้อบรอดแบนด์ 3BB จากพ่อดอกมะลิ JAS มันทำให้ตาอยู่ที่พยายามปั้นดีล TRUE ควบรวมกับ DTAC เกิดอาการหูผึ่งขึ้นมาในทันที!..เพราะหากกลุ่มแรกสามารถดันดีลสำเร็จตามเจตนารมณ์  กลุ่มหลังก็จะมีข้ออ้างในการดันดีลขึ้นมาทันที!..เพียงแต่กลุ่มแรกเขาประกาศชัดเจนตั้งแต่ทีแรกว่า ขอให้ กสทช.เป็นคนชี้ขาด ขณะที่กลุ่มหลังยังสาละวนกับการส่งเรื่องให้ตีความแบบนี้..มันทำให้เห็นว่า ใครวุ่นวายในชีวิตมากกว่ากัน..อิอิอิ

Back to top button