สวรรค์ในนรกพลวัต2015

ตัวเลขเกินดุลการค้าเป็นเดือนที่ 20 ของจีนมากถึง 6.19 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นตัวเลขที่ดูดีแต่เป็นมายาภาพที่ฉาบอยู่เบื้องหลังการถดถอยของการลงทุนในจีนที่ชัดเจนสะท้อนว่าอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจมวลรวมหรือจีดีพีย่ำแย่ลง


ตัวเลขเกินดุลการค้าเป็นเดือนที่ 20 ของจีนมากถึง 6.19 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นตัวเลขที่ดูดีแต่เป็นมายาภาพที่ฉาบอยู่เบื้องหลังการถดถอยของการลงทุนในจีนที่ชัดเจนสะท้อนว่าอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจมวลรวมหรือจีดีพีย่ำแย่ลง

ตัวเลขที่แท้จริงได้รับการยืนยันซ้ำอีกครั้งจากการส่งออกที่ติดลบในเดือนตุลาคมมากถึง 3.6% เป็นการติดลบต่อเนื่องเดือนที่ 5 รวดเดียวแต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับตัวเลขการนำเข้าที่ร่วงหนักถึง 16% ในเดือนตุลาคมเช่นกัน ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 แล้ว

ตัวเลขส่งออกสะท้อนเศรษฐกิจชาติคู่ค้าจีนที่แย่ลงไม่ใช่ปัญหาจีนโดยตรง แต่ตัวเลขนำเข้าที่ลดลงฮวบฮาบ สะท้อนว่าการลงทุนในจีนลดลงหนัก

การนำเข้าเครื่องจักรและวัตถุดิบสะท้อนการลงทุนที่สำคัญน่าเติบโตมากขึ้นและส่งผลต่อความร่ำรวยของชาติคู่ค้าจีนโดยตรงส่วนตัวเลขนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยสะท้อนกำลังซื้อผู้บริโภคจีนได้ชัดเจนถ้าตัวเลขทั้งหมดลดลงทุกด้าน แสดงว่าคนจีนร่ำรวยน้อยลง

การลงทุนในประเทศของจีนที่ต่ำลงส่งผลเสียหายทำให้เศรษฐกิจเสียสมดุล เพราะว่าการออมจะมากกว่าการลงทุนทำให้เงินทุนล้นเกินทะลักจากภาคการผลิตไปสู่ 2 ทิศทางพร้อมกันคือ…

ทางแรกจะเป็นการไหลออกของทุน เพื่อลี้ภัยไปประเทศอื่นๆ ไม่ทำให้เกิดการหมุนเวียนในประเทศ ปรากฏจากตัวเลข 2 ปีหลังนี้ ที่เงินทุนไหลออกมากกว่า5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทางที่สองเป็นการย้ายทุนจากภาคการผลิตที่มีผลตอบแทนต่ำกว่า ไปสู่การเก็งกำไรที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าแม้จะมีความเสี่ยงมากกว่า…

การเสียสมดุลเช่นนี้หากเป็นชาติทุนนิยมที่มีพรรคการเมืองหลายพรรคและสื่อมีเสรีภาพสูงจะเกิดการถกเถียงหรือวาทะกรรมทางปัญญาหลากหลายแต่ในรัฐจีนเรื่องนี้บรรดาพี่เบิ้มในพรรคคอมมิวนิสต์จีน ต้องขบคิดกับภารกิจที่ซับซ้อนเพื่อหาทางออกให้ได้ก่อนที่จะถูกโค่นอำนาจลงจากภายใน

ภารกิจของผู้นำจีนที่ตกหนักกับหลี่เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันและทีมงาน ในการปรับเพื่อให้ดุลยภาพของเศรษฐกิจจีนกลับคืนมาจึงคล้ายกับการสร้างสวรรค์ในนรกดังนิทานตลกฝรั่งว่าด้วยห้องเรียนวิทยาศาสตร์อันสุดคลาสสิกเก่าแก่นั่นเอง

นิทานดังกล่าวเกิดขึ้นในหัวข้อ สอบวิชาฟิสิกส์ว่าด้วยความร้อนและอุณหภูมิ โดยอาจารย์เกิดพิเรนทร์ตั้งโจทย์ข้อหนึ่งแบบเปิด ว่า อุณหภูมิของนรกหากคิดตามหลักวิทยาศาสตร์ในอนาคตจะมีทิศทางอย่างไร โดยอาศัยกฎของบอยล์มาอ้างอิง

