ข่าวดีหายไปไหนหมด!

ดูเหมือนสัปดาห์นี้จะไม่ค่อยมีข่าวดีให้นักลงทุนได้ชื่นใจสักเท่าไหร่! ทั้งที่เป็นช่วงที่บริษัทต่าง ๆ กำลังโชว์ความแข็งแกร่งของผลประกอบการ


ดูเหมือนสัปดาห์นี้จะไม่ค่อยมีข่าวดีให้นักลงทุนได้ชื่นใจสักเท่าไหร่! ทั้งที่เป็นช่วงที่บริษัทต่าง ๆ กำลังโชว์ความแข็งแกร่งของผลประกอบการ “โมนิก้า” เลยมีอาการห่อเหี่ยวไปกับเขาด้วย เพราะความหวังที่จะได้เห็นดัชนีขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,600 จุด มีอันต้องยืดเวลาออกไปอีก จนไม่รู้ว่า ตลาดหุ้นจะสลัดจากอาการเดี้ยงอย่างถาวรเมื่อไหร่? หลังหุ้นบลูชิพขึ้นสามสี่ช่องแล้วเซถลาประจำน่ะซี

ยิ่งพรายกระซิบเม้าท์ถึงพอร์ตมาร์จิ้นของบรรดาขาใหญ่ลดฮวบอย่างน่าใจหาย ยิ่งเป็นการตอกย้ำความไม่มั่นใจในการลงทุนเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ และเรื่องนี้จะนำไปสู่การขายรอบใหม่อย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะระดับที่เล่นตรงนี้เป็นการเด้งรับงบไตรมาส 2 อย่างเป็นทางการไปแล้ว และต่อจากนี้จะเป็นการเล่นบนความคาดหวังงบไตรมาส 3 ซึ่งหลายคนกังวลว่า อาจออกมาต่ำกว่าที่คาดไงล่ะคะ

จุดที่น่าสนใจของประเด็นข้างต้นอยู่ที่เรื่องราวเมื่อสัปดาห์ก่อนยังดีอยู่ พอเปิดหัวสัปดาห์ใหม่กลับตาลปัตรเป็นหนังคนละม้วนไปได้ “โมนิก้า” ถึงรู้สึกสับสนอย่างบอกไม่ถูก และต้องปล่อยให้ตลาดหุ้นแทงกั๊กต่อไป เพราะตัวแปรที่จะทำให้ตลาดหุ้นไต่เพดานสูงขึ้นอย่างแข็งแกร่ง มีอาการผันผวนหนักจนจับต้นชนปลายไม่ถูก ดัชนีถึงทรุดฮวบลงไปถึง 11 จุด ก่อนจะเป็นช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย ดัชนีก็ตีกลับขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,608.87 จุด บวกไป 7.78 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.32 หมื่นล้านบาทชนิดที่เดี๊ยนงงเป็นไก่ตาแตกพะยะค่ะ

เหมือนกับแรงขายที่ถล่มใส่หุ้น IVL ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เหมือนเป็นภาพที่ย้ำหัวหมุดว่า ฝรั่งไม่เล่นจริง ๆ ถึงปล่อยให้ราคาหุ้นร่วงจากยอด 52 บาทลงมาเรื่อย ๆ จนวานนี้ลงมายืนปิดที่ระดับ 42.75 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไป 0.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.56 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการยืนปิดใกล้แนวรับ 2 ครั้งก่อนพอดีแบบนี้..มันเสียวซ่านเหลือเกิน เพราะสถานการณ์ตอนนี้มีโอกาส “เด้งกลับ” พอ ๆ กับ “ไหลต่อ” น่ะซี

