กลต.ลอยตัว (อีกตามเคย)
ก่อนจะเข้าสู่เรื่องราวของประเทศไทย “โมนิก้า” ขอเม้าท์ถึงพฤติกรรมที่น่ารังเกียจของประเทศมหาอำนาจอย่างอเมริกาสักหน่อย!
ก่อนจะเข้าสู่เรื่องราวของประเทศไทย “โมนิก้า” ขอเม้าท์ถึงพฤติกรรมที่น่ารังเกียจของประเทศมหาอำนาจอย่างอเมริกาสักหน่อย! เพราะสิ่งที่เห็นเที่ยวนี้เป็นการยั่วยุเพื่อทำให้เกิดสงคราม ซึ่งทุกคนได้เห็นกันเต็มสองลูกตาว่า ที่ประเทศยูเครนพินาศย่อยยับก็มาจากอเมริกาจอมเสี้ยมทั้งนั้น เดี๊ยนถึงไม่แฮปปี้เมื่อเห็นความกร่างของอันธพาลโลก พร้อมกับพร่ำเพ้อถึงเรื่องประชาธิปไตย โดยหลงลืมที่จะตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาของตัวเองนั้น..มีความชอบธรรมไหมพะยะค่ะ
ด้วยเหตุนี้เดี๊ยนถึงอยากตั้งคำถามว่า ทั่วโลกยังเละไม่พอใช่ไหม? อเมริกาถึงชอบแส่หาเรื่องชาวบ้านไม่หยุดหย่อน โดยเฉพาะการเข้าไปแทรกแซงกิจการภายในของประเทศที่เป็นคู่ขัดแย้งในอดีต มันทำให้เห็นว่า คนที่ได้ประโยชน์จากความวุ่นวายก็เป็นพ่อค้า “อาวุธ” และ “น้ำมัน” จากอเมริกาทั้งนั้น “โมนิก้า” ถึงเลิกเชื่อถือประเทศที่เรียกตัวเองว่า ตำรวจโลก? เพราะความจริงที่ปรากฏให้เห็นคือ พวกบ้าที่ชอบหาเรื่องจนเป็นสันดาน (ไปไต้หวันหาสวรรค์วิมานอะไร สู้ไปโน้มน้าวประเทศในเอเชียให้ช่วยกันแก้ไขปัญหาที่พม่าแบบสันติวิธีดีกว่า) เจ้าค่ะ
ประเด็นข้างต้นทำให้ โมนิก้า” รู้สึกหัวร้อนขึ้นมาในทันที พอมาเจอขยะใต้พรมที่ซุกไว้ใน Zipmex ยิ่งมีอาการหัวร้อนมากขึ้นกว่าเดิม! เพราะโมเมนตัมของเรื่องถูกเหวี่ยงกลับไปอยู่ที่เสือกระดาษอย่าง ก.ล.ต. เต็ม ๆ พร้อมกับมีเสียงบ่นพึมพำจากบริษัทจดทะเบียน โบรกเกอร์ รวมถึงอดีตผู้บริหารที่เคยอยู่ใน ก.ล.ต. และ ตลท. ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “เจ๊แป๋ว” กำลังทำอิหยังวะ!
