D-LDC กำไรเคลือบฟลูออไรด์.!

หลังจากก่อนหน้านี้สองหุ้นหมอฟัน D และ LDC มีสภาพไม่ต่างจากผู้ป่วยที่มีอาการเหงือกบวมเรื้อรัง จากผลประกอบการที่ขาดทุนซ้ำซากมานานหลายปี...


หลังจากก่อนหน้านี้สองหุ้นหมอฟัน บริษัท เดนทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ D และบริษัท แอลดีซี เด็นทัล จำกัด (มหาชน) หรือ LDC มีสภาพไม่ต่างจากผู้ป่วยที่มีอาการเหงือกบวมเรื้อรัง จากผลประกอบการที่ขาดทุนซ้ำซากมานานหลายปี…มิหนำซ้ำยังมาเจอแรงกระแทกจากโควิดอีก ยิ่งไปกันใหญ่..!!

โดย D ปี 2562 มีรายได้รวม 781 ล้านบาท ขาดทุน 15 ล้านบาท ส่วนปี 2563 มีรายได้รวม 578 ล้านบาท ขาดทุนลดลงเหลือ 7 ล้านบาท ขณะที่ปี 2564 มีรายได้รวม 534 ล้านบาท แต่ขาดทุนเพิ่มเป็น 24 ล้านบาท

ฟาก LDC ชะตากรรมก็ไม่แตกต่างกัน ปี 2562 รายได้รวม 548 ล้านบาท ขาดทุน 27 ล้านบาท ปี 2563 มีรายได้รวม 427 ล้านบาท ขาดทุนลดลงเหลือ 17 ล้านบาท ส่วนปี 2564 มีรายได้รวม 372 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มเป็น 23 ล้านบาท

แต่ดูเหมือนอาการเหงือกบวมของ D และ LDC เริ่มดีขึ้น หลังจากโควิดคลี่คลาย ทำให้คนกล้าออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้น ในขณะที่การดูแลสุขภาพช่องปากและฟันเป็นความจำเป็นขั้นพื้นฐานของคนทั่วไป ทำให้มีลูกค้ากลับมาใช้บริการทันตกรรมมากขึ้น…

เห็นชัดเจนจากงบไตรมาส 2/2565 ของ D ที่พลิกมามีกำไรสุทธิ 15 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 11 ล้านบาท…

สาเหตุมาจากรายได้จากการให้บริการทันตกรรมเพิ่มขึ้น 111% อยู่ที่ 129 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากลูกค้าคนไทย 71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63% และรายได้จากลูกค้าต่างชาติ 56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 222% โดยลูกค้าต่างชาติส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยว ภายใต้มาตรการ Test&Go และเข้ามาใช้บริการทันตกรรมของบริษัท

ประกอบกับ D มีการปรับกลยุทธ์ทางการตลาด หันมาจับกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง ด้วยการเปิดโรงพยาบาลทันตกรรม กรุงเทพ อินเตอร์เนชั่นแนล (BIDH) ที่เน้นกลุ่มลูกค้าคนไทยที่มีรายได้สูง ผู้บริหารชาวต่างประเทศที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย และกลุ่มนักท่องเที่ยว ทำให้ในไตรมาสนี้สามารถสร้างรายได้จำนวน 25 ล้านบาท เพิ่มจาก 12 ล้านบาท ในไตรมาส 2/2564

ส่งผลให้งบครึ่งปีแรกของ D พลิกมามีกำไรสุทธิ 23 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 13 ล้านบาท

ด้าน LDC ซึ่งจับตลาดกลุ่มลูกค้าทั่วไป ก็ทำผลงานได้ดีไม่แพ้กัน พลิกมามีกำไร 18 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 10 ล้านบาท

โดยมีรายได้จากการดำเนินงาน 124 ล้านบาท เติบโต 61.45% เป็นผลมาจากการปรับโครงสร้างต้นทุนให้เหมาะสมกับธุรกิจมากขึ้น ประกอบกับการผ่อนคลายมาตรการโควิด รวมทั้งการลงทุนยกระดับห้องฟันให้เทียบเท่าห้องผ่าตัด ด้วยการติดตั้งระบบหมุนเวียนอากาศ “LDC Next Normal Air Change” เทคโนโลยีไร้สัมผัส (No Touch) และระบบฆ่าเชื้อด้วยรังสี UV-C ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ ส่งผลให้มีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น

ทำให้งบงวด 6 เดือนแรกปีนี้ ตุนกำไรไว้แล้ว 28 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 18 ล้านบาท

กลายเป็นว่า ไตรมาส 2 ปีนี้ ทั้ง D และ LDC กำไรเคลือบฟลูออไรด์กันถ้วนหน้า..!!

ซึ่งถ้าไม่สะดุดยอดหญ้าไปซะก่อน ปีนี้สองหุ้นหมอฟันก็น่าจะหายจากอาการเหงือกบวมเรื้อรังสักที หรือเห็นการเทิร์นอะราวด์นั่นเอง..!!

แต่จะหายเหงือกบวมแบบถาวรหรือชั่วคราวอ๊ะเปล่า..? อันนี้มิอาจทราบได้

คงอยู่ที่ฝีมือการบริหาร…อุ้ย การรักษาของทันตแพทย์แล้วล่ะ..!!?

…อิ อิ อิ…

Back to top button