KEX ฉีกกฎการเล่นหุ้น
“ข้อมูลข่าวสาร” ถือเป็นสิ่งสำคัญ และมีความจำเป็นต่อการพิจารณา เพื่อใช้ตัดสินใจที่จะเลือกซื้อหรือขายในตลาดหุ้น
“ข้อมูลข่าวสาร” ถือเป็นสิ่งสำคัญ และมีความจำเป็นต่อการพิจารณา เพื่อใช้ตัดสินใจที่จะเลือกซื้อหรือขายในตลาดหุ้น
ในยุคก่อนหน้านี้ หุ้นที่ปรับตัวขึ้นหรือลง ส่วนใหญ่ 99.99% จะมีข่าวดีหรือข่าวร้ายเข้ามาเป็นตัวชี้นำการเคลื่อนของราคา…
แต่มีบ่อยครั้งเหมือนกัน ที่ราคาหุ้นมักจะเคลื่อนไหวก่อนข่าวล่วงหน้าเสมอ ไม่ว่าข่าวนั้นจะดีหรือร้าย
ยกตัวอย่างง่าย ๆ ถ้าราคาหุ้นดีดตัวขึ้นแบบผิดปกติ อย่างรวดเร็ว หรือมีวอลุ่มโป่งเข้ามา นั่นก็ตีความได้ว่า หุ้นตัวนั้นกำลังจะมีข่าวดีออกมา
ในทางกลับกัน ถ้าหุ้นลงทั้งที่ยังไม่มีข่าวร้ายปรากฏออกมา นักลงทุนก็สามารถเดาได้ไม่ยากเลยว่า จะมีข่าวร้ายรอประกาศอยู่ข้างหน้า
ที่กล่าวมาถือเป็นเรื่องปกติของข้อมูลข่าวสาร ที่จะมีผลต่อราคาหุ้น แต่ในยุคนี้ การปรับตัวของราคาหุ้นอาจจะไม่จำเป็นต้องมี “ข่าวดี” อีกต่อไป
เพราะเมื่อนักลงทุนทุกคนถูกสอนให้มีความเชื่ออย่างที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นว่า “ถ้าหุ้นขึ้น จะต้องมีข่าวดี”–“ถ้าหุ้นลง จะต้องมีข่าวร้าย”
ทฤษฎีดังกล่าวจะถูกหักล้างทันที ถ้ามีการสร้างวอลุ่ม พร้อมกับดันราคาหุ้น ก็สามารถสร้างจินตนาการภาพดังกล่าวได้แล้ว
หากสังเกตให้ดี ในช่วงที่ผ่านมามีหุ้นหลายตัวที่ลากขึ้นไปบวกหลายวัน แล้วสุดท้ายก็จบด้วยข่าวร้าย ซึ่งมีการทำแบบนี้หลายตัว
วานนี้ (18 ก.ค. 2565) การปรับตัวลดลงของหุ้นบริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX อย่างรุนแรง –2.15 บาท ท่ามกลาง SET INDEX บวก คงหนีไม่พ้นการประกาศปรับลดราคาค่าขนส่ง ที่เหลือเริ่มต้นที่ 15 บาทนั้น ในแง่ของคนทำธุรกิจ สามารถเข้าใจได้ว่า ต้องการแข่งขันในอุตสาหกรรม, ขยายฐานลูกค้าใหม่ หรือสร้างมาร์เก็ตแชร์ให้เพิ่มขึ้น ฯลฯ
โดยประเด็นเรื่องการประกาศปรับราคาค่าขนส่งให้ถูกกว่าคู่แข่ง ยังพอเข้าใจในเชิงธุรกิจ แต่สิ่งที่ไม่เข้าใจคือ ก่อนหน้านี้ ใครเป็นคนลากหุ้นขึ้นมาเพื่อเล่นรอบ
“โดยมีเหยื่อที่เป็นนักลงทุนเข้ามาติดบ่วงกันเต็มไปหมด”
หากมองข้อมูลย้อนหลังกลับไป โดยใช้สายตาของการมองแบบ “เกมหุ้น” การลากหุ้นขึ้นมาพร้อมวอลุ่ม และดันราคาตลอด 8 วันทำการที่ผ่านมา จนทำให้นักวิเคราะห์ นักเทคนิคอล เชื่อว่า “หุ้นตัวนี้กำลังจะฟื้นจากจุดต่ำสุดแล้ว”
โดยแห่กันเข้าไปมะรุมมะตุ้มหวังกำไร ท่ามกลางตลาดหุ้นช่วงที่ผ่านมาที่ร่วงหนัก อารมณ์เหมือนคนขาดน้ำที่หลงอยู่กลางทะเลทรายเกิน 5 วัน และหลงดื่มน้ำ (มีพิษ) นั้นเข้าไป
พฤติกรรมดังกล่าวเริ่มมีความเคลื่อนไหวแบบชัดเจนตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค. ที่วอลุ่มเข้า และในวันถัดมา (7 ก.ค.) มีวอลุ่มเทรดไป 724 ล้านบาท สูงสุดรอบ 8 เดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่เดือน พ.ย. 2564
การที่หุ้น KEX มีวอลุ่มโป่ง แถมราคาบวกแรง นับจากราคาปิดของวันที่ 5 ก.ค. (22.50 บาท) จนถึงวันที่ 15 ก.ค. ทำจุดสูงสุดที่ 27.25 บาท (8 วันทำการ) ราคาหุ้น +22% ท่ามกลางตลาดหุ้นเละเทะ
นั่นแสดงให้เห็นว่าหุ้น KEX มีความตั้งใจขึ้น และขึ้นแข็งแรงกว่าตลาด ท่ามกลางข่าวร้ายที่กำลังรออยู่
นี่จึงเป็นที่มาของการฉีกกฎเกณฑ์ของการเล่นหุ้น ที่จะเป็นการเตือนสติให้รู้ว่า โลกของข้อมูลข่าวสารกับการเล่นหุ้น มันคืบหน้าไปไกลแล้ว
…อิ อิ อิ…