พาราสาวะถี

ในฐานะที่อยู่ในแวดวงการเมืองมาก่อน คลุกคลีกับนักการเมืองมาหลายรูปแบบ พี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ย่อมมองทิศทางการเมืองในการเลือกตั้งครั้งหน้าได้


จับตาดูกันว่าการประชุมรัฐสภาที่ ชวน หลีกภัย นัดหมายด่วนเพื่อถกร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และว่าด้วยพรรคการเมือง กฎหมายลูก 2 ฉบับ โดยเฉพาะร่างกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะครบกรอบ 180 วันภายในเที่ยงคืนวันนี้นั้น การประชุมจะเรียบร้อย องค์ประชุมจะครบจนสามารถนำไปสู่การพิจารณาถึงขั้นลงมติได้หรือไม่ ถ้าถึงปลายทางทั้ง ส.ส.รัฐบาลโดยเฉพาะพรรคสืบทอดอำนาจและ ส.ว.ลากตั้งต้องเลือกว่าจะรับหรือไม่รับสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อหาร 500

เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงของการประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่าทางพรรคแกนนำรัฐบาลได้มีการเช็กรายชื่อกันเป็นรายตัวเพื่อที่จะไม่ให้มีการไปแสดงตัวเป็นองค์ประชุม แต่หนนั้นมี ส.ส.จำนวนมากที่ลาการประชุมด้วยเหตุที่ตรงกับวันกำนัน ผู้ใหญ่บ้านยังพอจะอ้างกันได้ แต่สำหรับหนนี้ไม่มีปัจจัยอะไรที่จะใช้อ้างได้ ต้องดูว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร ที่แน่ ๆ พรรคเพื่อไทยประกาศชัดว่าจะไม่ร่วมแสดงตัวเป็นองค์ประชุมเด็ดขาด เพราะไม่ยอมรับกับสูตรหาร 500 อยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ปมปัญหาของการกลับไปกลับมาเรื่องสูตรหาร 500 กับ 100 จนเป็นที่มาของการปล่อยข่าวว่าการเลือกวิธีให้สภาล่มเพื่อร่างกฎหมายจะไม่ทันกรอบเวลาที่ต้องพิจารณานั้น เป็นการรวมหัวสมคบคิดกันระหว่างพรรคสืบทอดอำนาจกับพรรคเพื่อไทย โดยพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ใช้คนเดินเกมบอกใบ้อักษรย่อกันว่า พ. ซึ่งไม่ต้องไปเดาอะไรกันให้เมื่อยตุ้ม หมายถึง พลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร.น้องชายของหัวหน้าพรรคแกนนำรัฐบาลนั่นเอง

ทั้งที่ความจริง วงในฝ่ายกุมอำนาจเองต่างรู้กันดีว่า ที่มีการกล่าวหากันนั้นเป็นเรื่องทำลายความน่าเชื่อถือของพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.โดยตรง เพราะประเด็นหาร 100 นั้นฝั่งเพื่อไทยยืนยันเลือกสูตรนี้มาโดยตลอด และแสดงท่าทีชัดเจนว่าไม่เอาด้วยกับสูตรหาร 500 ดังนั้น วิธีการไม่แสดงตัวเป็นองค์ประชุมจึงเป็นหนทางที่เลือกใช้ ส่วนการปล่อยข่าวลากเอาน้องชายของหัวหน้าพรรคสืบทอดอำนาจเข้ามาอยู่ในเกมนี้ด้วยนั้น ว่ากันว่า ทำให้พี่ใหญ่ควันออกหู เรื่องภาพที่สร้างว่าจะรักกันจนวันตายนั้นมันจึงเป็นการโกหกทั้งเพ

ในฐานะที่อยู่ในแวดวงการเมืองมาก่อน คลุกคลีกับนักการเมืองมาหลายรูปแบบ พี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ย่อมมองทิศทางการเมืองในการเลือกตั้งครั้งหน้าได้ควรจะเดินกันอย่างไร เหตุผลสำคัญที่ทำให้ต้องพลิกกลับมาใช้สูตรหาร 100 นั้นเป็นเพราะสื่อและพวกทำไอโอของน้องเล็กยังคงโจมตีพี่ใหญ่ไม่เลิก เป้าหมายการยึดกุมพรรคสืบทอดอำนาจนั้นยังไม่ลดราวาศอก ขณะเดียวกันประเด็นสำคัญเกิดการ “เบี้ยว” เรื่องปรับ ครม.ที่สัญญากันไว้ในช่วงศึกซักฟอก จึงทำให้ต้องเอาคืนกันทันควัน

อย่างไรก็ตาม อีกเหตุผลที่ทำให้พี่ใหญ่ต้องการใช้สูตรหาร 100 ไม่ใช่เพราะมีความมั่นใจว่าพรรคสืบทอดอำนาจยังคงกุมความได้เปรียบ หากแต่ต้องการที่จะตัดวงจรแจกกล้วยให้รู้แล้วรู้รอด เพราะขืนใช้สูตรหาร 500 แล้วได้จำนวน ส.ส.มาเหมือนการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ไม่ใช่ว่ามีกลไกของขบวนการสืบทอดอำนาจที่วางไว้แล้วทุกอย่างจะเป็นของตาย น้องเล็กของตัวเองได้เสวยสุขอยู่ในอำนาจอย่างสบายใจเฉิบ ทุกอย่างคือการลงทุน ยิ่งลงทุนกับนักเลือกตั้งด้วยแล้วต้องออกแรงและใช้กระสุนมหาศาล

