หุ้นไทยใต้ฝ่าเท้าฝรั่ง!
สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยเป็นเหมือนที่ “โมนิก้า” คาดการณ์ไว้ไม่มีผิดเพี้ยน จึงทำให้เชื่อว่า การร่วงลงของดัชนีจะดำเนินต่อไปเรื่อยๆ
สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยเป็นเหมือนที่ “โมนิก้า” คาดการณ์ไว้ไม่มีผิดเพี้ยน จึงทำให้เชื่อว่า การร่วงลงของดัชนีจะดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ เพราะปัจจัยลบยังโผล่ให้เห็นเป็นระลอก ผนวกกับพฤติกรรมของ “กองทุน” ยังเป็นลักษณะชักเข้าชักออก ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนผันผวนหนักขึ้นกว่าเดิม และเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำเดี๊ยนจั่วหัวไปเมื่อวันก่อนว่า “1500 เซฟสุด?” ไงล่ะคะ
ประกอบกับข้อมูลเก่า ๆ แสดงให้เห็นความโกลาหลของตลาดหุ้นไทย จึงกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องหยิบยกเรื่องแรงขายฝรั่งเป็นท็อปปิคเร่งด่วน เพื่อแฟนคลับจะได้เห็นความเชื่อมโยงของมันนีเกมเที่ยวนี้มันโหดร้ายกว่าที่คิดไว้มาก โดยเฉพาะในมุมสัดส่วนการซื้อขายหุ้นของฝรั่งตาน้ำข้าวที่ขึ้นมาอยู่ในระดับ 50-60% จากเมื่อก่อนอยู่แค่ในระดับ 20-30% ก็เป็นภาพที่ย้ำหัวหมุดว่า หุ้นไทยอยู่ใต้ฝ่าเท้าฝรั่งแบบเบ็ดเสร็จนะจะบอกให้
ที่น่าสนใจคือ รายย่อยที่เคยมีสัดส่วนซื้อขายอยู่ในระดับ 50-60% ก็มีลักษณะถอยลงมาเรื่อย ๆ จนลงมาอยู่ที่ระดับ 20-30% จึงเหมือนเป็นภาพที่ย้ำให้ทุกคนได้รู้ว่า รายย่อยกำลังลดบทบาทตัวเอง หลังได้รับบาดเจ็บจากการเทรดหุ้นวันแล้ววันเล่า พร้อมกับปล่อยให้ตลาดหุ้นไทยตกอยู่ภายใต้การคอนโทรลของฝรั่งตาน้ำข้าวแต่เพียงผู้เดียว “โมนิก้า” ถึงเชื่อว่าราคาหุ้นที่เห็นถูก ๆ ในเวลานี้ วันข้างหน้าอาจมีราคาถูกกว่า เจ้าค่ะ
ฉะนั้นการที่ตลาดหุ้นไทยทรุดตัวลงมาปิดที่ระดับ 1,533.43 จุด ลบไป 11.38 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.76 หมื่นล้านบาท อาจไม่โสภาสถาพรสำหรับนักลงทุน แต่อาจมีเรื่องที่ไม่โสภาหนักกว่าเดิมเกิดขึ้นอีก “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับประเมินสถานการณ์จากเรื่องที่เล่าให้ฟังน่าเชื่อถือไหม? เพราะตามความคิดส่วนตัวของเดี๊ยนในเวลานี้..มองดีไม่ได้เลย! เลยไม่กล้าฟันธงในมุมบวกนะคะ
ขนาดหุ้นซูเปอร์โกรทที่มาแรงอย่าง SABUY ยังถูกคนใกล้ชิดถล่มขายแบบไม่ไว้หน้า “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่ขาเม้าท์ปากมอมเอ่ยถึงชายที่ชื่อ เสี่ย.อ ซึ่งเป็นคนที่มีหุ้นตัวนี้ในพอร์ตถี่เหลือเกิน แถมประเด็นดังกล่าวก็ทำให้ลูกอีช่างเผือกเม้าท์ต่อเป็นทอด ๆ เดี๊ยนจึงอยากให้แฟนคลับประเมินกันเอาเองว่า การยืนปิดที่ระดับ 15.80 บาท ลบไป 1.50 บาท หรือลงไป8.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 377 ล้านบาท มันเกี่ยวโยงกันจริงไหมจ๊ะ
ส่วนรายที่ทรุดลงต่อเนื่องอย่าง RBF ก็มีการเม้าท์ถึง เสี่ย.จ ไม่เข้ามาทำหน้าที่ MM สักหน่อยเหรอ? เพราะราคาที่เห็น ณ เวลานี้ค่อนข้างถูกในสายตาแวลูอินเวสเตอร์ แต่วานนี้ก็ยังถูกถล่มอีกจนได้ ส่งผลให้ราคาหุ้นลงมานอนซดน้ำข้าวต้มที่ระดับ 11.70 บาท ลบไป 0.90 บาท หรือลงไป 7.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 260 ล้านบาท เดี๊ยนคงเม้าท์ได้แค่ว่า ทำใจ..ทำใจ และก็ ทำใจ..พะยะค่ะ
อีกรายที่ขาแข้งอ่อนแรง และทานกระแสไม่ไหว “โมนิก้า” คงมองไปที่ตัวท็อปของวงการอสังหาฯ อย่างหุ้น ORI เพราะยังถูกรินขายออกมาเรื่อย ๆ จนไม่สามารถโงหัวขึ้นได้เลย เดี๊ยนถึงรู้สึกหนักใจที่จะแนะนำให้แฟนคลับเข้าไปช้อนหุ้น หลังราคาหุ้นย่อตัวลงมาปิดที่ระดับ 9.45 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 2% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 55 ล้นบาท ท่ามกลาง PE 7.60 เท่า เพราะอาจมีราคาต่ำกว่านี้อีกน่ะซี
ย้อนกลับมาดูหุ้นที่ “ฝรั่งไม่เอา กองทุนหนี” อย่างเช่น SCGP กันสักหน่อย เพราะอาการเซถลาลงมาเรื่อย ๆ ท่ามกลางความกังวลต้นทุนพุ่ง มันเป็นสถานการณ์ที่บีบให้นักลงทุนสถาบันต้องสาดหุ้นทิ้ง วานนี้ถึงเห็นราคาหุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 53 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 1.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 357 ล้นบาท พร้อมกับโมเมนตัมขาลง M-Shape แบบนี้..รอดูแถว 50 บาทได้เลยจ้า!
ส่วนรายที่โดนหนัก ๆ คงไม่มีใครเกินหน้า SCB อย่างแน่นอน เพราะราคาหุ้นไหลลงราวกับท่อน้ำแตก จนเดาไม่ถูกว่า ฝรั่งจะหยุดขายเมื่อไหร่? จึงอยากให้แฟนคลับเดาทางกันว่า การเทรดบนพีอี 7.90 เท่าถูกเกินไปหรือไม่? และการที่หุ้นยืนปิดที่ระดับ 91.25 บาท ลบไป 4 บาท หรือลงไป 4.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.14 พันล้านบาท พร้อมกับทำโลว์ในรอบ 1 ปี ฝรั่งยังจะทุบต่อไหม?..ลองไปคิดกันดูนะพ่อทูนหัว!