ทางลง..รีดกำไรโรงกลั่น

จากมติคณะกรรมการบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ที่อนุมัติสนับสนุนเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นกรณีพิเศษเพื่อช่วยเหลือประชาชนเป็นการเร่งด่วนจากสถานการณ์วิกฤตเดือนละ 1,000 ล้านบาท ระยะเวลา 3 เดือนรวมทั้งสิ้น 3,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนภาครัฐในการแบ่งเบาภาระค่าพลังงาน รวมทั้งรักษาเสถียรภาพด้านพลังงานของประเทศ

และเป็นที่ชัดเจนว่าปตท.จะบันทึกบัญชีเป็นเงินบริจาค 3,000 ล้านบาท..ในงบการเงินไตรมาส 3/65 นี้เลย..!!

ปัจจุบันกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มีภาระอุดหนุนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล อยู่ที่ 3.82 บาทต่อลิตร เพื่อพยุงราคาขายปลีกดีเซล ไม่ให้เกิน 34.94 บาทต่อลิตร, อุดหนุนแก๊สโซฮอล์ E20 อยู่ที่ 0.82 บาทต่อลิตร, อุดหนุนแก๊สโซฮอล์ E85 อยู่ที่ 0.53 บาทต่อลิตร และอุดหนุนก๊าซ LPG อยู่ที่ 12.23 บาทต่อกิโลกรัม จนมีสถานะติดลบกว่า 110,917 ล้านบาท

ส่วนเงิน 3,000 ล้านบาท ที่ได้จากปตท.กองทุนน้ำมันฯ จะนำไปจัดสรรอย่างไร..นั่นคงต้องว่ากันไป

ประเด็นอยู่ที่ว่า..เมื่อปตท.ยอมจ่าย 3,000 ล้านบาทแล้ว..แผนการ “รีดกำไรโรงกลั่น” จะจบหรือไม่..!?

ตัวเลขดังกล่าวถือว่าสูงกว่าปี 2551 ที่ 4 โรงกลั่นในเครือปตท.ร่วมบริจาคให้รัฐมูลค่า 2,196 ล้านบาท ช่วงระยะเวลา 6 เดือน..!!

ว่าไปแล้วทั้ง 6 โรงกลั่น ก็ไม่ได้มีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจเหมือนปตท.ซะด้วยซิ..แม้ 3 โรงกลั่น (TOP, IRPC, PTTGC ถือหุ้นใหญ่โดยปตท.) ขณะที่ BCP มีคลังถือไม่ถึง 25% ดังนั้นจะมาใช้สูตร “เงินบริจาค” เหมือนปตท.มันคงไม่ง่าย..เพราะไม่งั้นคงทำไปแล้ว ส่วน ESSO กับ SPRC ไม่ต้องพูดถึงตัดออกไปได้เลย..!!

แต่ดู ๆ แล้ว 6 โรงกลั่นกับกระทรวงพลังงาน ก็คงต้องนั่งจิบชา..กาแฟ เพื่อหาข้อสรุปหรือหาทางลงกันไป

เพราะเรื่องนี้ “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน อยู่ในสภาพน้ำท่วมปาก..กลืนไม่เข้าคลายไม่ออก..!!

หมวกหนึ่ง..ในฐานะเคยเป็นผู้บริหารโรงกลั่นมาก่อน..รู้ ๆ อยู่ว่าจู่ ๆ รัฐจะมารีดกำไรโรงกลั่นไม่ได้..มันติดคุกติดตะรางได้เลยนะ

อีกหมวกหนึ่ง..ในฐานะรัฐมนตรีที่กำกับดูแลด้านพลังงาน..ก็ต้องสวมบทบาทนักการเมือง เจรจาหาช่องทางแจกซองกฐินโรงกลั่นให้ได้..มิเช่นนั้นพวก “พรรคหิวแสง” ที่อาศัยจังหวะนี้หาความชอบใส่ตัว..ที่ถึงขั้นเอาข้อมูล (ที่ไม่ครบถ้วน)  มาเคลมให้ได้เห็นกันมาแล้ว..

ว่ากันว่าการเจรจากับ 6 โรงกลั่น..จะได้ข้อสรุปภายใน 2 สัปดาห์นี้..แต่นั่นก็เห็นพูดกันมาตั้งแต่เดือนก่อนแล้ว เจรจาทั้งทางตรงและทางอ้อมเกือบ 10 ครั้ง..ก็ยัง “พายเรือวนอ่าง” อยู่เช่นเดิม..!!?

เมื่อดูจากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบโลกจากต้น มิ.ย. 65 จนมาถึงตอนนี้ปรับลงมาค่อนข้างเยอะแล้ว นั่นก็น่าจะทำให้ “อารมณ์รีดไถกำไรโรงกลั่น” ค่อย ๆ ลดความแข็งกร้าวลงได้ไม่น้อยทีเดียว..และกว่าจะคุยกันรู้เรื่องราคาน้ำมันคงปรับตัวลง จนไม่ต้องมานั่งรีดไถกันแล้วมั้ง..!??

และยิ่งบอร์ดปตท.ใจดีบริจาคให้ 3 เดือน 3,000 ล้านบาท..อย่างน้อยกระทรวงพลังงาน ไม่ได้กลับบ้านมือเปล่า..ก็พอจะมีผลงานให้พอคุยได้บ้างว่า..นี่ไงก็ได้เงินมาตั้ง 3,000 ล้านบาท ส่วนปตท.ก็ได้ทำหน้าที่รัฐวิสาหกิจที่ดีให้รัฐบาลและภาคประชาชนแล้ว..

เอานะ..พอกันเถอะ!!..อย่างน้อยก็พอมี “ทางลง” กันแล้วมิใช่หรือ..!?