ด้วยเหตุนี้พี่ใหญ่จึงต้องการจะสลัดหนีสิ่งนี้ การหันไปหนุนสูตรหาร 100 ทั้งที่รู้ทั้งรู้ว่ามีโอกาสที่จะทำให้พรรคคู่แข่งสำคัญเดินไปสู่เป้าหมายแลนด์สไลด์ได้นั้น มันไม่ใช่ปัญหาสำคัญอีกต่อไป เพราะถ้าเป็นไปตามสมการการเมืองที่ประชาชนต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลง หมายความว่า หลังเลือกตั้งครั้งหน้าน้องเล็กต้องไม่ได้กลับมาเป็นผู้นำประเทศอีก แม้พรรคสืบทอดอำนาจจะไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ถ้ามีจำนวน ส.ส.ที่มากพอ ก็สามารถเป็นพรรคร่วมรัฐบาลได้

สูตรการเมืองนี้จะมีเพื่อไทย พลังประชารัฐและภูมิใจไทย ที่คอการเมืองลองคำนวณกันเล่น ๆ อาจได้เสียง ส.ส.ที่ทำให้เป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพมั่นคง โดยผลักให้ประชาธิปัตย์ไปเป็นฝ่ายค้านตามความถนัดร่วมกับพรรคก้าวไกล เหตุผลที่พรรคร่วมฝ่ายค้านที่กอดคอกันเดินอยู่ในปัจจุบันจะไม่ได้ร่วมบริหารบ้านเมืองนั้น เป็นเรื่องของแนวคิดและวิธีการทำงานที่ฝ่ายเสียงข้างมากมองว่าถ้าจับมือกันแล้วมีแต่จะสร้างปัญหา และท้ายที่สุดอาจนำไปสู่ทางตันทางการเมืองจากพวกเดียวกันได้

แต่ก็ไม่แน่การเมืองที่ไม่มีมิตรแท้ศัตรูถาวร มีผลประโยชน์ร่วมกัน เห็นตรงกันคือมิตร  ผลประโยชน์ขัดกันก็กลายเป็นศัตรู อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น แต่สิ่งที่เชื่อกันว่าจะเกิดขึ้นแน่นอนคือ ทางเดินของ 3 พี่น้องแก๊ง 3 ป.ในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป การปล่อยข่าวที่ว่าพี่ใหญ่ส่งน้องชายไปเจรจานั้น อาจไม่ใช่เรื่องสูตรหารร้อยหรือห้าร้อย แต่เป็นเรื่องของอนาคตที่จะจับมือกันตั้งรัฐบาล บนความเชื่อและมองทะลุว่ายังไงเลือกตั้งครั้งหน้าน้องเล็กก็ขายไม่ได้อย่างแน่นอน

สิ่งสำคัญอีกประการที่ทำให้การประสานความร่วมมือระหว่างสองพรรคทั้งที่ต่างขั้วกันชัดเจนมีความเป็นไปได้นั้น ต้องไม่ลืมเป็นอันขาดว่าพรรคสืบทอดอำนาจนั้นมี ส.ส.และผู้บริหารพรรคจำนวนมากที่ถูกดูดมาด้วยสารพัดวิธีจากพรรคนายใหญ่ เมื่อมีแนวทางที่จะทำงานร่วมกันในอนาคต คนที่เป็นสายตรงและมือไม้สำคัญของพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.จึงกระดี๊กระด๊ากับดีลแบบนี้เป็นพิเศษ รวมไปถึงหากสถานการณ์ทางการเมืองมันนักหนากว่าที่คิด การที่คนเหล่านั้นจะหันกลับไปซบอกบ้านหลังเดิมก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน

ขณะที่สองพรรคใหญ่มีโอกาสที่จะจูบปากกัน ทว่าสองพรรคร่วมรัฐบาลสำคัญก็เปิดหน้าท้าชนกันดุ อย่างที่บอกว่านอกจากพรรคสืบทอดอำนาจแล้ว ภูมิใจไทยคือผู้ท้าชิงสำคัญในสนามภาคใต้อันเป็นจุดแข็งของพรรคประชาธิปัตย์ ซัดกันเดือดขนาดไหนก็ขนาดที่ อนุทิน ชาญวีรกูล ลงพื้นที่เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พังงา พร้อมประกาศกวาดเรียบ ส.ส.จังหวัดฝั่งอันดามัน และยังใช้วลีแรงเจ้าของพื้นที่เดิม “เป็นสุนัขไม่เข้าใจราชสีห์” ด้าน จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคเก่าแก่ที่ลงพื้นที่เหมือนกันก็สวนกลับไม่เสียเวลากับ “คนช่างพูด” นี่ไงตัวอย่างการเมืองเรื่องผลประโยชน์คนที่พร่ำบอกว่ารักกันดียังกรีดกันเลือดซิบขนาดนี้

Back to top button