อะไรกดดัน SCB-KBANK
SCB และ KBANK ราคาหุ้นทั้ง 2 แบงก์ ปรับลงหลุดแนวรับสำคัญหลายแนวรับ จนทำให้เกิดคำถามจากนักลงทุนว่า มาจากปัจจัยอะไรกันแน่
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB
และธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) KBANK
ราคาหุ้นทั้ง 2 แบงก์ ปรับลงหลุดแนวรับสำคัญหลายแนวรับ จนทำให้เกิดคำถามจากนักลงทุนว่า มาจากปัจจัยอะไรกันแน่
แล้วราคาหุ้นจะลงมาถึงเท่าไหร่
และจะกลับมาฟื้นตัวตอนไหน
จากข้อมูลที่น่าจะเป็นไปได้มากสุด คือ ทั้ง ไทยพาณิชย์ และกสิกรไทย ต่างเป็นหุ้นที่มีการประกาศเข้าลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวกับ Tech หรือสินทรัพย์ดิจิทัล
โดยเฉพาะไทยพาณิชย์ที่กำลังมีดีลซื้อ Bitkup
ช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา
สินทรัพย์ดิจิทัล เป็นขาลงอย่างชัดเจน ทำให้หุ้นที่เกี่ยวกับดิจิทัลทางการเงินต่างปรับลงถ้วนหน้า
มีคำถามต่อว่า แล้วไทยพาณิชย์กับกสิกรไทย ได้รับผลกระทบแค่ไหน
จากข้อมูลด้านการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลของ 2 แบงก์
พบว่า ไม่ได้ลงทุนอะไรมาก
หรือคิดเป็นสัดส่วนเปอร์เซ็นต์ที่น้อยมาก ๆ เมื่อเทียบกับธุรกิจหลักของธนาคาร เช่น การปล่อยสินเชื่อ รายได้จากค่าฟี ฯลฯ
ส่วนเหตุราคาหุ้นลงอาจจะมาจาก “เซนติเมนต์เชิงลบ” เท่านั้น
เพราะเมื่อกลุ่มธุรกิจประเภทใดกลับตัวเป็นขาลง หรือเกิดการปรับฐาน
หุ้นที่เกี่ยวกับธุรกิจนั้น ๆ จะปรับลงทั้งหมด
แม้ว่านักลงทุน อาจจะพอรับรู้แล้วว่า มีหุ้นตัวไหนบ้างที่ได้รับผลกระทบมากสุด และน้อยสุด
ทว่า เพื่อเป็นการปรับลดความเสี่ยง
เวลาปรับพอร์ตจึงต้องขายออกไปทั้งกลุ่มนั่นแหละ
จนกว่าจะเห็นความชัดเจนว่า ผลของธุรกิจนั้น ๆ ที่เป็นขาลง จะมีผลต่อหุ้นในกลุ่มตัวใด และอย่างไรบ้าง
นักวิเคราะห์มองว่า ผลประกอบการงวดไตรมาส 2/65 ของ SCB และ KBANK
หากสามารถรายงานตัวเลขสำคัญทางการเงินเป็นไปตามคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
หรือดีกว่าคาดการณ์
ราคาหุ้นจะกลับฟื้นขึ้นมาได้ค่อนข้างรวดเร็ว
กราฟอาจจะกลับตัวเป็น v-shape ได้
ในด้านของแนวรับราคาหุ้น SCB จะอยู่ที่ 90.25 บาท
เท่าที่ดูกราฟล่าสุด เหมือนคงพยายามสร้างฐานบริเวณ 95.00 บาท (+/-) และเริ่มเห็นสัญญาญการกลับตัว มีแนวต้านแรก 96.50 บาท และ 98.50 บาท
ส่วน 100 บาท เป็นแนวต้านใหญ่ทางด้านจิตวิทยา
KBANK หากราคาลงอีก จะมีแนวรับ 137.00 บาท และ 130.00 บาท
ล่าสุด เริ่มเห็นการดีดกลับเช่นเดียวกับ SCB
แต่อย่างที่รับรู้กันว่า หุ้นบิ๊กแคปทั้ง SCB และ KBANK หากจะดีดกลับแรง ๆ ได้นั้น
ต้องอาศัยแรงซื้อของนักลงทุนต่างประเทศ หรือไม่ก็นักลงทุนสถาบัน กองทุนต่าง ๆ ของไทย เพราะไม่เช่นนั้น ราคาหุ้นกลับตัวเข้าสู่ขาขึ้นลำบาก
ลำพังแรงงัดของรายย่อยคงไม่เพียงพอ
เมื่อวานนี้ นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิ 1,214 ล้านบาท (SET)
เข้าใจว่า น่าจะเข้ามาเก็บหุ้นในกลุ่มแบงก์ด้วย
ส่วนนักลงทุนสถาบันขายสุทธิออกมา 781 ล้านบาท
ต้องมาลุ้นกันว่า
ต่างชาติซื้อแบงก์กลับรอบนี้จะแรลลี่หรือเปล่า