ใครดักเก็บหุ้น KTB

ราคาหุ้นแบงก์กรุงไทย หรือ KTB วิ่งขึ้นมาได้เรื่อย ๆ หากย้อนกลับไปดูราคาหุ้น ณ สิ้นเดือน สิงหาคม 2564 และมาเทียบกับสิ้นเดือน สิงหาคม 2565


ราคาหุ้นแบงก์กรุงไทย หรือ KTB วิ่งขึ้นมาได้เรื่อย ๆ

หากย้อนกลับไปดูราคาหุ้น ณ สิ้นเดือน สิงหาคม 2564 และมาเทียบกับสิ้นเดือน สิงหาคม 2565

ราคาหุ้นกรุงไทยวิ่งขึ้นมาแล้ว 54%

แม้ว่าในช่วง 1 ปี ที่ผ่านมาจะมีแรงขายออกมาบ้าง

ทว่า น่าจะเป็นการขายทำกำไรหรือ “ปรับพอร์ต” แล้วกลับเข้ามาซื้อใหม่มากกว่าที่จะขายทิ้ง

ล่าสุด วานนี้ราคาหุ้นกรุงไทยขึ้นมาปิด 16.90 บาท เป็นราคาที่ขึ้นมาสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี

ในแง่ของสัญญาณทางเทคนิค กราฟค่อนข้างสวยมาก เป็นขาขึ้นมาโดยตลอด

ยิ่งในช่วง 6-7 วัน (ทำการ) ย้อนหลัง

ไม่มีวันไหนที่ราคาลงมาปิดในแดนลบ

อย่างมากเป็นราคาปิดเท่ากับวันก่อนหน้า

แม้ว่าราคาจะวิ่งขึ้นมาต่อเนื่อง ผ่านแนวต้านสำคัญได้หลายด่าน

แต่ระดับ 16.90 บาท ถือเป็นความท้าทาย และต้องลุ้นกันอย่างมากว่าจะผ่านไปได้หรือไม่

เพราะหากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้

หลังจากราคาหุ้นหลุดจากระดับ 17.00 บาท เมื่อประมาณ 3 ปีก่อน

ราคาได้พยายามไต่ระดับกลับขึ้นมาหลายครั้ง เพื่อให้กลับไปยืนเหนือ 17.00 บาท

แต่จนแล้วจนรอดไม่สามารถผ่านได้

ก่อนที่จะค่อยร่วงลงต่อเนื่อง และลดลงไปต่ำกว่า 10.00 บาท

กระทั่งกลับมาดีดกลับได้อย่างแข็งแกร่ง

หากดูจากบทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ต่าง ๆ

จะเริ่มพบว่า นักวิเคราะห์เริ่มให้ความสำคัญกับหุ้นกรุงไทย พร้อมกลับยกขึ้นมาเป็นหุ้นเด่นของกลุ่มธนาคาร

ปัจจัยหนุนสำคัญมาจากตัวเลขสำคัญทางการเงินปรับดีขึ้นมาก

NPL coverage Ratio ล่าสุด คือ 170% และ BIS Ratioระดับ 18% (+/-) สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคาร สะท้อนถึงการยกการ์ดแน่น หรือมีเงินกองทุนสุดแกร่ง

หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL ยังถูกควบคุมได้ตามเป้าหมาย ต่ำกว่า 3.5%

ส่วนปีนี้ สินเชื่อจะขยายตัวได้มากกว่า 4-5%

โอกาสทางธุรกิจจากสินเชื่อขยายตัว แนวโน้มหนี้เสียลดลง รายได้ค่าฟีเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ฯลฯ

ปัจจัยเหล่านี้ น่าจะทำให้กลุ่มนักลงทุนที่มองเห็นโอกาส เข้ามาทยอยสะสมหุ้นกรุงไทยเข้าพอร์ต นับจากช่วงต้นปี 2565 และเข้ามาเก็บมากขึ้นในช่วงเดือน กรกฎาคม 2565 เป็นต้นมา

ส่งผลให้ราคาหุ้นทะยานขึ้นมาอย่างที่เห็น

แน่นอนว่ากลุ่มนักลงทุนที่เข้ามาเก็บหุ้นบิ๊กแคป

พร้อมกับช่วยดันราคาขึ้นมาได้มากขนาดนี้

ต้องมีเงินบนหน้าตักระดับหลักหมื่นล้านบาท ซึ่งไม่น่าจะพ้นนักลงทุนต่างประเทศ เพราะที่ผ่านมา ต่างชาติเข้ามาเก็บหุ้นแบงก์ต่อเนื่อง จึงมีความเป็นไปได้ที่น่าจะเก็บเกี่ยวงกรุงไทยเข้าไปในพอร์ตด้วย

ล่าสุด บล.กรุงศรี ให้ราคาเป้าหมายกรุงไทยไว้ 21.00 บาท

บล.เมย์แบงก์ ให้ไว้ 19.00 บาท

บล.โนมูระ พัฒนสิน ที่ราคา 20.00 บาท

FSSIA ได้ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 20.00 บาท เช่นกัน

จากวันนี้ไป ต้องมาลุ้นกันว่า หุ้นกรุงไทยยังจะถูกซื้อสะสมต่อไปหรือไม่

และราคาจะผ่านแนวต้าน 17.00 บาทได้อีกครั้งหรือเปล่า

Back to top button