ดับเบิลท็อป..เพื่อไปต่อ?

ดูเหมือนตลาดหุ้นไทยจะมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่ง ถึงทำให้ดัชนียืนต้านแรงขายได้อย่างยอดเยี่ยมและพยายามเทคตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 1,650 จุด


ดูเหมือนตลาดหุ้นไทยจะมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่ง ถึงทำให้ดัชนียืนต้านแรงขายได้อย่างยอดเยี่ยม และพยายามเทคตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญทางจิตวิทยา 1,650 จุดเป็นครั้งที่สอง ซึ่งในทางเทคนิคเรียกอาการแบบนี้ว่า double top และตีความได้ 2 แบบคือ “ไปต่อ” กับ “ลงใหม่” จึงเป็นเกมที่ต้องดูกันยาว ๆ เพราะมันคือจุดเปลี่ยนสำหรับนักลงทุนที่เน้นเล่นรอบไงละคะ

ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” เลือกที่จะเชื่อว่า “ไปต่อ” เพราะเมื่อดูจากแรงซื้อของฝรั่งหัวทองที่เข้ามาเป็นระลอก และยังไม่มีทีท่าจะขายทิ้งแบบจัดหนัก จึงกลายเป็นแรงส่งให้ดัชนีเดินหน้าขึ้นไปอีกสเต็ป และการที่ดัชนียืนปิดในระดับ 1,638.93 จุด ลบไป 0.52 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 9.97 หมื่นล้านบาท น่าจะเป็นภาพสะท้อนที่ย้ำให้ทุกคนเห็นว่า การเล่นตามน้ำสั้น ๆ น่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมในภาวะลงทุนเช่นนี้เจ้าค่ะ

สถานการณ์ดังกล่าวสอดคล้องกับการวิ่งขึ้นของหุ้น CPN ซึ่งเป็นภาพที่ย้ำให้รู้ว่า ฝรั่งเก็บหุ้นเข้าพอร์ตต่อเนื่อง ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้หุ้นวิ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง แม้จะโดนเขย่าเป็นช่วง ๆ แต่ภาพของหุ้นก็ยังเป็น “ไซด์เวย์อัพ” เดี๊ยนถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 69.25 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 1.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.24 พันล้านบาท คือบันไดที่จะทำให้หุ้นขึ้นไปทดสอบยอดแรกที่บริเวณ 77 บาทนะจะบอกให้

เรื่องราวดังกล่าวคล้ายคลึงกับการไต่ระดับของ COM7 ซึ่งเป็นช็อตที่นักเล่นเข้ามาตะลุมบอนด้วยสตอรี่เปิดตัวไอโฟน 14 ซึ่งจะเป็นตัวปั๊มยอดขายให้พุ่งกระฉูดอีกครั้ง ผสานกับหุ้นกำลังอยู่ในช่วงทำ double top ที่บริเวณ 36 บาท “โมนิก้า” ถึงเชื่อว่า จังหวะนี้น่าลองเสี่ยงดูสักตั้ง เพราะการยืนปิดที่ระดับ 34.50 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 1.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 487 ล้านบาท มีดาวน์ไซด์ต่ำนะจ๊ะ

ส่วนรายที่แล่นฉิวไม่มีเหลียวหลัง “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น FORTH หลังเดินหน้าทำ all time high แบบไม่เหน็ดเหนื่อย ซึ่งเห็นได้จากวานนี้ขึ้นมาปิดที่ 58 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 4% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 416 ล้านบาท พร้อมกับสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ จึงกลายเป็นเรื่องที่น่าติดตามดูว่า เที่ยวนี้จะทะลุ 60 บาทขึ้นไปได้ไหม? หลังกำไรปีนี้มีลุ้นทำนิวไฮเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันน่ะซี

เม้าท์ถึงหุ้นที่กำไรทำนิวไฮขึ้นมาทั้งที และราคาหุ้นกำลังทำ double top ที่บริเวณ 80 บาทเสียด้วย “โมนิก้า” คงเทใจไปที่หุ้น JMT ซึ่งเป็นเจ้าพ่อทวงหนี้เบอร์หนึ่งของประเทศไทย ผสานกับบรรดาแมงลือเม้าท์ให้แซ่ดว่า เตรียมปิดดีลกับแบงก์ยักษ์ใหญ่สีม่วงในเดือนนี้ จึงกลายเป็นช็อตที่น่าตามไปดูแบบสุดซอย เพราะราคาปิดที่ 78 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 1% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 787 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าที่โบรกเกอร์ให้ไว้เยอะจ้า!

นอกจากนี้ยังมีหุ้นทางเลือกอย่าง PTG สอดแทรกขึ้นมาอยู่ในลิสต์ double top ด้วยเช่นกัน “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับประเมินความเป็นไปได้ที่หุ้นจะขึ้นไปทดสอบ 16 บาท เป็นครั้งที่ 2 มีมากแค่ไหน? ผสานกับการที่หุ้นวิ่งมาปิดที่ระดับ 15.30 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 1.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 264 ล้านบาท มันทำให้เชื่อว่า ต้องมีอะไรดีซ่อนไว้เยอะพอสมควร! วอลุ่มช่วงหลังถึงแน่นผิดปกติเจ้าค่ะ

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” นึกถึงหุ้นยางอย่าง STA ขึ้นมาในทันที เพราะการวิ่งของหุ้นมาปิดที่ระดับ 22.60 บาท บวกไป 1.40 บาท หรือขึ้นไป 6.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 395 ล้านบาท ท่ามกลางกำไรต่อหุ้นครึ่งปีแรกอยู่ที่ 1.75 บาท มันทำให้หุ้นตัวนี้น่าสนใจในมุมของ Undervalue ผนวกกับหุ้นตัวนี้ได้ผันตัวเองไปเป็น “หุ้นปันผล” จึงส่งผลให้การเข้าลงทุนบริเวณนี้ไม่เสี่ยงมากเกินไปไงละคะ

ตบท้ายกันที่อาการเสียทรงของหุ้น BGT กันสักหน่อย เพราะการที่หุ้นไหลลงมาเรื่อย ๆ จนวานนี้ไหลพรวดลงมาปิดที่ระดับ 2.14 บาท ลบไป 0.42 บาท หรือลงไป 16.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 196 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นสถานการณ์ที่พวกเดย์เทรดเรียกว่า “วงแตก” แถมปัจจัยพื้นฐานดูไม่ได้เลยสักอย่าง (ขาดทุนเรื้อรัง ยอดขายลด 4 ปีติด) เดี๊ยนถึงกล้าเม้าท์ว่า ต้องตัดใจขายขาดทุนเพื่อไม่ให้ความเสียหายลุกลามมากไปกว่านี้พะยะค่ะ

Back to top button