PTT ยังคงเป็นพานทองแท้

งบการเงินไตรมาสสอง ของบริษัทน้ำมันแห่งชาติอย่าง PTT ยังคงเดินหน้าสวยงามตามคาดจากผลพวงของขาขึ้นจากราคาน้ำมันและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมตามคาดหมาย


งบการเงินไตรมาสสอง ของบริษัทน้ำมันแห่งชาติอย่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ยังคงเดินหน้าสวยงามตามคาดจากผลพวงของขาขึ้นจากราคาน้ำมันและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมตามคาดหมาย

กำไรก่อนหักภาษีและต้นทุนทางการเงิน (EBITDA) จำนวน 182,768 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้นมากมายถึงร้อยละ 61.5 จากไตรมาส 2 ปี 2564 จากกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นเพิ่มขึ้นโดยธุรกิจการกลุ่มนี้มีผลการดำเนินงาน เพิ่มขึ้นจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ สูงขึ้นมากและปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น ที่สำคัญ มีกำไรสต๊อกน้ำมันเพิ่มขึ้นรวมประมาณ 7,000 ล้านบาท ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้นในอัตราที่มากกว่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

รายได้นี้ สวนทางกับผลการดำเนินงานของธุรกิจปิโตรเคมีปรับตัว ลดลงจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบทั้งสายโอเลฟินส์และอะโรเมติกส์ที่ปรับตัวลดลง และปริมาณขายที่ลดลงจากการปิดซ่อมบำรุงตามแผนของโรงปิโตรเคมี

ในขณะเดียวกันกำไรจากต้นทางของกลุ่มธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมมีผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นตามราคาขายเฉลี่ยและปริมาณขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น สวนทางกับกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐานส่งผลให้กำไรรวมของบริษัทแม่ที่เป็นโฮลดิ้งอย่าง ปตท. และบริษัทย่อย ไตรมาสนี้ จำนวน 38,848 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 58.1

กำไรที่ก้าวกระโดดนี้ ถือเป็นเรื่องที่ทั้ง “เก่ง” และ “เฮง” ที่ไม่อาจจะถูกกล่าวหาว่าค้ากำไรจากการผูกขาด เกินควรเหมือนในอดีตได้อีก และทำให้แผนงานการลงทุนข้างหน้าสดใสมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในธุรกิจเพื่ออนาคต คือการผลิตและประกอบรถยนต์ใช้ที่ยังต้องทดสอบความสำเร็จของโมเดลธุรกิจต่อไป

กำไรที่โดดเด่นของ PTT ครึ่งแรกของปีที่สวยงามนี้ แม้จะถูกรบกวนจากกำไรของหุ้นในเครือกลุ่มปิโตรเคมีช่วงขาลงอย่าง PTTGC ที่กำไรหดหายไปเยอะ นอกจากทำให้หุ้น PTT กลายเป็นพานทองแท้อย่างแท้จริงแล้ว น่าจะส่งผลต่อท่าทีของนักลงทุนในตลาดหุ้นเกี่ยวกับการถือหุ้นในอนาคตอีกยาวนาน เพราะธุรกิจพลังงานยังมีกำไรงดงาม สวนทางกับเศรษฐกิจโดยรวม เช่นเดียวกับกลุ่มธนาคาร ที่กลับมามีกำไรโดดเด่นอีกครั้งหลังยุคโควิด-19 บรรเทาความรุนแรงลง

กำไรที่โดดเด่นของ PTT ที่ทำให้ราคาทางบัญชีกระโดดขึ้นมาอยู่ที่ 37.60 บาท ทำให้ราคาที่ซื้อขายกันแถว ๆ นี้ค่อนข้างต่ำเพียงแค่เท่ากับบุ๊ก และค่าพี/อีอยู่ที่ 6 เท่าเศษ ๆ ถูกที่สุดในรอบ 5 ปีเลยทีเดียว

ไม่ซื้อไว้ถือก็ “มึนชา” และหลงทาง เกินไปแล้ว

Back to top button