เนื่องจากมาตรฐานในการกำกับดูแลพวกคริปโต ทำไมมันช่างอ่อนปวกเปียกเหลือเกิน ขณะที่มาตรฐานในการกำกับดูแล บจ. บล. และ บลจ. สุดแสนจะเข้มงวดทุกประตูหน้าต่าง โดยเฉพาะประเด็นฐานทุนที่ใช้ทำธุรกิจของ Zipmex ที่มีอยู่แค่ระดับร้อยล้าน แต่สามารถทำธุรกรรมที่มีมูลค่าสูงถึง 2 พันล้านได้อย่างไร? เพราะของมันเห็นตั้งแต่เริ่มต้นว่า ในอนาคตมีปัญหาเรื่องสภาพคล่องอย่างแน่นอนไงล่ะคะ
ยิ่งมีคนในวงการโบรกเกอร์เปรียบเปรยถึง “เงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ” หรือที่เรียกกันในชื่อ NCR ยิ่งทำให้เห็นถึงความหละหลวมของหน่วยงานดังกล่าว (สัปดาห์ก่อนยังเป็นฮีโร่อยู่เลย แต่สัปดาห์นี้ดันกลายเป็นผู้ร้ายเสียอย่างนั้น) “โมนิก้า” ในฐานะผู้เสพข่าวสารทั้ง 2 ฝั่ง จึงต้องกระโดดลงมาคลุกคลีตีโม้งแบบสุดซอย เพราะแอคชั่นของสำนักงานดังกล่าว ชวนให้สงสัยถึงแนวทางการแก้ปัญหาจริงจังไหมน่ะซี
สาเหตุที่ทำให้คนในวงการตลาดหุ้นเชื่อเช่นนั้นมาจากบิ๊กเนมที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Zipmex ล้วนเป็นคนที่มีเส้นสายใหญ่โตอย่างกับเส้นก๋วยจั๊บทั้งนั้น และประเด็นนี้ก็เชื่อมโยงไปถึง Zipmex Asia ซึ่งได้รับการกล่าวขานเป็นต้นธารของความวุ่นวายในทำนอง น่าจะมีนอมีนีที่เป็นคนไทยรวมอยู่ด้วยหรือเปล่า? แต่ดูเหมือนว่า ทางการจะตัดประเด็นนี้ทิ้งไปแบบงงกันทั้งบาง จนนำไปสู่บริบทที่ว่า เลิกทำตัวเป็นแบบนักการเมืองที่ชอบตะแบงไปเรื่อย ๆ สักทีได้ไหมคะ
เนื่องจากข้อมูลที่ทุกคนรับรู้ตอนนี้คือ เมื่อแพลตฟอร์มสินค้าที่ Zipup เข้าไปลงทุนในต่างประเทศล้มละลาย มันหมายความว่า เงินของนักลงทุนก็กลายเป็นศูนย์เลยใช่ไหม? ซึ่งเป็นเรื่องที่ ก.ล.ต. ต้องออกมาพูดให้ชัด! เพราะตอนนี้มีข่าวเม้าท์ออกมาในทำนอง เฮีย.ส กำลังวิ่งขาขวิดเพื่อหาเงิน 2 พันล้านมาแก้ปัญหาที่พวกตัวเอง และบรรดาลูก ๆ หลาน ๆ ก่อไว้ และถ้าเคลียร์ไม่ได้เหมือนที่พูดไว้..งานนี้ต้องมีคนเข้าซังเตจริงหรือเปล่า?..วานบอกทีเถอะ!
ที่น่าสนใจคือ ทำไมผู้คนมากมายถึงมอง ก.ล.ต. เป็นหน่วยงานประเภทลูบหน้าปะจมูกเมื่อเจอเคสใหญ่ ๆ แถมแอคชั่นที่ออกมาในแต่ละเที่ยวก็ออกไปในแนวขอลอยตัว โดยหลงลืมไปว่า ฝ่ายงานของตัวเองไม่มีความรู้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้หรือเปล่า? แถมบทสรุปที่ทุกคนปรามาสไว้ตั้งแต่วันนี้คือ สายเทรดคริปโตก็คงหมดตัวอีกตามเคย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็คงออกมาพูดว่า ทำดีที่สุดแล้ว!..ซึ่งมันเป็นสคริปต์น้ำเน่าที่น้องโมเห็นมานักต่อนัก..อิอิอิ
งานนี้ใครจะว่า “โมนิก้า” เป็นนางมารร้าย หรือจะเป็นพวกวัยทองก็ไม่ถือสา และโกรธเคืองอะไรทั้งสิ้น เพราะสิ่งที่พยายามถ่ายทอดให้กับสังคมในเที่ยวนี้เป็นเรื่องของความโปร่งใส ซึ่งเป็นเหมือนกระจกสะท้อนเงาในมิติต่าง ๆ จึงต้องเม้าท์แบบตรงไปตรงมา เพื่อทำให้ทุกคนได้เห็นพฤติกรรมของคนที่ชอบฉกฉวยโอกาสบนความไม่รู้ของคนอื่น และพอมีเรื่องก็บ่ายเบี่ยงที่จะตอบกับสังคมว่า เงินคนอื่น..เอาไปได้อย่างไรจ๊ะ