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” นึกถึงหุ้น DOHOME ขึ้นมาในทันที เพราะอาการไหลลงตลอดเวลา ท่ามกลางกำไรหดตัวต่อเนื่อง จึงเป็นเรื่องยากที่จะเห็นหุ้นเด้งกลับขึ้นไปใหม่ ผนวกกับภาวะเศรษฐกิจก็ไม่เป็นใจเสียด้วย เลยต้องหันไปมองที่แนวรับเก่าครั้งก่อนที่บริเวณ 14 บาทเป็นการทดแทน หลังราคาหุ้นร่วงลงมาปิดที่ 15 บาท ลบไป 0.30 บาท หรือลงไป 1.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 130 ล้านบาทแล้วนะจ๊ะ

ส่วนรายที่มีข่าวดีท่วมบริษัท แต่ราคาหุ้นกลับไม่ตอบรับ “โมนิก้า” ต้องส่องกล้องมองไปที่หุ้น GUNKUL เพื่อชี้ให้เห็นสถานการณ์ของหุ้นในช่วงหลังเป๋หนักเหลือเกิน แถมวงรอบของการเด้งขึ้นก็ไม่ยาวเสียด้วย ส่งผลให้โมเมนตัมของหุ้นโน้มเอียงไปทางฐานต่ำลง เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับประเมินการยืนปิดที่ระดับ 5.05 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 1% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 274 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 21 เท่า มีอะไรที่ต้องกังวลไหม?

สำหรับรายที่น่าเป็นห่วง ต้องมองไปที่หุ้นปลากระป๋อง TU เพราะตัวเลขกำไรไม่มาตามนัด จึงโดนขายตั้งแต่ต้นปี และพยายามตีตื้นเป็นระยะ สุดท้ายก็ต้านแรงขายไม่ไหว จนลงไปทำโลว์ที่บริเวณ 15.20 บาท  แต่ก็วิ่งกลับขึ้นมาป้วนเปี้ยนแถว 16 บาทได้สักพักหนึ่ง “โมนิก้า” ถึงอยากถามแฟนคลับว่า การยืนปิดเสมอตัวที่ระดับ 16.60 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 472 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 9 เท่า พ่วงกับยีลด์ 3.50% น่าซื้อลงทุนเพื่อลุ้นฟื้นตัวไหมจ๊ะ

ส่วนรายที่โคม่าของจริง และโดนทิ้งลูกเดียว คงไม่มีใครเกินหน้าไปกว่า BBGI เพราะราคาหุ้นไหลลงอย่างเดียวนับตั้งแต่เข้าเทรด 17 มี.ค. 65 ซึ่งตอนนั้นขายไอพีโอที่ราคา 10.50 บาท ขณะที่ราคาล่าสุดยืนที่ระดับ 7.50 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 2.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.50 ล้านบาท ท่ามกลางสถานการณ์ไม่สู้ดีสักอย่างแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นจังหวะที่ต้องถอยฉากเพื่อดูผลงานที่เหลือของปีมีโอกาสฟื้นตัวแรงไหม? ต่อจากนั้นค่อยเข้าซื้อ ก็คงไม่สายเกินไปหรอกค่ะ

ตบท้ายกันที่ข่าวดีของ TAKUNI กันดีกว่า เพราะข่าวล่ามาแรงในหมู่ขาเม้าท์พูดถึงกลุ่มทุนอสังหาฯ ประกาศรวบหุ้นจากกลุ่มเจ้าของที่เฮีย “ประเสริฐ” ถือหุ้นใหญ่มากถึง 35% พร้อมกับมีการเคาะราคาซื้อยกล็อตที่ 2 บาทอีกด้วย วานนี้จึงเห็นราคาหุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 2.36  บาท บวกไป 0.45 บาท หรือขึ้นไป 23.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 828 ล้านบาทแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเกมแบ็กดอร์ที่นักเล่นให้แวลูกลุ่มทุนใหม่ค่อนข้างสูง ส่วนราคาหุ้นจะ “ได้ไปต่อ” หรือ “พอแค่นี้” คงต้องตามไปดูกันเอาเอง!..เพราะเดี๊ยนก็ฟังเขามาอีกที..อิอิอิ

Back to top button