MINT จะพลิกมีกำไร!

จากสถานการณ์โควิดที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ MINT ซึ่งทำธุรกิจร้านอาหารและโรงแรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ กลับมาเติบโตโดดเด่นอีกครั้ง


คุณค่าบริษัท

จากสถานการณ์โควิดที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ทำให้บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ซึ่งทำธุรกิจร้านอาหารและโรงแรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ กลับมาเติบโตโดดเด่นอีกครั้ง สะท้อนได้จากงบไตรมาส 2/2565 ที่พลิกมามีกำไรสุทธิ 1,561 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 3,923 ล้านบาท

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไมเนอร์ โฮเทลส์ ซึ่งพลิกฟื้นกลับมาสร้างผลกำไรอย่างแข็งแกร่งในไตรมาสนี้ จากการที่กลุ่มโรงแรมในทวีปยุโรปมีผลการดำเนินงานที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และสูงกว่าระดับก่อนการระบาดของโควิดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการระบาด ในขณะที่ ไมเนอร์ ฟู้ด ยังคงสร้างผลกำไรอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 8 และมีรายได้รวม 32,212 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 105% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 15,721 ล้านบาท

โดยสัดส่วนรายได้ในช่วงไตรมาส 2/2565 เป็นธุรกิจโรงแรมกว่า 70% ธุรกิจร้านอาหาร ประมาณ 20% และธุรกิจไลฟ์สไตล์ ประมาณ 2%

ส่งผลให้งวด 6 เดือนแรกของปี 2565 มีผลขาดทุนสุทธิ 2,232 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 11,173 ล้านบาท และมีรายได้รวม 52,939 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 87% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 28,340 ล้านบาท เนื่องจากการผ่อนคลายข้อจำกัดในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิดในทุกตลาดหลักของบริษัท ส่งผลให้บริษัทมีผลการดำเนินงานที่ฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ แนวโน้มธุรกิจในช่วงไตรมาส 3/2565 ยังมีทิศทางที่ดี จากความมั่นใจในการเดินทางที่มากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะการเดินทางในเชิงธุรกิจ ที่มาต่อยอดการเดินทางในเชิงสันทนาการ ที่มีการจัดประชุม จัดอีเวนต์มากขึ้น ประกอบกับเป็นช่วงไฮซีซัน คาดจะเห็นการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น ทำให้ผู้บริหารมั่นใจว่าปีนี้ MINT จะพลิกมามีกำไรได้อย่างแน่นอน

สอดคล้องกับ บล.ดาโอ ที่ประเมินกำไรสุทธิในปี 2565 ของ MINT อยู่ที่ 932 ล้านบาท ฟื้นตัวดีจากปี 2564 ที่ขาดทุนสุทธิ 1.4 หมื่นล้านบาท ขณะที่คาดกำไรในไตรมาส 3/2565 จะยังฟื้นตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนได้ต่อเนื่องจากการฟื้นตัวทั้งในไทยและการเติบโตต่อเนื่องในยุโรป

รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่

  1. บริษัท ไมเนอร์ โฮลดิ้ง (ไทย) จำกัด 824,844,497 หุ้น 15.81%
  2. นายนิติ โอสถานุเคราะห์ 497,600,851 หุ้น 9.54%
  3. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 474,025,221 หุ้น 9.08%
  4. UBS AG SINGAPORE BRANCH 340,582,203 หุ้น 6.53%
  5. SOUTH EAST ASIA UK (TYPE C) NOMINEES LIMITED 177,630,568 หุ้น 3.40%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายวิลเลียม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค ประธานกรรมการ, ประธานกรรมการบริหาร
  2. นายเอ็มมานูเอล จู๊ด ดิลิปรัจ ราชากาเรีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท, กรรมการ
  3. นายอานิล ธาดานี่ กรรมการ
  4. นายธีรพงศ์ จันศิริ กรรมการ
  5. นายจอห์น สก็อต ไฮเน็ค กรรมการ
  6. นายนิติ โอสถานุเคราะห์ กรรมการ
  7. นายอันฮุล เชาฮัน กรรมการ
  8. น.ส.สุวภา เจริญยิ่ง กรรมการอิสระ, ประธานกรรมการตรวจสอบ
  9. นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ
  10. น.ส.คามิลล์ มา กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ
  11. นายไมเคิล เดวิด เซลบีย์ กรรมการอิสระ

Back to top button