SCGP กระดาษเริ่มแข็ง (แกร่ง)
ทิศทางผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 65 ของ SCGP ปรับตัวดีขึ้น โดยล่าสุดมีการปรับเป้ารายได้จากการขายปี 65 เพิ่มขึ้นเป็น 1.5 แสนล้านบาท
คุณค่าบริษัท
บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP ประกาศงบไตรมาส 2/2565 มีกำไรสุทธิ 1,856 ล้านบาท ลดลง 18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,263 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขาย 37,982 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขาย 29,895 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร 31,790 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% และรายได้จากธุรกิจเยื่อและกระดาษ 6,192 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28%
ที่จริงรายได้ของ SCGP ก็เติบโตดี แต่กำไรลดลง สาเหตุหลักมาจากต้นทุนขายเพิ่มขึ้น 32% อยู่ที่ 31,302 ล้านบาท เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบและพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น เป็นผลมาจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ราคาพลังงานในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น โดยคาดว่าราคาพลังงานครึ่งปีหลังมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง
แต่จากแนวโน้มความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เติบโตขึ้นมาก ประกอบกับบริษัทได้มีการปรับราคาขายเพิ่มขึ้น เพื่อสะท้อนต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ก็น่าจะทำให้ทิศทางผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 ปรับตัวดีขึ้น โดยล่าสุดมีการปรับเป้ารายได้จากการขายปี 2565 เพิ่มขึ้นเป็น 1.5 แสนล้านบาท จากเดิมตั้งไว้ที่ 1.4 แสนล้านบาท
โดยยังคงงบลงทุนรวมในปีนี้ประมาณ 20,000 ล้านบาท เพื่อการปรับปรุงและพัฒนาประสิทธิภาพการผลิต การขยายกำลังการผลิต และสร้างการเติบโตร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ (Merger and Partnership : M&P) หลังจากช่วงครึ่งปีแรกได้ลงทุนโครงการขยายกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์กล่องลูกฟูก เพื่อรองรับความต้องการบรรจุภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นในประเทศไทยอีก 75,000 ตันต่อปี และล่าสุดได้ขยายการลงทุนในธุรกิจรีไซเคิลวัสดุบรรจุภัณฑ์ใน Peute Recycling B.V. (Peute) และการลงทุนใน Imprint Energy Inc. (Imprint) ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ผลิตแบตเตอรี่ด้วยการพิมพ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีโอกาสเติบโต
ปัจจุบันบริษัทมีวงเงินเหลือเกือบ 4,000 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการเจรจาดีล M&P อีกจำนวน 2 ดีล
ด้านบล.เมย์แบงก์ คาดผลประกอบการครึ่งปีหลังของ SCGP จะฟื้นตัวดีขึ้น แรงหนุนจากไทยและอาเซียนมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับสู่ภาวะปกติ คงประมาณการปีนี้คาดกำไร 8,163 ล้านบาท โตเล็กน้อย 2% แนวโน้มระยะยาวคาดจะเติบโตสูง จากการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ และกลยุทธ์โซลูชันบรรจุภัณฑ์ครบวงจร และบรูณาการภายในห่วงโซ่คุณค่า
สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น SCGP ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 28.42 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 18.51 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายสูงกว่าตลาด แต่อย่างไรก็ตามถ้าดู P/BV ที่ระดับ 2.31 เท่า ก็อาจสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ส่วนใหญ่ P/BV จะอยู่ที่ระดับ 1-2 เท่า โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 61.00 บาท จากราคาต่ำสุด 56.00 บาท และราคาสูงสุด 65.00 บาท
…
รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่
- บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) 3,095,882,660 หุ้น 72.12%
- บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 156,600,927 หุ้น 3.65%
- บริษัท ทุนลดาวัลย์ จำกัด 71,498,900 หุ้น 1.67%
- SOUTH EAST ASIA UK (TYPE C) NOMINEES LIMITED 49,438,538 หุ้น 1.15%
- สำนักงานประกันสังคม 44,872,386 หุ้น 1.05%
รายชื่อกรรมการ
- นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานกรรมการ, กรรมการอิสระ
- นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม รองประธานกรรมการ
- นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, กรรมการ
- พ.ต.อ.ธรรมนิธิ วนิชย์ถนอม กรรมการ
- นายธีรพงศ์ จันศิริ กรรมการ
- นางไขศรี เนื่องสิกขาเพียร กรรมการอิสระ, ประธานกรรมการตรวจสอบ
- นายชาลี จันทนยิ่งยง กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ
- นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ
- นายกิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ กรรมการอิสระ
- นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ กรรมการอิสระ
- นายวนัส แต้ไพสิฐพงษ์ กรรมการอิสระ
- นายวิบูลย์ ตวงสิทธิสมบัติ กรรมการอิสระ