RBF ผลกระทบที่ไม่กระทบจากเมียนมาเอฟเฟ็กซ์!
บ่อยครั้งที่มักจะเห็นข่าวร้ายหนึ่งเรื่อง ที่ส่งผลกระทบไปยังหุ้นที่มีความเกี่ยวข้องกัน ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่มีผลกระทบในเชิงธุรกิจ
บ่อยครั้งที่มักจะเห็นข่าวร้ายหนึ่งเรื่อง ที่ส่งผลกระทบไปยังหุ้นที่มีความเกี่ยวข้องกัน ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่มีผลกระทบในเชิงธุรกิจ
อย่างกรณีล่าสุด ของธนาคารกลางเมียนมา ที่ออกคำสั่งให้บริษัทและผู้กู้ยืมเงินรายย่อยระงับการชำระคืนหนี้เงินกู้ต่างประเทศไว้ก่อนนั้น ได้ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นที่ทำธุรกิจกับทางเมียนมา ทั้งทางตรงและทางอ้อม
แม้แต่บริษัทที่ไม่มีความเกี่ยวข้องโดยตรง อย่างบริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF ราคาหุ้นก็พลอยได้รับผลกระทบไปด้วย
เหตุผลง่ายๆ ที่นักลงทุนควรทราบเลยว่า RBF เป็นบริษัทที่รับจ้างผลิตและจำหน่ายวัตถุที่เป็นส่วนผสมในอาหาร (Food Ingredients) ตามคำสั่งของลูกค้า โดยที่ RBF ไม่ได้ขายสินค้าตรงไปที่ประเทศเมียนมา
สิ่งที่ RBF ทำคือ การขาย ingredients ให้กับลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตปลายน้ำในประเทศไทยเป็นหลัก
ปัญหาหรือผลกระทบในการประกาศของธนาคารกลางเมียนมาไม่มีผลกระทบต่อการเก็บเงินของ RBF เลยแม้แต่บาทเดียว
ส่วนในแง่มุมของความกังวลว่า ยอดขายของลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มที่ส่งไปขายในเมียนมาจะลดลง จะทำให้ยอดสั่ง ingredients ลดลงตามไปด้วยนั้น คงจะเป็นไปได้ยาก
เนื่องจากการชะลอ, ลด หรืองดส่งสินค้า จะทำให้มีโอกาสสูญเสียมาร์เก็ตแชร์ที่มีอยู่ได้ ประกอบกับสินค้าดังกล่าวเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค ที่ต้องดื่มทานกันเป็นประจำ ทำให้โอกาสลดจำนวนลงคงเป็นไปได้น้อยมาก
นอกจากนี้ บรรดาลูกค้าของ RBF ที่จำหน่ายสินค้าในเมียนมา ถือว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก อาทิ CBG-OSP ส่งออกไปที่เมียนมาประมาณ 10%
โดยสัดส่วนของลูกค้า RBF ที่ส่งไป 10% นั้น ใช้ ingredients ของ RBF แค่บางส่วน บางกลิ่น บางรสชาติเท่านั้น ไม่ได้ใช้ทั้งหมด
ฉะนั้น สิ่งที่เกิดกับหุ้น RBF ในตอนนี้ คือ ความไม่เข้าใจข้อเท็จจริง และเป็นการแพนิกเซล ที่คิดว่าอาจจะเป็นผลกระทบ แต่ความจริงแล้วไม่กระทบกับพื้นฐานของ RBF เลย
ประกอบกับในแง่ของพื้นฐานและการเติบโตที่กำลังจะเกิดขึ้นแบบมีอัพไซด์จาก โครงการ CBD ในครึ่งปีหลัง ยิ่งทำให้การปรับตัวลงลดของราคาหุ้น RBF แบบนี้ เป็นอะไรที่ไม่สมเหตุสมผล ต่อพื้นฐานที่กำลังจะเติบโตในอนาคต