นักศึกษาที่สติเฟื่องที่สุดในห้องคนหนึ่งเขียนคำตอบว่า  ตามกฎของบอยล์แล้ว ก๊าซจะเย็นตัวลงเมื่อพื้นที่ของมันขยายตัวและร้อนขึ้นเมื่อมันถูกบีบอัดพื้นที่  ดังนั้น แนวโน้มที่นรกจะมีสมาชิกเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสถิติที่ไม่มีข้อถกเถียง จะทำให้นรกกลายเป็นแหล่งสั่งสมความร้อน ตามอัตราเพิ่มของสมาชิกนรก ที่แน่นอนว่าจะมีมากกว่าอัตราเพิ่มของสัตว์นรกที่ไถ่บาปเสร็จแล้วเพื่อจากไป

ข้อเท็จจริงและแนวโน้มดังกล่าว จะทำให้อุณหภูมิในนรกจะเพิ่มพูนและสั่งสมความร้อนยิ่งขึ้น

ยิ่งปัจจุบันความเชื่อของคนที่เป็นสาวกศาสนาต่างๆ เริ่มเข้มข้นมากขึ้น  ภายใต้สมมติฐานความเชื่อที่สุดขั้วกว่าในอดีต ดังนั้น หากสมมติว่ามนุษย์ทุกคนในโลกนับถือศาสนาและแต่ละศาสนาก็มักจะถือว่า คนที่อยู่นอกศาสนาของตนเป็นคนบาป เท่ากับว่า มนุษย์ทุกคนที่ตายแล้วต้องลงนรกหมด

เหตุผลง่ายๆ ก็คือ ทุกคนที่นับถือศาสนาของตน ต้องมีสภาพเป็นคนนอกศาสนาที่ตนเองไม่ได้นับถือ และคนที่ไม่นับถือศาสนาใดๆ เลย หรือนับถืออย่างงูๆ ปลาๆ ก็จะต้องตกนรกโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว

ผลลัพธ์ตามมาคือ นรกจะมีสมาชิกเพิ่มขึ้นทวีคูณในอัตราเร่ง หรือในอัตราเอ็กซ์โพเนนเชียล ท้ายสุดนรกจะแตกเพราะความร้อนที่ไม่มีทางระบาย เว้นเสียแต่ว่า หากพื้นที่ของนรกสามารถขยายตัวได้เร็วกว่าการเพิ่มขึ้นของสมาชิกใหม่ๆ นรกจะเย็นลงเรื่อยจนต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง

เพียงแต่การแก้ปัญหาขยายพื้นที่ของนรกให้เติบใหญ่มากขึ้น จะเร่งให้เกิดการเบียดขับพื้นที่ของสวรรค์ ที่ปกติจะหนาวยะเยือกเพราะคนไปสวรรค์แทบจะไม่ได้เลย ต้องถูกหดแคบลง

คำตอบของนักศึกษาสติเฟื่องดังกล่าว ไม่มีการบอกเพิ่มเติมว่าได้รับคะแนนเท่าใดจากอาจารย์เจ้าของโจทย์ดังกล่าว

หากใช้มาตรฐานคำตอบแบบ อัลดัส ฮักซเล่ย์ นักเขียนที่มองโลกอนาคตเชิงลบชาวอังกฤษ ที่ประกาศว่า โลกมนุษย์คือนรกของสิ่งมีชีวิตจากดาวอื่นๆ คำตอบดังกล่าวน่าจะได้คะแนนเต็ม

นั่นหมายความว่า ถ้าผู้นำจีนอ่านรหัสของนิทานเรื่องอุณหภูมินรกได้ถ่องแท้ พวกเขาคงไม่ต้องทำอะไรมากมาย เพราะการเสียสมดุลของเศรษฐกิจจีนนั้น ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่เป็นเรื่องปกติธรรมดา นับจากยุคที่เติ่งเสี่ยวผิงฉีกตำรามาร์กซ์-เลนินทิ้ง ไปเมื่อหลายทศวรรษก่อน ภายใต้คำขวัญใหม่ “แมวสีอะไรก็ได้ขอให้จับหนูเป็นก็พอ”

 

Back to top button